เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก zeenam.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ซีแนม AF1 หรือ นางสาวซีแนม สุนทร อายุ 25 ปี ถูกคนร้ายแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกให้โอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม ทำให้สูญเงินจำนวนถึง 160,000 บาท เหตุเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ซีแนม AF1 กล่าวว่า ได้มีคนโทรมาหาตน เป็นหมายเลขยาวมาก ไม่เหมือนเบอร์ปกติ ตอนแรกยังคิดเลยว่าเป็นคอลลิ่ง เมโลดี้ ซึ่งเบอร์ดังกล่าวเขียนไว้ว่า "กันไว้" เมื่อกดรับเสียงจะคล้ายระบบอัตโนมัติของธนาคารกรุงเทพ และแจ้งว่าตอนนี้ตนติดหนี้บัตรเครดิต 47,000 บาท ซึ่งก็ตกใจเนื่องจากไม่เคยใช้บัตรเครดิตเลย โดยคนที่โทรมาบอกว่า ตนรูดบัตรเครดิตไปจริง ๆ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ถ้าไม่จ่ายเงินเราจะหักเงินจากบัญชีของคุณ ถ้าอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมให้กด 1
ด้วยความอยากรู้ ซีแนม เลยกด 1 ตอนนั้นไม่คิดถึงเรื่องมิจฉาชีพเลย อยากจะคุยกับเจ้าหน้าที่มากกว่า เนื่องจากการคุยกับเจ้าหน้าที่ก็เป็นเรื่องปกติที่เคยทำอยู่บ่อย ๆ แถมยังเคยโอนเงินทางโทรศัพท์ และมีเจ้าหน้าที่สอบถามข้อมูลก็เป็นเรื่องปกติ จึงไม่ได้เอ๊ะใจ พอกดไปปลายเสียงตอบว่า "อรวรรณรับสายค่ะ" ซีแนมจึงแจ้งไปต้องการตรวจสอบข้อมูลว่าเราติดหนี้บัตรเครดิตหรือไม่ และคนที่ชื่ออรวรรณก็สอบถามข้อมูลว่าชื่ออะไร และยืนยันกลับมาว่า ตนเองติดหนี้บัตรเครดิตดังกล่าวจริง ๆ แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้ติดหนี้ หลังจากที่คุยกันอยู่สักพัก คนที่ชื่ออรวรรณก็บอกว่า สงสัยตนจะถูกโจรกรรมข้อมูล ซึ่งขณะนั้นแบตโทรศัพท์ตนจะหมด ก็เลยขอเบอร์เจ้าหน้าที่ แต่กลับบอกว่าให้ไม่ได้เนื่องจากป้องกันการโจรกรรมข้อมูล ตนจึงให้เบอร์ส่วนตัวไป จากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็โทรมาอีก บอกว่าต้องการทำการอายัดและล็อคหมายเลขบัญชีเพื่อไม่ให้ถูกกดเงินออกไป พร้อมกับถามว่า ตนมีเงินในบัญชีทั้งหมดเท่าไหร่ ตอน
นั้นไม่ได้คิดว่า คนที่โทรมาเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงเทพ ตนกังวลแต่ว่ากลัวเงินถูกกดออกไป จึงบอกหมายเลขบัญชีทั้งธนาคารกรุงเทพ, บัญชีกสิกร, บัญชีไทยพาณิชย์ ทางคนร้ายก็บอกว่า ให้ตนไปที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพที่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อทำธุรกรรม และทางธนาคารจะทำการอายัดเงินให้ ตนจึงไปที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อยถนนสามัคคี จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายบอก
ทั้งนี้ขั้นตอนทำเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งทำให้ไม่คุ้นตา และตนก็รีบมาก จึงทำตาม โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะบอกว่าให้กดปุ่มซ้าย ? บน - กดยืนยัน ? กดโอเค ซึ่งพูดเร็วมาก และมีการบอกหมายเลขมาให้ตนกดบอกว่าเป็นหมายเลขล็อคป้องกันการโจรกรรม แต่จริง ๆ แล้วเป็นจำนวนเงิน ตอนนั้นตนก็ไม่ได้แปลกใจ ยังคงทำตามที่คนร้ายบอกทุกอย่าง คนร้ายยังได้บอกอีกว่าให้ฉีกสลิปทิ้ง และห้ามทำธุรกรรมใด ๆ จนกว่าจะถึงหกโมงเย็น อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่ซีแนมจะทำธุรกรรมทางการเงินได้คุยกับแม่ว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพโทรมาบอกว่าหนูติดหนี้บัตรเครดิตอยู่ 47,000 บาท แต่ขณะนี้กำลังทำธุรกรรมอยู่ และรอเอกสารที่เจ้าหน้าที่เอามาให้ ขณะนี้หนูยังกลับบ้านไม่ได้นะ ตอนนั้นแม่เข้าใจว่าซีแนมอยู่ในธนาคาร แต่ก็มาเอ๊ะใจว่าธนาคารเค้าเปิดกันวันเสาร์-อาทิตย์ด้วยเหรอ จึงเดินไปสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารในห้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่กล่าวว่าทางธนาคารไม่เคยมีการโทรไปทวงหนี้ สงสัยจะโดนหลอก ? ตอนนั้นแม่ก็รู้แล้วว่า ซีแนมจะโดนหลอกแน่ ๆ จึงพยายามโทรหาซีแนมเป็นสิบ ๆ สาย ซีแนมก็กดรับ และบอกว่า "แม่ก็โทรมาอยู่ได้ หนูกำลังทำธุรกรรมทางการเงิน อยู่หน้าตู้เอทีเอ็ม" และซีแนมก็ไม่รับสายแม่อีกเลย แต่แม่ก็พยายามโทรขณะที่ซีแนมก็ไม่ยอมรับสาย จนซีแนมทำธุรกรรมเสร็จถึงรับสาย และบอกว่าทำธุรกรรมทางการเงินเพิ่งเสร็จ แม่ก็บอกว่า ซีแนมโดนหลอกแล้ว ให้ไปเช็คยอดเงินเลยนะ หลังจากนั้นจึงรีบไปเช็คยอดเงิน ปรากฏว่าไม่เหลือเงินในบัญชี รู้สึกตกใจมากจึงรีบติดต่อกับทางธนาคารเพื่อให้อายัดบัตรเอทีเอ็มให้ แต่เข้าใจว่าต้องมีใบแจ้งความ ซีแนมได้เข้าไปแจ้งความที่สถานีตำรวจตรงดอนเมือง แต่เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าไม่รับแจ้งเนื่องจากไม่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งแทนที่จะได้ใบแจ้งความและอายัดเงินเบรกไม่ให้คนร้ายกดออกไป ซีแนมกลับต้องเสียเวลาไปแจ้งความที่สถานีท้องที่ที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม ซีแนม ได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนนทบุรี เจ้าหน้าที่ถามว่า "โดนอะไรมา" ตนก็แจ้งไป แต่เจ้าหน้าที่กลับพูดว่า "ไม่ดูทีวีหรือไงถึงได้โดนหลอก" พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ยังบอกว่า ป่านนี้คนร้ายคงเอาเงินไปใช้หมดแล้วมั้ง หลังจากนั้นก็ให้ตนเขียนบันทึกประจำวันไว้ ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ไปพักทานข้าว ทำให้เสียเวลาที่สถานีตำรวจประมาณ 1 ชั่วโมง โดยที่ไม่ได้ใบแจ้งความ หรือเอกสารที่มีตราครุฑที่จะไปใช้อ้างอิงกับทางธนาคารได้ ได้แค่ลงบันทึกประจำวันได้ จากนั้นซีแนมได้เดินทางไปที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาสยามพารากอน ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องใช้เอกสารการแจ้งความจากทางโรงพัก แต่ตนไม่มี ก็เลยแจ้งทางธนาคารให้ช่วยตรวจสอบ และอายัดบัตรให้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ช่วยทำการอายัดให้ แต่ก็ช้าเกินไป และจากการตรวจสอบของธนาคารพบว่า นายเอกภพ มั่งมี ที่ตนโอนเงินไปนั้นเป็นชาว จ.สระบุรี แต่เปิดบัญชีของธนาคารกรุงเทพไว้ที่นครนายก และเหลือเงินในบัญชี 70,000 บาท แต่ทางธนาคารยังไม่สามารถโอนกลับคืนให้ตนได้ เพราะต้องใช้หลักฐานจากทางตำรวจมายืนยันอีกครั้ง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่ซีแนมกล่าวว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ และใส่ใจสักนิดแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็สามารถช่วยคนที่เดือดร้อนได้ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเก่ง แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะทำหรือไม่เท่านั้นเอง ทั้งนี้ ซีแนม กล่าวว่า เรื่องแก๊งต้มตุ๋นทางโทรศัพท์เคยได้ยินมาแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีด้วย เพื่อไม่ให้ประชาชนคนอื่นตกเป็นเหยื่ออีก