สวนจตุจัก
ตลาดนัดจตุจักร สำหรับผู้ที่ชอบซื้อของและต่อรองราคา ที่นี่คือ “สวรรค์ของคุณ” โดยทุกวันพุธและพฤหัสจะเป็นตลาดค้าส่งต้นไม้ ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์นั้นจะเปลี่ยนเป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งเป็นศูนย์รวมร้านค้ากว่า 8,000 ร้านจากทุกภูมิภาคของประเทศ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 26 โครงการ กลุ่มสินค้ามีตั้งแต่ของแต่งบ้าน ของสะสม ของเก่า เครื่องประดับ งานศิลปะหัตกรรม เฟอร์นิเจอร์ สัตว์เลี้ยง เสื้อผ้า ต้นไม้ หนังสือเก่า อาหารพื้นเมือง สินค้าเบ็ดเตล็ดอื่นๆ อีกมากมาย
ตลาดนัดคลองถม
แหล่งขายของมือสอง อุปกรณ์เครื่องมือทางช่างบ้าง ขายพวกเครื่องดนตรีบ้าง ของเด็กเล่น อุปกรณ์รถยนต์ประดับยนต์ นาฬิกา ของหนีภาษีและอีกจิปาถะ ทั้งแบบมือหนึ่งสภาพดี มือสองสภาพรอง หรือ ไทยทำ ไทยประดิษฐ์ ไทยใช้ ราคาต่อรองกันได้ เป็นที่สนุก (แต่อย่าต่อจนน่าเกลียดนะ ขอเตือน) ทั้งนั้ขอเตือนว่า ราคาและคุณภาพต้องพาผู้เชี่ยวชาญไปด้วย เพื่อให้ได้ของแบบไม่ผิดหวัง แหล่งคลองถมจะอยู่บริเวณหน้าโรงพยาบาลกลาง วนไปจนถึงสี่แยกวรจักร หน้ากองปราบเก่า จะไปวันธรรมดาก็ต้องรีบไปแต่หัววันจนถึง 4 โมงเย็น เพราะหลัง 4โมงเย็นแถวนี้เขาจะห้ามจอดรถ ร้านรวงก็เริ่มถยอยปิด แต่วันเสาร์จะสนุกมาก เนื่องจากจะเริ่มจับจ่ายกันตั้งแต่พลบค่ำของวันเสาร์ ไปเรื่อยๆ ถึงค่ำวันอาทิตย์ ซึ่งในคืนวันเสาร์จะขายกันจนคนขายคนซื้อหมดแรงเดินหมดแรงขายกันไปข้างนึง แล้วก็มาต่อกันช่วงเช้าของวันอาทิตย์อีกพ่อค้า แม่ขายก็นอนกันที่นั่นเลย แต่คนซื้ออย่างเราคงไม่สามารถซื้อของข้ามวันขนาดนั้นได้... หมดตัวกันพอดี ใครสะดวกเดินวันไหนก็เลือกเอาตามสบายละกันนะ
ซอยละลายทรัพย์
ซอยสุรเสนา หรือ ซอยสีลม 5 เป็นถนนซอยอยู่บนถนนสีลม ข้างธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร มีร้านขายเสื้อผ้า เครื่องหนัง เครื่องประดับ สินค้าแบรนด์เนม ของคนวัยทำงานหลายร้าน เป็นที่นิยมจับจ่ายของพนักงานบริษัทในย่านนั้นระหว่างช่วงพักกลางวัน โดยเฉพาะตั้งแต่เวลา 11.00-13.00 น. ในวันธรรมดา จึงเรียกเล่นๆว่า "ซอยละลายทรัพย์" เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว
หน้าราม
หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง หรือที่ใครๆ เรียกกันติดปากว่า หน้าราม เป็นย่านที่คึกคักมากๆ เริ่มกันตั้งแต่ ซอยรามคำแหง 59 ไปจนถึง ซอยรามคำแหง 19 แหมดูตัวเลขแล้วเหมือนจะไกลนะคะ แต่ถ้ามาเดินซื้อของจริงๆ จะรู้ว่ามันเพลินมาก มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อไม่มีร้านให้เราได้ดู ของกันแล้วนั่นแหละค่ะสินค้าก็มีให้เลือกเยอะมากๆ และราคาก็ถือว่ายุติธรรมค่ะ มีทั้งถูกมาก และถูกธรรมดา แต่ของแพงคงไม่มีหรอกค่ะ แถวนี้เป็นแหล่งนักศึกษา แม่ค้าคนไหนจะใจดำขายของให้เยาวชนในราคาแพงได้ไงล่ะค่ะถึง ซอย 43/1 แล้ว ใครรู้บ้างว่าซอยนี้มีชื่อเรียกเล่นๆ ว่าอะไร ? เด็กรามคงรู้ดี ราม 3 ไงคะ เพราะว่าซอยนี้เป็นแหล่งรวมของสถานที่กวดวิชา เป็นแหล่งรวมนักศึกษารามที่ใหญ่มา ก็ต้องนี่เลย ซอยรามคำแหง 43/1กอีกที่หนึ่ง ราม 1 ก็คือ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง ส่วน ราม 2 ก็คือ มหาวิทยาลัยรามคำแหงตั้งอยู่แถวๆ บางนา ราม 3 ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งรวมของนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง แน่นอนว่า ของใช้ที่จำเป็นของนักศึกษา ก็ย่อมต้องมีขายเยอะแน่นอน ชุดนักศึกษาทั้งชายและหญิง มีให้เลือกมากมาย แถมราคาก็ไม่แพงด้วยนะคะ รวมถึงสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยที่เอาไว้แต่งกับชุดนักศึกษา ไม่ว่าจะเป็นเข็มขัด ตุ้งติ้ง เข็มติดหน้าอกเราหยุดอยู่ที่ โรงเรียนวัดเทพลีลา ตรงนี้มีทีเด็ดค่ะ ในเวลากลางคืนบางวันจะมีร้านอาหาร และร้านขายของ หลากชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านขายของมือสอง มาเปิดขายกันบริเวณสนามของโรงเรียน แต่ก็อย่างว่านะคะ ของมือสอง ตาดีได้ ตาร้ายเสีย จุดต่อไปก็ ช่วงซอย 39 ไปแล้วเนี่ย เสื้อผ้าก็จะเริ่มชุกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่จะหาเสื้อผ้าที่มีแบบสวย ล้ำ อินสุดๆ เหมือนแถวสยามสแควร์ก็คง ไม่ได้หรอกนะคะ อาจมีบางร้านที่แหวกคอนเซ็ปต์ของถูกบ้าง แต่ไม่มากค่ะ นอกจากเสื้อผ้าแล้วก็ยังมีอ๊อพชั่นเสริมของสาวๆ ทั้งเครื่องประดับ เครื่องสำอาง กระเป๋า รองเท้า แหมมาที่เดียวได้ครบเลยนะคะ ส่วนหนุ่มๆก็มีให้ช้อปบ้าง ถึงจะไม่มากเท่า แต่อย่างว่าต้องยกให้สาวๆ ไปนะคะเรื่องแต่งตัวเนี่ย จน ซอยรามคำแหง 19 เลยล่ะ
ประตูน้ำ
ประตูน้ำ ย่านการค้าเก่าแก่ที่ปัจจุบัน ยังได้รับความนิยมจากเหล่าแม่ค้าขายปลีก และ ชาวต่างประเทศมากมาย ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บริเวณสี่แยก ที่ ถนน เพชรบุรี ตัดกับ ถนน ราชปรารภ พอดี เป็นแหล่งซื้อขายสินค้านานาชนิด ที่เป็นที่รู้จักมานาน แต่เดิมในแนวถนน ราชปรารภ ทางฝั่งตรงข้าม โรงแรม อินทรา เป็นตลาดสดประตูน้ำ ที่มีชื่อเสียงมาก แต่ปัจจุบันโดนกว้านซื้อ เพื่อเปิดเป็น ศูนย์สรรพสินค้าครบวงจร หากแต่เมื่อครั้น ประเทศไทยเจอพิษเศรษฐกิจ เข้าช่วงวิกฤตการณ์ ทำให้การก่อสร้างหยุดชะงักลง จนปัจจุบันก็ยังไม่ดำเนินการก่อสร้างใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้การค้าขายแลก เปลี่ยนบริเวณ ถนน เพชรบุรี นับจากศูนย์สรรพสินค้า โซโก้ เรื่อยมาตลอดเส้น เข้าถนน ราชปรารภ กลายเป็นแหล่งค้าขายเสื้อผ้า ของอุปโภค บริโภค ทดแทนขึ้นมามากมายด้วยความที่เป็นย่านการค้าเก่าแก่ บริเวณประตูน้ำ จึงมีโรงแรม และ ศูนย์สรรพสินค้าเปิดให้บริการให้นักท่องเที่ยวต่างแดนมากมาย อาทิ ศูนย์การค้า และ โรงแรม อินทรา พันธ์ทิพย์ พลาซ่า ตลาดนายเลิศ ตึกใบหยก 1 และ 2 ตึกที่พยายามทำลายสถิติตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ หรือจะเป็นโรงแรม อมารี เวเตอร์เกท ทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวมีขนาดเล็ก และแออัดมาก เป็นที่รู้กันว่า ทางเท้าของประตูน้ำถูกจับจองไว้ทุกตารางนิ้ว ซึ่งต่อมาทาง กรุงเทพมหานคร พยายามจัดระเบียบ แบ่งเขต ตีเส้นสำหรับร้านค้าทุกๆร้าน เพื่อให้ผู้ซื้อมีความสะดวกสบายมากขึ้นประตูน้ำ เป็นศูนย์รวมการซื้อขาย เสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ใหญ่ พอๆ กับตลาด โบเบ๊ ตลาดค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่อยู่ริมคลอง ผดุงกรุงเกษม หากแต่สินค้าของที่ประตูน้ำจะมีราคาขายปลีกที่ขยับขึ้น มาอีกระดับหนึ่ง ด้วยซอยย่อยมากมาย ตลาดเก่าแก่ อย่าง ตลาดเฉลิมลาภ ประตูน้ำ ซอย 1 และ ซอย 2 ก็มีร้านค้าขายเสื้อผ้าสำเร็จรูปเกิดขึ้นอยู่ดาษดื่น ซึ่งสินค้าหลายรายการที่เป็นเพียง ของทำเลียนแบบคุณภาพต่ำ ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า กระเป๋า หลากหลายของใช้แทบทุกชนิด เป็นเพียงของเลียนแบบสินค้า ดังเท่านั้นบนถนน ราชปรารภ ถนนรถยนต์วิ่งขาไปมี 5 เลน ขากลับเป็น บัสเลนเพียง 1 เลน ทำให้สภาพการจราจรหนาแน่นมาก ลูกค้าที่ไปซื้อสินค้า ส่วนใหญ่จะเข้าไปจอดที่อาคารจอดรถของ ตึกใบหยก ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ที่สะดวกที่สุดแล้ว สำหรับคนมีรถทั้งหลาย
สยามสแควร์
เมื่อเดินเข้าไป ในตรอกด้านข้าง เบื้องหน้าคุณจะเหมือน กับขุมทรัพย์ เสื้อผ้าเพราะ บรรดาร้านขายเสื้อผ้าทั้งบูติก ไม่บูติกเรียงรายอยู่ เต็มสองฝั่ง ในซอยเป็นร้านเดี่ยวบ้าง เป็นร้านรวมแล้วแบ่งซอยบ้าง ส่วนเรื่อง แบบ เสื้อนี่หายห่วง ไม่ว่าคุณจะอยากได้เสื้อสายเดี่ยวทั้งเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นสปาเก็ตตี้ เส้นจันทร์ หรือเส้นอะไรก็แล้วแต่ ที่นี่มีทุก แบบไว้บริการความอยากของคุณแน่นอน หรือคนไหน เปรี้ยวหน่อยอยากได้เสื้อเกาะอกจะเอาแบบ เกาะกระชับหรือกันซึมรอบด้านที่นี่ก็ยังมีให้เลือกทุกสีทุกขนาดแล้วการจัด Display หน้าร้านแถวนี้ก็น้องๆ เซ็นทรัลเลยทีเดียวเรียกว่าเย้ายวน ให้ควักเงิน ในกระเป๋าเสียจริงๆนอกจากร้านค้าที่เรียง รายอยู่สองฝากฝั่งในตรอกลิโด้แล้ว ยังมีร้านรองเท้า กระเป๋า ของใช้กระจุกกระจิกของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นหมีพู คิดตี้แคท กระเป๋าคีบลิง(Klipping) ทั้งของแท้ ของเทียมวางขายเรียงราย ตั้งแต่หน้าซอยยัน ท้ายซอยเลยละจะบอกให้พอออกจากตรอกลิโด้ คุณจะพบกับ ร้านขายสินค้าเบรนด์เนม นานาชนิด ร้านหนังสือ ร้านวีดีโอ ร้านขายเทป ซีดี ดีวีดี และยังแถมต่อด้วย แผงลอยขาย เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้จิปาถะ ไปตลอดทางหรือถ้าคุณหิว ที่นี่มีร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ ให้คุณเลือกมากมายตั้งแต่ แผงลอยข้างทางหรือร้านฟาสฟูตส์ หลากหลายยี่ห้อหรือ่ถ้าคุณ ขี้เกียจนั่งตามร้าน จะซื้อขนมนมเนยที่วางขายตาม ข้างทางแล้ว เดินไปกินไปก็ไม่ผิดกติกาหรือจะเปลี่ยนบรรยากาศ ไปทางเลือกใหม่อย่าง Center Point ก็ไม่ผิดกติกาเพราะตรง จุดนี้มีร้านกาแฟร้านเบเกอรี่ให้บริการ อยู่หลายร้าน ลองไป นั่งเล่นกันดูรับรองว่าคุณเองต้องตื่นตะลึง กับแฟชั่น ของวัยรุ่นสมัยนี้จริง
สวนลุมไนท์บาร์ซ่า
ชีวิตคนทำงานในเมืองกรุง ช่วงกลางวันไม่มีเวลาว่างไปเที่ยวหรือชอปปิ้งมากนัก หรือถ้ามีเวลาแต่ไม่ชอบแดดร้อนๆ ตลาดนัดกลางคืนอย่าง “สวนลุมไนท์บาซาร์” เป็นอีกคำตอบให้ได้เดินเที่ยวและเลือกช็อปได้เหมือนกัน “สวนลุมไนท์บาซาร์” เกิดขึ้นมานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยพื้นที่เดิมเป็นที่ตั้งของโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งถูกทิ้งร้างไร้ประโยชน์ จึงพัฒนาเป็นตลาดไนท์บาซาร์แห่งแรกของกรุงเทพฯ ด้วยการสนับสนุนของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีพื้นที่ทั้งหมด 120 ไร่ มีศูนย์รวมร้านค้ากว่า 3,700 ร้าน ลานกิจกรรม ร้านอาหาร รวมถึงนาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก หรือโจหลุยส์ เธียเตอร์เดิม ที่เปิดการแสดงการเชิดหุ่นละครเล็ก ซึ่งเหลืออยู่เพียงคณะเดียวในประเทศไทยนอกจากนี้ ก็ยังมี BEC Tero Hall เป็นสถานที่ จัดการแสดง รองรับคอนเสิร์ตและการแสดงต่างๆ ทั้งจากต่างประเทศและไทย มาแล้วมากมาย นี่เองที่ดึงดูดเหล่าวัยรุ่นให้เข้ามาในโครงการมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนหรือหลังดูคอนเสิร์ตก็สามารถเดินเล่น ชอปปิ้ง หรือหาของกินได้ไม่ยาก"สวนลุมไนท์บาซาร์" เปิดตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน แต่ร้านค้าส่วนมากจะเริ่มเปิด ออกร้านประมาณบ่าย 3 โมงเป็นต้นไป และจะเปิดทุกร้านจริงๆ ประมาณ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป เพราะนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและเทศ จะเริ่มเข้ามากันมาก สำหรับสินค้าในร้านต่างๆ มีหลากหลาย จะว่าไป คล้ายๆ สวนจตุจักรอยู่มาก หลายร้านเปิดทั้งที่สวนลุมไนท์ฯ และที่สวนจตุจักร แต่จำนวนไม่น้อยร้าน เปิดที่นี่แห่งเดียวจุดเด่นประการหนึ่ง ซึ่งเป็นเสน่ห์ของร้านค้าในสวนลุมไนท์ฯ คือ เป็นสินค้าที่มากด้วยไอเดีย จากผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆ พบเห็นหรือหาซื้อได้ยากตามท้องตลาดทั่วไป ให้เลือกกันทั้งคืน
ถนนข้าวสาร
ตั้งแต่ปากถนน ที่ข้าวสารก็เหมือนกับย่านการค้าอื่นๆ ที่เราจะเห็นแผงและรถเข็นอาหารเปิดประเดิมก่อน ทางซ้ายมือจากปากถนน มีรถเข็นอาหารพร้อมกินที่คนไทยอย่างเราอาจหาไม่ได้ตามสถานที่อื่น เพราะร้านนี้มีขายตั้งแต่อาหารฝรั่งเศส ยัน อาหารอินเดีย! สนนราคาก็พอๆกับราคาที่กิน ที่อังกฤษเลยเชียว เพราะชิ้นนึงขายประมาณ 50-60 บาท ตกประมาณ 1 ปอนด์ต่อปิซซ่า 1 ชิ้นเหมือนกันและเมื่อเราเดินลึกเข้าไป อาหารที่เห็นกันอย่างดาษดื่น กลับเป็นผัดไทยและปอเปี๊ยะทอด แต่ราคากลับไม่แพงอย่างที่คิดแฮะ แผงลอยสุดสยองที่ตั้งให้เห็นเป็นระยะ เห็นจะไม่พ้นหัวหุ่นเพศหญิงที่เขาตั้งเอาไว้เป็น แบบรับบริการถักผม คุณไม่ต้องเดินทางไปถึงชายหาดก็ถักผมให้เหมือนชาวเลได้ ที่ข้าวสารนี่ อีกบริการที่แผงถักผมมักจะทำควบคู่กันไปก็คือ เฮนน่า ที่นักท่องเที่ยวนั่งรอคิวให้วาดเลยทีเดียว หากลองแหงนหน้ามองสูงขึ้นไป ตาก็จะลายไปกับ ป้ายโรงแรม และ เกสต์เฮ้าส์ที่ตั้งเรียงรายอยู่ทั่วถนน ราคาก็มีหลายระดับตามสภาพและประเภทของห้อง ดังนั้นธุรกิจครบวงจรของ กิจการบริการที่พักจะหนีไม่พ้น ร้านอาหาร โทรศัพท์ทางไกล ไปจนถึงการ ให้บริการรับแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ แม้ว่าบรรดาเกสต์เฮ้าส์ทั้งหลาย จะมีบริการครบวงจรให้ลูกค้า แต่ก็ยังมีร้านอินเตอร์เนตราคาถูก 50 สตางค์ ต่อนาที หรือแม้แต่บาร์เบียร์ร้านเยี่ยมใกล้ๆ โดยมีร้านเช่า-ขายหนังสือมือสอง ร้านเสื้อผ้า และร้านขายของพื้นเมือง ตั้งแซมไปเป็นระยะๆ ร้านเสื้อผ้าที่ข้าวสาร นี้ก็มีให้เลือกหา ตั้งแต่ร้านผ้าไหมชั้นดีไปจนถึงเสื้อยืดคอกลมตรา ห่านราคาประหยัด! เสื้อผ้ายอดนิยมที่เห็นวางขายกันมากที่สุด ก็เป็นเสื้อผ้าเนื้อบางประเภท กางเกงเล ผ้าบาติก เสื้อผ้าฝ้าย อ้อ..ที่นี่มีกางเกงนักมวยและผ้าถุงแบบสำเร็จรูปให้เลือกสารพัดสีอีกต่างหาก ที่ยกตัวอย่างมาในข้างต้นทั้งหมด เป็นเพียง ตัวอย่างบางตอนของถนนข้าวสารที่ชาวต่างชาติหลงไหล คนไทยอย่างเราๆ ก็แวะเวียนกันไปได้ เพราะ ถนนสายนี้จัดงานตามเทศกาลสำคัญๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะสงกรานต์ที่เดี๋ยวนี้คนไทยนิยมไปถนน ข้าวสารเล่นน้ำกันเลยเชียว
ตลาดวังหลัง
แหล่งรวมรองเท้าและกระเป๋ามือสอง ที่มีให้เลือกกันอย่างจุใจ อยู่ย่านใจกลางเมือง สภาพโดยรวมแล้วคล้ายกับสวนจตุจักร โซนเสื้อผ้าและรองเท้ามือสอง ราคานั้นก็ถูกแสนถูก ใครอยากได้ของถูกมาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่ เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10 โมงเช้าโดยประมาณถึง 5 โมงเย็น ของจะเยอะที่สุดในวันพุธมาเดินตอนเที่ยงๆจะเจอกับคลื่นมนุษย์ ให้ดีมาตอนก่อนเที่ยงหรือเลยเที่ยงไปแล้ว