666

666" เลขประจำตัวซาตานมาจากไหน
 

          ที่มาของเลขซาตาน หรือ 666 นั้นมาจากคำทำนายที่ถกเถียงกันอย่างไม่สิ้นสุดในพระคัมภีร์วิวรณ์ ซึ่งเป็นบทสุดท้ายในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ พระคัมภีร์วิวรณ์เล่าถึงวันสิ้นโลก (Armageddon) ซึ่งเกิดมหาสงครามขึ้นระหว่างความดีและสิ่งชั่วร้าย โดยในที่สุดความดีหรือพระเจ้าจะเป็นผู้ได้รับชัยชนะ ทั้งนี้ในคัมภีร์นี้เรียกซาตานว่าเป็นผู้ต่อต้านพระคริสต์

 

          บทที่ 13 ของคำภีร์วิวรณ์กล่าวถึงเลข 666 อย่างชัดเจน โดยได้บรรยายถึงสัตว์ร้ายหรือซาตานที่มีอำนาจชั่วช้าและคุณลักษณะของเหล่าสาวกของมัน โดยมีตอนหนึ่งระบุว่า บนมือขวาและหน้าผากของพวกมันจะมีเครื่องหมายของซาตานบ่งบอกไว้ ซึ่งก็คือหมายเลข 666 นั่นเอง

 

          นานนับหลายร้อยปีแล้วที่บรรดานักเทววิทยาครุ่นคิดและพยายามตีความภาษาเชิงสัญลักษณ์ที่เต็มไปด้วยคำทำนายเหล่านี้ และยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันถึงความหมายที่แท้จริงของหมายเลขนี้ นักเทววิทยาที่ศึกษาเรื่องวันสิ้นโลกบางกลุ่มตีความว่า "สัตว์ร้าย" คือสิ่งมีชีวิตที่ถูกควบคุมโดยผู้ที่ต่อต้านพระคริสต์ หรือเป็นผู้ต่อต้านพระคริสต์เอง ขณะที่นักวิชาการบางกลุ่มเชื่อว่าหมายเลข 666 ในคัมภีร์วิวรณ์อ้างถึงบุคคลในประวัติศาสตร์ เช่น ดร.เดลเบิร์ต ฮิลเลอร์ ซึ่งเชื่อว่าหมายเลขนี้เป็นรหัสของจักรพรรดิเนโร รวมถึงจักรพรรดิของชาวโรมันองค์อื่นๆ อีก ซึ่งมีเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์สนับสนุนด้วย เนื่องจากจักรพรรดิเหล่านี้ปราบปรามและเข่นฆ่าทั้งชาวยิวและชาวคริสต์ในยุคแรกอย่างหนัก ขณะที่ทราบกันว่า ชน 2 กลุ่มนี้มีชีวิตอยู่รอดด้วยการใช้ตัวเลขและรหัสเพื่อหลบหลีกการถูกประหัตประหารภายใต้การปกครองของจักรพรรดิโรมัน

 

          นอกจากนี้ ยังมีคำถามว่าทำไมถึงต้องเป็นเลข 666 แต่ก็ไม่มีคำตอบที่แน่ชัด บางกลุ่มเชื่อว่า เลข 6 เป็นเลขของมนุษย์ เนื่องจากคัมภีร์ไบเบิลเล่าว่าพระผู้เป็นเจ้าสร้างมนุษย์ในวันที่ 6 ขณะที่ซานตานนั้นถูกระบุว่าเป็นสิ่งมีชวิตที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (ตรงข้ามกับแนวคิดที่พระเจ้าเป็นศูนย์กลาง) ดังนั้น หมายเลขของซาตานน่าจะเกี่ยวพันกับหมายเลขของมนุษย์และเป็นที่มาของหมายเลข 666 อย่างไรก็ตาม คำอธิบายดังกล่าวเป็นเพียงหนึ่งในทฤษฎีที่ถกเถียงกันอย่างไม่มีวันจบเกี่ยวกับเลขนี้เท่านั้น

 

          แต่ที่แน่ๆ มีชาวคริสต์ไม่น้อยที่หวาดหวั่นกับตัวเลขนี้ ไม่แพ้กับเลข 13 จึงไม่น่าแปลกที่ต่างพยายามหลีกเลี่ยงการใช้เลขอาถรรพณ์เหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อบริษัทอินเทลผลิตซีพียูรุ่นเพนเทียม 3 ความเร็ว 666 เมกะเฮิร์สออกมาในปี 1999 ก็ตัดสินใจวางจำหน่ายในชื่อ "Pentium III 667" แทน

 

ข้อมูลจาก ๑๐๘ ซองคำถาม

31 ก.ค. 53 เวลา 01:35 6,540 13 60
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...