" ระทึก "บ้านผีสิง" "
ลองของ หรือ มั่วสุม บุกพิสูจน์ทั่วกรุง
"คม ชัด ลึก" บุกพิสูจน์บ้านผีสิงทั่วกรุง พบเรื่องชอบลองของภูตผีเป็นแค่ข้ออ้างของวัยรุ่น
ที่รวมกลุ่มกันไปหาที่ลับตาคนมั่วสุม ทั้งเสพยา ลามไปถึงเรื่องเพศ
บางที่พบถุงยางอนามัยใช้แล้วตกเกลื่อนกลาด ชาวบ้านย่านใกล้เคียงเผย
เคยมีหญิงสาววิ่งหนีเงื้อมมือเพื่อนชายออกมาจากบ้านร้างในยามค่ำคืน
เรื่องราวเกี่ยวกับบ้านผีสิงที่กระจัดกระจายอยู่ตามแหล่งต่างๆ เกือบทั่วประเทศ
ยังเป็นสิ่งที่ท้าทายและรอการพิสูจน์ของผู้ที่ปรารถนาความตื่นเต้นทั้งหลาย
แต่หลายคนคงนึกไม่ถึงว่า สถานที่ลึกลับที่ร่ำลือกันว่าเป็นที่สิงสถิตของภูติผีเหล่านี้
บางครั้งกลับกลายเป็นสถานที่รองรับกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการหลบซ่อนสายตาผู้คน
ไปมั่วสุมกันอย่างไม่มีขอบเขตจำกัด
นัดพิสูจน์ผีผ่านอินเทอร์เน็ต
แน่นอนว่าการนัดพบกันของกลุ่มวัยรุ่นเพื่อบุกไปพิสูจน์บ้านผีสิงนั้น
จะเกิดขึ้นในยามค่ำคืนดึกดื่น โดยเฉพาะหลังเที่ยงคืน หรือบางครั้ง
การนัดหมายกันก็ยึดเวลาหลังตี 2 ซึ่งสถานบันเทิงต่างๆ ต้องปิดบริการตามกฎหมาย
ส่วนวิธีการนัดหมายกันนั้น ได้พัฒนาจากการบอกเล่าแบบปากต่อปาก
หรือการเผยแพร่สถานที่ลึกลับผ่านรายการโทรทัศน์และรายการวิทยุ
มาเป็นการนัดกันทางอินเทอร์เน็ตไปแล้ว
"คม ชัด ลึก" ได้ข้อมูลจากการเข้าไปสำรวจเวบไซต์ www.donjai.com
ว่าปัจจุบันเฉพาะใน กทม. มีสถานที่ลึกลับที่วัยรุ่นนิยมไปท้าพิสูจน์กัน
ยามค่ำคืนไม่น้อยกว่า 10 แห่ง ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านร้าง สุสานรถ โรงงานร้าง และวัดเก่าแก่
สถานที่แรกที่ "คม ชัด ลึก" บุกไปสำรวจคือบ้านทรงสเปน ในซอยรามคำแหง 32
ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ที่ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้กว่า 20 ปี
สภาพเก่าทรุดโทรม มีต้นไม้ปกคลุมหนาทึบ บรรยากาศน่ากลัว
บ้านหลังนี้เป็นหนึ่งในบ้านผีสิง โดยมีการร่ำลือกันว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
ขณะที่เจ้าของบ้านที่เป็นชาวต่างชาติออกไปทำงาน ปล่อยให้สาวใช้
อยู่เฝ้าบ้านเพียงคนเดียว มีคนร้ายเข้าไปปล้นและฆ่าสาวใช้ตาย
หลังจากนั้นเจ้าของบ้านก็ไม่กล้าอยู่ทิ้งร้างไว้ ขณะที่ชาวบ้านใกล้เคียง
มักได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้คร่ำครวญดังออกมาในเวลากลางค่ำกลางคืน
สร้างความสยองพองเกล้าให้อยู่เสมอๆ แถมวันดีคืนดีก็มีคนเห็นหญิงสาว
ออกมายืนอยู่หน้าบ้านตามลำพังด้วย
เมื่อเข้าไปในตัวบ้าน บรรยากาศค่อนข้างเยือกเย็นชวนให้ขนลุก
ที่กลางบ้านมีศาลเพียงตาพร้อมเครื่องเซ่นวางอยู่ แต่ที่ฝาผนังบ้าน
กลับมีภาพและข้อความส่อไปในทางลามกที่ถูกฉีดไว้ด้วยสีสเปรย์เต็มไปหมด
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นางนวล ทองเชื้อ อายุ 50 ปี ชาวบ้านในละแวกเดียวกับบ้านผีสิง
ได้ข้อมูลว่าบ้านหลังนี้ถูกวัยรุ่นหนุ่มสาวใช้เป็นจุดนัดพบกันมานานหลายปี แล้ว
ตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นไป จะมีวัยรุ่นอายุประมาณ 16-18 ปี
ทั้งชายและหญิงมาที่บ้านหลังนี้แทบทุกคืน มีทั้งที่มาเป็นกลุ่ม
และมาเป็นคู่ หากเป็นคู่หนุ่มสาวมักจะเดินจับมือถือแขนเข้าไปในบ้าน
แล้วหายเข้าไปเป็นเวลานาน โดยทราบว่าไปพิสูจน์เรื่องภูตผีวิญญาณหรือไปทำอะไรกัน
"เขาลือกันว่าบ้านหลังนี้ผีดุมีคนชอบเข้าไปลองของ
บางคนก็เข้าไปขอเลขเด็ด แต่ป้าไม่เคยพบไม่เคยเห็น
แม้ว่าอยู่ที่นี่มานานแล้วก็ตาม แต่ที่ป้าแปลกใจก็คือทุกคืนจะมีหนุ่มสาว
เข้ามาที่นี่บ่อย สาวสายเดี่ยวก็มี นั่งรถยนต์บ้าง ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์บ้าง
มากันเป็นคู่ๆ แล้วจูงมือกันเข้าไปในบ้าน หายเข้าไปเป็นเวลานาน
แล้วก็กลับออกมา ซึ่งไม่แน่ใจว่าเข้าไปดูผีหรือไปดูอะไรกัน" ป้านวล ระบุ
ป้านวลเล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งออกมาจากบ้าน
ในสภาพเนื้อตัวมอมแมม ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้ายับยู่ยี่
ท่าทางตื่นตระหนกร้องขอความช่วยเหลือ ชาวบ้านจึงช่วยเหลือไว้
โดยหญิงสาวคนดังกล่าวบอกว่าถูกเพื่อนชายหลอกมาข่มขืน
"หญิงสาวบอกว่า เพื่อนชายที่รู้จักกันมานาน โทรศัพท์นัดทานข้าว
ที่ร้านอาหารแล้วชวนมาพิสูจน์ผีที่บ้านหลังนี้ จึงเชื่อและยอมตามเขามา
เมื่อถึงบ้านหลังนี้ก็ไม่พบผี แต่กลับถูกฝ่ายชายลวนลามหมายจะข่มขืน
จนต้องวิ่งหนีออกมา" ป้านวล กล่าว
พ.ต.อ.นิพนธ์ ภู่พันธ์ศรี ผกก.สน.หัวหมาก กล่าวว่า
ทราบจากชาวบ้านว่าบ้านร้างแห่งนี้ มักมีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปในเวลากลางคืน
แต่ไม่แน่ชัดว่าเข้าไปทำอะไรกัน ซึ่งที่ผ่านมาตามบ้านร้างต่างๆ
มักเป็นสถานที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรมบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด
"ผมไม่เชื่อว่าบ้านหลังนี้จะมีผีดุจริง แต่คิดว่าเป็นคำอ้างของวัยรุ่น
ที่เข้าไปมั่วสุม โดยหยิบยกเรื่องผีมาบังหน้า จุดประสงค์หลักจริงๆ
น่าจะเข้าไปทำกิจกรรมอื่นมากกว่า โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด
เป็นเรื่องที่น่าห่วงเป็นอย่างมาก จึงอยากให้ผู้ปกครองจับตาดูบุตรหลาน
กลุ่มนี้ให้มากเป็นพิเศษ" ผกก.สน.หัวหมาก กล่าว
พ.ต.อ.นิพนธ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะสั่งการให้ตำรวจสายตรวจ
เข้าไปตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวเป็นพิเศษ หากพบว่า
มีใครเข้าไปทำผิดกฎหมาย ก็จะจับกุมดำเนินคดีทันที
สถานที่ต่อไปที่ "คม ชัด ลึก" เดินทางไปสำรวจคือหมู่บ้านปิยพร
ซึ่งถูกปล่อยทิ้งร้างบนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ในซอยวัชรพล เขตคันนายาว กทม.
ผู้เฒ่าผู้แก่ในย่านนี้บอกว่าพื้นที่ก่อสร้างหมู่บ้านเคยเป็นป่าช้าเก่า
เจ้าของโครงการไม่ได้ทำพิธีบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง เมื่อเริ่มก่อสร้างจึงพบอุปสรรคต่างๆ
เช่นคนงานตาย เด็กตกบึงน้ำตาย สุดท้ายบ้านที่สร้างไม่ได้รับความสนใจจากลูกค้า
จนต้องเลิกโครงการปล่อยทิ้งไว้ ท่ามกลางเสียงร่ำลือว่าใครเข้าไปในบริเวณหมู่บ้าน
ในยามค่ำคืนจะถูกภูตผีตามหลอกหลอนจนขนหัวลุก
หมู่บ้านร้างแห่งนี้เป็นอีกเป้าหมายหนึ่งของกลุ่มวัยรุ่น
ที่อ้างว่าชอบพิสูจน์เรื่องผี แต่เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ
กลับพบว่าบรรยากาศค่อนข้างเงียบ แต่ไม่ถึงกับน่ากลัวเหมือนที่ว่ากัน
สภาพหมู่บ้านที่ถูกปล่อยร้างเกือบ 10 หลัง มีต้นไม้ใบหญ้าปกคลุม
แต่ภายในสามารถใช้บังแดดหลบฝนได้ ภายในบ้านหลังหนึ่ง
ที่เข้าไปสำรวจ พบขวดเหล้า ขวดเบียร์ ถูกทิ้งไว้เกลื่อน นอกจากนี้
ยังพบถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วตกอยู่หลายถุง ที่พื้นคราบน้ำตาเทียนหยดอยู่ทั่วไป
ส่วนที่ผนังมีข้อความที่พ่นด้วยสีสเปรย์
นายสมควร วิรุณ ที่ต้องใช้เส้นทางผ่านหมู่บ้านแห่งนี้เป็นประจำ
เปิดเผยว่า หมู่บ้านร้างแห่งนี้มีการร่ำลือกันว่ามีผีดุ
แต่ตนไม่เคยพบเหตุการณ์กับตัวเองมาก่อน แม้จะเดินทางผ่านหมู่บ้านนี้เป็นประจำ
เพียงแต่เห็นว่าทุกคืนวันศุกร์และเสาร์ ช่วงดึกๆ มักมีกลุ่มวัยรุ่น
เข้าไปตั้งวงกินเหล้า ส่งเสียงเอะอะโวยวายเป็นประจำ
บางคืนก็มีผู้หญิงเข้ามาด้วย โดยก่อนหน้านี้ตำรวจก็มีการตั้งด่าน
ที่ปากซอยทางเข้าหมู่บ้านอยู่บ่อยๆ เพราะบริเวณนี้ค่อนข้างเปลี่ยว
มีปัญหาอาชญากรรมเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
จุดที่สามที่ "คม ชัด ลึก" ไปสำรวจ คือโรงงานร้างหน้ามหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
ถนนพัฒนาการ ซึ่งเคยเป็นโรงงานทำปากกา แต่ระหว่างดำเนินธุรกิจ
มีคนงานประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปหลายคน จนต้องเลิกกิจการไป
เมื่อผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบ พบว่า โรงงานแห่งนี้กลายเป็นแหล่งมั่วสุม
ของนักเรียน นักศึกษาในละแวกใกล้เคียง โดยภายในอาคารร้าง
โล่งเตียนเหมือนกับมีผู้คนเข้าไปใช้พื้นที่เป็นประจำ
บนดาดฟ้าอาคารมีขวดเหล้าวางอย่างเกลื่อนกลาด
นายนุติ นักศึกษาที่พักอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ใกล้กับโรงงาน เปิดเผยว่า
โรงงานดังกล่าวถูกวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาทั้งชายและหญิงยึดเป็นที่มั่วสุม
มีการนำยาเสพติดเข้าไปเสพกัน เพราะเป็นที่ลับตาคน
ทำอะไรกันค่อนข้างสะดวกไม่มีคนเห็น
"ผมเคยเข้าไปภายในโรงงานดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง
โดยเพื่อนๆ ลือกันว่าผีดุ ผมเข้าไปก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
มีเพื่อนบางกลุ่มชอบเข้าไปที่นั่น เพราะเงียบเหมาะจะนั่งดื่มเหล้ากัน
บางรายก็เข้าไปเสพยาด้วย" นายนุติ กล่าว
สถานที่ต่อมาอยู่ในซอยสายหยุด หรือซอยพหลโยธิน 48
ที่ตั้งของสุสานรถที่ประสบอุบัติเหตุของกองบัญชาการตำรวจนครบาล
ด้านหน้าสุสานมีศาลเจ้าพ่อเสืออยู่ข้างหน้า
บรรยากาศของสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างน่ากลัวมากกว่าที่อื่น
ที่ไปสำรวจมา ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายอนุชิต ศิลารอบ ที่อาศัยอยู่
ในย่านดังกล่าวมานานว่า สุสานรถอุบัติเหตุแห่งนี้ มีผู้พบเห็นผีมาแล้วหลายครั้ง
บางรายเห็นเป็นผู้หญิงผมยาวมายืนโบกรถให้ไปส่งบ้าน
บางรายได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วย บางครั้งเห็นกลุ่มวัยรุ่นนั่งในรถโดยสาร
ตีกลองร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน
นายอนุชิต ระบุว่า แม้ว่าจะมีคำร่ำลือมาต่างๆ นานา
แต่ก็ไม่เคยพบผีด้วยตัวเอง บ่อยครั้งจะเห็นกลุ่มวัยรุ่นแอบเข้าไป
ภายในสุสานรถ กลุ่มละ 7-8 คน ในเวลากลางคืน เมื่อสอบถาม
ก็บอกว่าอยากพิสูจน์ว่ามีผีจริงหรือไม่ ซึ่งผลสุดท้ายก็ไม่มีใครพบผีแม้แต่รายเดียว
สถานที่ที่ถูกระบุในอินเทอร์เน็ตว่ามีผีดุ ยังมีอีกหลายแห่ง
เช่น วัดมหาบุศย์ พระโขนง ที่ตั้งของศาลแม่นากพระโขนง,
บ้านไม้ทรงไทยกลางซอยรอดอนันต์ ถนนสุขาภิบาล 2 ปัจจุบันถูกรื้อถอนไปแล้ว,
บ้านร้างที่ถูกไฟไหม้กลางสวนมะขาม รังสิต คลอง 13,
วัดปราสาท จ.นนทบุรี, โรงงานทำรองเท้าในนิคมอุตสาหกรรมบางปู
และบ้านทรงยุโรปในซอยวัชรพล ซึ่ง "คม ชัด ลึก" ได้เดินทางไปสำรวจครบหมดแล้ว
ปรากฏว่าไม่พบสิ่งเร้นลับอย่างที่ระบุไว้แต่อย่างใด
นายวัลลภ ปิยมโนธรรม นักจิตวิทยาชื่อดัง ให้ความเห็นว่า
พฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบบุกพิสูจน์สถานที่ต่างๆ ที่บอกว่ามีผีดุ
นั้นเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ คิดว่าเป็นแฟชั่น ที่ต้องการนำเรื่องราวต่างๆ
มาเล่าสู่กันฟัง สาเหตุหลักเกิดจากระบบการเรียนการสอนในห้องเรียน
ที่ครูไม่เปิดโอกาสให้เด็กพูด เมื่อเด็กมีเวลาว่างจึงสรรหาเรื่องมาพูดคุยกัน
ซึ่งเรื่องผีๆ สางๆ ดูจะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ
นายวัลลภ กล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าวของวัยรุ่นหากรุนแรง
ถึงขนาดนัดไปลองของตามสถานที่ต่างๆ ในเวลาค่ำคืน
ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เนื่องจากเมื่อเด็กรวมตัวรวมกลุ่มกัน
ไปอยู่ในสถานที่ลับตาคน ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะทำเรื่องที่ผิดได้
โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด และหากเป็นผู้หญิง
อาจถูกล่วงละเมิดทางเพศจากฝ่ายชายที่ไปด้วยกันได้
ที่มา [url=http://www.thaifoodnow.com/owl24/STORY/story0027.htm]