นักโบราณคดีชาวอิสราเอล ได้ค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์
ที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับพระเยซู ในเมืองนาซาเรธ
ทาง ตอนเหนือของอิสราเอล อีกอย่างหนึ่ง คือหมู่บ้านที่เชื่อว่าพระเยซูประทับอยู่สมัยทรงพระเยาว์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการค้นพบทางโบราณคดี เกี่ยวกับสถานที่พระองค์ทรงเติบโตขึ้นมา
หมู่บ้านแห่งนี้ คาดว่ามี 50 หลังคาเรือน เป็นชุมชนของชาวยิวที่ยากจน และไม่ไกลจากจุดที่พระนางมารีอา ได้ทราบว่ากำลังจะให้กำเนิดบุตรชาย
นาซาเรธ นับเป็นนครอาหรับที่ใหญ่ที่สุดทางเหนือของอิสราเอล มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 65,000 คน มีสัดส่วนชาวมุสลิมกับชาวคริสต์ ราว 2 ต่อ 1 คน
"จากหลักฐานที่เป็นดินเหนียวและเศษปูนขาวที่ค้นพบ บ้านหลังดังกล่าวน่าจะเป็นบ้านของครอบครัวชาวยิวธรรมดาๆ" อเล็กซานเดอร์กล่าวขณะที่ทีมงานขุดค้น เริ่มปัดเศษดินเหนียวออกไปจนเห็นกำแพงหิน
“ถ้า คิดตามตรรกะ ที่นี่อาจจะเป็นหมู่บ้านที่พระเยซูและครอบครัวของพระองค์เคยอยู่ เราอาจจะจินตนาการได้ว่าพระองค์อาจจะเล่นกับญาติและเพื่อนๆ” เธอบอก
การค้นพบครั้งนี้ เป็นช่วงคริสต์มาสพอดี จึงเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งสำหรับชาวคริสเตียน สาธุคุณแจ็ค คารัม จากโบสถ์ของโรมันคาทอลิก ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กล่าวว่า “หากคนไม่พูด หินก็จะพูดเอง”
ทั้งนี้ทีมของอเล็กซานเดอร์ ค้นพบซากกำแพง และสวนหลังบ้านรวมถึงระบบน้ำใช้ต่อจากหลังคาลงมาใช้ในบ้านตอนที่ช่างเริ่ม ขุดลานด้านหลังของอดีตโรงเรียนแม่ชีเพื่อทำศูนย์สอนศาสนาแห่งใหม่ ในจุดที่อยู่ห่างจากโบสถ์แค่ไม่กี่หลา
“อย่างไรก็ดี ขณะนี้ก็ยังไม่รู้แน่ว่าหมู่บ้านแห่งนี้ครอบคลุมเนื้อที่แค่ไหน เพราะเพิ่งขุดค้นไปได้แค่ราว 900 ตารางฟุต เท่านั้น เชื่อว่าหากขยายต่อไป คงจะกินอาณาบริเวณกว้างขวางมาก” เธอกล่าว
นอก จากนี้ยังมีการค้นพบทางลับไปอุโมงค์ที่จุคนได้ประมาณ 6 คน เข้าไปอยู่ได้ราว 2-3 ชั่วโมง คาดว่าชาวนาซาเรธขุดอุโมงค์เพื่อซ่อนตัวจากผู้บุกรุกชาวโรมัน ยาร์เดนา อเล็กซานเดอร์ นักโบราณคดี ที่เป็นผู้อำนวยการกองการประวัติศาสตร์และโบราณคดีของอิสราเอล ให้ข้อมูล แต่เนื่องจากชุมชนแห่งนี้อยู่ไกลจากสนามรบจึงอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้อุโมงค์ มากนัก
“อย่างไรก็ดีตามประวัติศาสตร์ ทหารโรมันไม่ได้สู้รบกับนาซาเรธจนรู้แพ้รู้ชนะ เพราะหมู่บ้านแห่งนี้ไม่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์มากนัก กองทัพโรมันจะสนใจแต่เมืองใหญ่ ๆ หรือไม่ก็ชุมชนที่เป็นจุดยุทธศาสตร์มากกว่า” อเล็กซานเดอร์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
นักโบราณคดียังพบภาชนะที่ทำจากดินเหนียวและปูนขาว ที่เหมือนกับที่ชาวกาลิเลียนยิวใช้ในการทำให้อาหารและน้ำดื่มคงความ บริสุทธิ์อยู่เมื่อเก็บในภาชนะ ส่วนเศษกระจกที่พบก็มีอายุย้อนไปถึงสมัยที่พระเยซูยังมีพระชนม์ชีพ ต่อถึงปลายยุคเฮเลนิค ช่วงต้นสมัยโรมัน หรือราว 100 ปีก่อนคริสตกาล จนถึงคริสต์ศตวรรษแรก
เศษแก้วและภาชนะแก้วที่พบหรือผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามา บ่งชี้ว่าคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เพียงแต่ไม่อาจบอกได้ว่าพวกเขาเป็นพ่อค้าหรือชาวนา สิ่งของที่หลงเหลือมาจากยุคพระเยซูที่พบในนาซาเรธ คือ สุสานโบราณ ที่ให้ภาพเกี่ยวกับจำนวนประชากรสมัยนั้นได้ อเล็กซานเดอร์ กล่าว
หลัง จากนี้ก็จะมีการสร้างอาคารใหม่ ครอบหมู่บ้านโบราณนี้ไว้เพื่อการอนุรักษ์ ซึ่งก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่ง ของศูนย์กลางคริสเตียนนานาชาติแห่งใหม่ ที่จะสร้างขึ้นที่นี่ตามแผนการเดิม แต่เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องสถานที่และความหนาแน่นของประชากร ทำให้นักโบราณคดีไม่สามารถขุดค้นบริเวณรอบๆ ได้ จึงมีแต่ซากหมู่บ้านโบราณนี้เท่านั้น
..............
(ที่มา : ข่าวเอพี)
http://www.bangkokbiznews.com
.
.