กว่าจะมาเป็นตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน

 

“ตุ๊กกี้” สุดารัตน์ บุตรพรหม
 


 

โมงยามนี้ หากจะพูดถึงตลกหญิงอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่มาแรงที่สุด คงไม่มีใครปฏิเสธ ชื่อของ “ตุ๊กกี้” สุดารัตน์ บุตรพรหม ที่โด่งดังมาจากการเป็นหนึ่งในแก๊งสามช่า ของรายการ “ชิงร้อยชิงล้าน” ตอนนี้เรียกว่าคิวงานของเธอนั้นแน่นขนัด ใครๆ ต่างก็ต้องการตัวเธอไปสร้างเสียงหัวเราะ


งานเข้าเลยสิช่วงนี้
งานเยอะมากไหม ก็ยังพอมีแรง ยังไม่ใช้คำว่าเหนื่อย แต่ก็ถือว่ามีงานทุกวัน เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ว่างมารับงาน เพราะเมื่อก่อนทำงานประจำเป็นฝ่ายคอสตูมของบริษัทเวิร์คพอยท์อยู่ พอออกมา เราก็มีเวลามีรับงานข้างนอกเยอะ เวิร์คพอยท์ ก็ปล่อยให้รับงานข้างนอกได้ เป็นจังหวะพอเหมาะพอเจาะกัน ก็เลยตู้มเดียวไปเลย

คนมองว่าตอนนี้ตุ๊กกี้คิวทอง
คือตุ๊กกี้สะสมโอกาสประสบการณ์ในวงการบันเทิงมา 6 ปีแล้ว แต่ที่ผ่านมา ยังไม่ได้ออกสื่อเยอะแยะ เพราะต้องเอางานหลักเป็นหลัก พอเราได้ออกจากงานประจำปุ๊บ ก็เหมือนกับว่าเป็นช่วงที่ทุกคนรอคอยพูดต่อๆ ปาก ว่าตุ๊กกี้ว่างแล้ว ก็เลยกลายเป็นคิวทองไป

ชีวิตตอนนี้ถือว่าเปลี่ยนไปเยอะไหม
การใช้ชีวิตประจำวันไม่ถือว่าเปลี่ยนเลย แต่ว่าจะมีคนรู้จักเรามากขึ้น มีคนชื่นชอบเรามากขึ้น แต่เราก็ยังเป็นคนเดิม เลยไม่มีความรู้สึก ว่าตัวเองเปลี่ยนไป

ตอนนี้คิดว่าประสบความสำเร็จขนาดไหน
คิดว่าประสบความสำเร็จอย่างไม่คาดฝัน เพราะว่าเราเคยตั้งความหวังไว้ ว่าอยากจะทำงานในวงการบันเทิง แต่ว่าไม่ถึงขั้นคิดว่าจะดังขนาดนี้ บางทีก็พูดกับตัวเองว่า เราสั่งสมประสบการณ์มาพอสมควรแล้ว แต่ตอนนี้ความเป็นตลก ความที่เป็นคนอารมณ์ดี ใครๆ เห็นก็อยากคุยด้วย กลายเป็นปากต่อปากว่าดาราคนนี้มีคนชื่นชอบเยอะ ก็เลยกลายเป็นดัง จริงๆ แล้วทุกคนมีสิทธิ์เสมอตุ๊กกี้ แต่ตุ๊กกี้โชคดีที่เป็นคนอารมณ์ดี แค่เดินผ่าน คนก็ยิ้มให้เราแล้ว ตรงนี้ที่เราภูมิใจ ไม่ต้องสื่อสารอะไร คนก็หัวเราะแล้ว

เหมือนเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
โห กว่าที่ตุ๊กกี้จะได้ใช้คำนี้ ตุ๊กกี้ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอย่างมากเลยนะ ก่อนที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งตอนนี้คิดว่าประสบความสำเร็จมากๆ ตุ๊กกี้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมาเยอะมาก ถึงได้มีพ็อกเก็ตบุ๊กส์ส่วนตัว “อั๊กลี่ ตุ๊กกี้” ขึ้นมา คนจะได้รู้ว่า ความฝันมันสามารถเป็นจริงได้นะ ถ้าเราสู้กับมัน ถ้าเราทดสอบกับตัวเอง เชื่อว่านางฟ้าเทวดาเขาทดสอบเรา ถ้าเราผ่านมันไปได้ มันก็จะไปได้ด้วยดี ถ้าเราท้อเราไม่สู้ ความฝันมันก็ริบหรี่ แต่ตุ๊กกี้ เป็นคนฝืนกับชะตาชีวิต ลองสู้ ลองทำ ลองคิด ลองเปลี่ยนชะตาชีวิต ถ้าเขาบอกว่าไม่ แต่เราอาจจะใช่ก็ได้นะ ลองทำดู

 


  “ตุ๊กกี้” สุดารัตน์ บุตรพรหม

6 ปี ต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคอะไรบ้าง
6 ปี ตุ๊กกี้ต้องต่อสู้กับคำว่า ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เก็บเล็กผสมน้อย อดเปรี้ยวไว้กินหวาน คือถ้าเป็นคนอื่น อาจจะลาออกจากการเป็นพนักงาน เพื่อไปรับงานอื่นแล้ว แต่ถ้าเราใจร้อนตอนนั้น ตุ๊กกี้อาจจะไม่มีชื่อเสียงมากขนาดนี้ก็ได้ แต่ตุ๊กกี้เป็นคนใจเย็น ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เพราะเรามีคนดันเราอยู่แล้ว เรามีคุณปัญญา นิรันดร์กุล ที่มีรายการให้เราเล่น เรามีแก๊งสามช่า ที่คอยผลักดันเราให้มีชื่อเสียง ปั้นจนดัง มันต้องไปตามขั้นตอน ถ้าเราข้ามขั้นไป เราอาจจะไม่มีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้ก็ได้

จุดเริ่มต้นที่มาทำงานกับเวิร์คพอยท์
ตุ๊กกี้สมัครกับเวิร์คพอยท์มา 5 รอบ ได้ทำกำกับเวทีก็ทำไป ไม่เคยโดนเรียก ไม่เคยโดนสัมภาษณ์ พอเปลี่ยนแนวทางมาสมัครฝ่ายคอสตูม ก็โดนเรียกสัมภาษณ์ ความฝันของตุ๊กกี้คือ ขอเป็นอะไรก็ได้ ที่ได้ทำงานในบริษัทนี้ เพราะเชื่อมั่นในรากฐานของเวิร์คพอยท์ ว่าเขามีความมั่นคง ทำงานที่นี่น่าจะมีอะไรให้แก่ชีวิตเยอะแยะมากมาย แต่ว่าเป็นคนเดินตามดวง พอได้มาทำ ก็มีโอกาสเล่นชิงร้อย ชิงล้าน เมื่อก่อนได้เล่นบ้าง ไม่ได้เล่นบ้าง ก็เคยบอกตัวเองว่า ถ้าได้เล่นต่อไปจะทำให้ดีที่สุด การที่เราตั้งจุดมุ่งหมาย แล้วก็ขยัน โกยความรู้เข้าตัวเอง แล้วมีสิ่งแปลกใหม่ให้แก่ชีวิต มันเป็นผลดีสำหรับเรา ซึ่งก็ได้นำมาพัฒนาความเป็นตลกในชิงร้อยชิงล้าน แล้วพี่ๆ แก๊งสามช่า ก็สนับสนุนในการเป็นของแปลกของตุ๊กกี้ ทำให้รู้สึก ว่ามาถูกทางแล้ว ก็เลยพอที่จะภูมิใจที่จะใช้คำว่า เราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ 

ใครเป็นคนเห็นตุ๊กกี้ฉายแวว
คนแรกเลย พี่หม่ำ จ๊กมก วันนั้นตัวประกอบที่เขาจะเล่นเป็นหมอนวด เขาไม่มา  ด้วยความที่เราได้มาเป็นพนักงาน 2 อาทิตย์ กระแสการพูดถึงตุ๊กกี้เด็กใหม่ แรงมาก ท่าทางโดดเด่น พี่หม่ำก็เลยเรียกมาถาม ว่าถ้าไม่ซ้อมสามารถเล่นได้ไหม ตุ๊กกี้ก็บอกว่า หนูเรียนนาฏศิลป์มา 10 ปี แล้วก็เพิ่งออกมาจากภูเก็ต แฟนตาซี หนูไม่อายอยู่แล้วพี่ ก็เลยได้เล่น ปรากฏว่าผลการชวนของพี่หม่ำ และการดูแววของพี่ตา (ปัญญา) ก็เลยทำให้ได้ก้าวมาเป็นหนึ่งในแก๊งสามช่า

นานไหมกว่าจะกลมกลืนกับแก๊งสามช่า
ไม่นานเลย เพราะเราเป็นคนต่อปากต่อคำ พี่โหน่ง พี่เท่ง เห็นไม่ได้ เป็นต้องแหย่ เหมือนเราเป็นของแปลก พี่ส้มก็กัดเรื่องความสวยความงามตลอด จนคลุกคลีกัน ทุกคำที่พูดจากัน เป็นเหมือนการซ้อมมุก ได้โต้ตอบกัน เราใช้ความเป็นส่วนตัว เล่นในชิงร้อยชิงล้านด้วยนะ เหมือนพี่เขาเป็นกันเอง ทำให้เราไม่เกร็ง และพี่เขาก็เปิดประตูรับเรา ถ้าเรามีความสามารถก็มา พี่ๆ เขาเปิดโอกาสให้อย่างเต็มที่ ไม่เคยกั๊ก ไม่เคยปาดหน้าเค้ก เวลาเล่น ทุกคนจะเงียบ ให้เราเล่นเต็มที่ โดยที่เราไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย

ส่วนสำคัญที่ทำให้มาถึงจุดนี้ได้ คือความกล้า และโอกาส
คือตุ๊กกี้จะเป็นคนที่พูดตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นสื่อทีวี สิ่งพิมพ์ ตุ๊กกี้จะพูดอยู่ 3 อย่าง ว่าตุ๊กกี้มีพรสวรรค์ คือความกล้าแสดงออก สองมีพรแสวง เราพยายามหาความรู้ สิ่งแปลกใหม่ให้ตัวเองไม่ซ้ำซาก เปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่เรื่อยๆ สามถ้าทุกคนมีเหมือนตุ๊กกี้ ก็จะประสบความสำเร็จเหมือนกัน ก็คือโอกาส ซึ่งเวิร์คพอยท์หยิบยื่นโอกาสให้ตุ๊กกี้ เลยทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ

ดังแล้วกลัวจะเหลิงบ้างไหม
ได้ยินบ่อยมาก ที่ว่าตุ๊กกี้ดังแล้วลืมตัว แต่ถ้าไม่ได้คบตุ๊กกี้จริงๆ อย่าได้พูดคำนั้นเลย เพราะว่าคนที่อยู่ข้างเรา ทุกคนต่างก็รู้ว่าตุ๊กกี้เป็นคนยังไง ถ้าได้ยินจากปากคนอื่น ตุ๊กกี้จะทำหูทวนลม คนที่ตุ๊กกี้คบอยู่ทุกวันนี้ เขายังไม่พูดเลย ว่าตุ๊กกี้ดังแล้วลืมตัว เพราะถ้าคบกับเราจริง จะรู้ว่าตุ๊กกี้ก็ยังกินข้าวกล่อง ยังไหว้รปภ. ยังไหว้แม่บ้าน ยังทักทายเพื่อนพนักงานเหมือนเดิม ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ยังเฮฮาเหมือนเดิม ฉะนั้นคำว่าเหลิงสำหรับตุ๊กกี้ไม่มีหรอก เพราะเรายึดแบบอย่างที่ดี เช่น พี่หม่ำยังลากรองเท้าแตะไปกินส้มตำ ยังแบ่งปันงานให้น้องๆ เหมือนเดิม ส่วนพี่เท่ง ยังใส่กางเกงขาสั้น เสื้อยืดสมถะเหมือนเดิม ทั้งที่ขับแคมรี่มา ส่วนพี่โหน่ง ข้าวปลาอาหารมื้อเที่ยง ก็ยังซื้อมาอยู่ทุกวันนี้ พี่ส้มเวลาว่างก็ชอบทำหมูโค้กมาให้กิน ทุกคนปฏิบัติตัวให้เราเห็นเป็นแบบอย่าง ฉะนั้นสิ่งแวดล้อมเราดี เราก็ไม่มีคำว่าลืมตัว นอกจากคนเขียนไปเอง

 


   

ตอนนี้ชีวิตยังขาดอะไรอีกไหม
ไม่ขาดอะไรนะ คิดว่าครบแล้ว มีความสุขแล้ว ถ้าจะขาดก็ขาดความสวย ขาดความสูง น่าจะขาดตลอดชีวิตนะ (หัวเราะ) เติมเต็มไม่ได้เลยสิ่งนี้ แต่ขาดไปแล้วชีวิตก็ยังอยู่ได้ ยังหายใจอยู่ ไม่เป็นไร เงินซื้อไม่ได้ ก็แค่นี้ก็พอแล้ว พอเพียง

ภูมิใจขนาดไหน ที่สร้างเสียงหัวเราะให้คนได้
ภูมิใจมากเลยนะ ทุกครั้งที่ออกไปแล้วมีคนกรี๊ด จะวัดตัวเองด้วยการให้ดาว ถ้าเทปนี้กรี๊ดดังมาก ให้ 4 ดาว ให้กำลังใจตัวเองไป เวลาได้ยินเสียงกรี๊ดจะภูมิใจมากเลย ถ้าตอนนั้นเครียดแล้วได้ยินคนกรี๊ด จะมีความสุขมากเลย ชอบเห็นทุกคนมีความสุข ขนาดตัวตุ๊กกี้ยังมีความสุขเลย แล้วทำไมคนอื่น จะไม่มีความสุขล่ะ

ในช่วงมีกระแส ต้องกอบโกยอะไรให้แก่ชีวิตบ้าง 
พูดตรงๆ ตุ๊กกี้ยังไม่รวย พออยู่พอกินอย่างมีความสุขไป แต่ถ้ามีโอกาส โดยที่เวิร์คพอยท์หยิบยื่นให้ ตุ๊กกี้ทำได้ทุกอย่าง มีอะไรที่ยังไม่ได้ทำ หยิบยื่นมาเถอะ รับหมด เพราะอายุ 30 ยังมีแรงอยู่

สิ่งที่ต้องการทำให้ครอบครัวล่ะ
ทุกคนก็อยู่สบาย ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนเดิมแล้ว อาชีพที่เขาทำทุกวันนี้ คือพ่อขับรถเมล์ แม่เป็นกระเป๋ารถ อยู่ที่จ.อุดรธานี เป็นอาชีพที่เขาไม่อยากอยู่บ้านนิ่งๆ เชื่อไหมว่าบางทีว่างๆ แม่ตุ๊กกี้ยังออกไปไร่ ไปนา รับจ้างทำนาทำไร่อยู่เลย ได้วันละสองร้อย ไม่คุ้มกับค่ายาหรอก แต่เขาไม่อยากอยู่บ้านนิ่งๆ เขาเหงา เราเคยห้าม ว่ามันเหนื่อย อย่าไปเลย แต่ความสุขเขา ตอนนี้ไม่ห้ามแล้ว ไปเลยค่ะแม่ ถ้าแม่มีความสุข (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ปัญหาหนักที่แก้ให้ครอบครัวไม่ได้ คือโรคประจำตัวของพ่อ คือเป็นโรคเกาต์ ต้องใช้กำลังใจรักษา ยาแค่ทุเลา ไม่หายขาด ทุกวันนี้ เท่าที่ทำได้ คือให้พ่อลืมโรคเกาต์ให้ได้มากที่สุด หายคงไม่หาย แต่ขอให้คงสภาพตลอดไป ถ้าเรามีความสุข พ่อก็ต้องมีความสุข อยากให้พ่อเห็นตุ๊กกี้มีความสุขมากๆ ถ้าพ่อเห็นเรามีความสุข เขาก็จะหมดความกังวลกับลูกคนนี้ ทุกวันนี้เขายิ้มร่าเริงสดใส ไม่คิดมากเรื่องอนาคตของลูกแล้ว เพราะแต่ละคนมีอาชีพมั่นคง น้องสาวตุ๊กกี้เป็นคุณหมอ น้องชายคุมรถให้พ่อ ยิ่งตอนนี้เสาหลักของครอบครัวคือตุ๊กกี้ ก็หายห่วงแล้ว เขาเลยไม่คิดมาก

Credit: teenee.com
26 ก.ค. 53 เวลา 21:27 15,946 28 228
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...