ความ งดงามของกระสวย อวกาศขณะร่อนลงสู่พื้นโลกเบื้องล่าง ซึ่งนาซาต้องใช้เวลาร่วม 20 ปี กว่าจะได้ภาพนี้และมีกระสวยอวกาศที่ทำหน้าที่บรรทุกส ิ่งของและลูกเรือขึ้นไป ยังสถานีอวกาศนานาชาติ เพื่อสร้างฐานของมนุษย์ในอวกาศ
 นับตั้งแต่เที่ยวบินที่ STS-1 ของกระสวยอวกาศโคลัมเบียเริ่มปฏิบัติภารกิจแรกให้องค์การบริหารการบินและอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) เมื่อ เดือน เม.ย. 1981 จนถึงบัดนี้รวมเป็นเวลาเกือบ 3 ทศวรรษของกระสวยอวกาศแล้ว ซึ่งสเปซด็อตคอมได้รวบรวมภาพสวยๆ และหาดูได้ยากจากกระสวยอวกาศของนาซามาให้ชมกันก่อนที ่นาซาจะปิดตำนานกระสวย อวกาศในปลายปีนี้

วิว บนโลกที่มองผ่าน หน้าต่างของกระสวยดิสคัฟเวอรีเที่ยวบินที่ STS-51 ในการปฏิบัติภารกิจเพื่อติดตั้งดาวเทียมเอทีซีเอส (Advanced Communications Technology Satellite : ATCS) ของนาซาเมื่อปี 1993

ภาพ นี้เป็นภาพที่ไม่ เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของกระสวยแอตแล นติสในการปฏิบัติภารกิจ ลับสุดยอดของกรมการกลาโหม (Defense Department) เมื่อปี 1991 โดยในภาพ นักบินอวกาศฝึกหัด เจ โอ เครกตัน (J.O. Creighton) กำลังสาธิตการเล่นสกีในสภาวะไร้น้ำหนัก

อัศจรรย์แห่งแสงออโรราบนพื้นโลกที่ลูกเรือจากกรมการก ลาโหมของกระสวยอวกาศดิสคัฟเวอรีจับภาพไว้ได้เมื่อปี 1991

ภาพ ภายในห้องเก็บ สัมภาระของกระสวยอวกาศเอนเดฟเวอร์ ก่อนที่ประตูขนาด 18 เมตร ของห้องนี้จะถูกเปิดเป็นครั้งแรกในอวกาศในการเดินทาง ไปปฏิบัติภารกิจครั้ง แรกเมื่อปี 1992

ชา ร์ลี วอล์กเกอร์ (Charlie Walker) วิศวกรและผู้เชี่ยวชาญด้านการบรรทุกสัมภาระ แสดงท่าทางสนุกสนานอย่างมากในระหว่างปฏิบัติภารกิจอว กาศเป็นครั้งที่ 2 ของเขา โดยเที่ยวบินของกระสวยดิสคัฟเวอรีเมื่อปี 1985 ซึ่งเขายังเป็นลูกเรือของกระสวยอวกาศคนแรกที่ไม่ใช่ นักบินอวกาศของนาซา

นัก บินอวกาศ ริค ฮอค (Rick Hauck) ค้นพบกลไกในเสื้อคลุมของศตวรรษที่ 20 หรือพบว่ามีเอเลียนที่มองไม่เห็นก็ไม่ทราบกำลังพยายา มสวมเสื้อคลุมตัวนี้ใน ภารกิจของกระสวยชาลเลนเจอร์เมื่อปี 1983

แขน กลของแคนาดาที่ ติดอยู่กับกระสวยเอนเดฟเวอร์และห้องปฏิบัติการเรดาร์ อวกาศ (Space Radar Laboratory) ได้รับแสงสว่างจากแสงออโรราสีเขียวในระหว่างภารกิจเม ื่อปี 1994

อุปกรณ์ สำหรับการ วิจัยทางวิทยาศาสตร์จะผ่านอุโมงค์นี้เข้าไปสู่โมดูลส เปซแล็บเพื่อเก็บไว้ใน ห้องเก็บสัมภาระ ซึ่งได้เห็นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1983 ในภารกิจของกระสวยโคลัมเบีย

จาก ซ้าย นักบินอวกาศเจนิซ วอสส์ (Janice Voss) และ มาโมรุ โมริ (Mamoru Mohri) ฉีกยิ้มสู้กล้องในขณะที่กำลังปีนออกจากที่นอนในระหว่ างปฏิบัติภารกิจเมื่อปี 2000 กับกระสวยเอนเดฟเวอร์

การ ทดสอบโซลาร์ วิงส์ (solar wings) หรือแผงโซลาร์เซลล์ขนาดยักษ์ที่เป็นแหล่งผลิตพลังงาน ให้กับสถานีอวกาศนานา ชาติครั้งแรกในปี 1984 ซึ่งรับหน้าที่โดยทีมลูกเรือของกระสวยดิสคัฟเวอรี

เบื้อง หลังของส่วน ปลายหางของกระสวยแอตแลนติสคือเส้นขอบฟ้าของโลกที่แลด ูสวยงามมากในขณะที่แอ ตแลนติสปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับห้องปฏิบัติการด้านบรร ยากาเพื่อวิทยาศาสตร์ และการประยุกต์ (Atmospheric Laboratory for Applications and Science) เมื่อปี 1992

เจมส์ ฟาน ฮอฟเทน (James van Hoften) ในขณะเดินอวกาศระหว่างปฏิบัติภารกิจในปี 1985 พร้อมกับกระสวยดิสคัฟเวอรี ซึ่งภารกิจเดินอวกาศยังคงเป็นภารกิจหลักของนักบินอวกาศนาซา

กล้อง โทรทรรศน์อวกาศ ฮับเบิล (Space Telescope) ลอยเด่นอยู่เหนือพื้นโลก ดูสวยงามราวกับเป็นเพชรเม็ดงามบนท้องฟ้า ซึ่งภาพนี้เป็นภาพเมื่อเดือน ธ.ค. 1993 ที่นักบินอวกาศปฏิบัติภารกิจในการซ่อมแซมหอสังเกตอวก าศนอกโลกแห่งนี้

จันทร์เสี้ยวงดงามเหนือขอบฟ้าของโลกและประตูห้องเก็บ สัมภาระของกระสวยโคลัมเบียเมื่อปี 1983

พระ อาทิตย์ทอแสง เหนือขอบฟ้าของโลกเมื่อมองจากกระสวยอวกาศ ซึ่งตลอดเวลาเกือบ 30 ปีที่กระสวยอวกาศพร้อมกับลูกเรือปฏิบัติหน้าที่เพื่อ มวลมนุษย์ชาติต้องผ่าน การผจญภัยมากมาย ขณะเดียวกันก็ได้พบกับความสวยงามจนน่าอัศจรรย์ใจในมุ มมองที่ไม่สามารถเห็น ได้บนพื้นโลก