https://www.catdumb.tv/nsfw-historical-facts-378/
มันเป็นเรื่องที่เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่ว่าจะในยุคสมัยไหน “เรื่องเพศ” ก็จะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์แบบไม่สามารถแยกออกจากกันได้ แต่ก็เช่นเดียวกับที่โลกนั้นเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย สิ่งที่เคยถูกเห็นเป็นเรื่องธรรมดาในอดีตก็อาจจะถูกมองเป็นเรื่องแปลกในปัจจุบันก็เป็นได้
ดังนั้นเพื่อนำเสนอเรื่องราวของโลกในอีกมุมที่คุณอาจไม่เคยรู้ในวันนี้ เราจะไปชมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องเพศสุดแปลกจากในอดีตกัน แต่จะมีอะไรบ้าง เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า
1. เซ็กส์ทอยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เชื่อกันว่าเป็นดิลโด้ซึ่งทำจากหินทราย โดยมันมีอายุราวๆ 28,000-32,000 ปี
2. ในอียิปต์โบราณ ศพของผู้หญิงมักจะถูกปล่อยให้เน่าก่อนจะนำไปทำพิธีรักษาศพอื่นๆ เพื่อป้องกันการร่วมเพศกับศพ
3. ที่ปอมเปอีมีการค้นพบภาพฝาผนังจำนวนมาก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการร่วมเพศ
โดยมันมักถูกพบตามสถานบริการ จะคาดกันว่าน่าจะใช้ปลุกอารมณ์ลูกค้า และนำเสนอไอเดียท่าทางการร่วมเพศใหม่ๆ
4.มีบันทึกข่าวลือในอดีต ว่าคลีโอพัตรามักจะนำผึ้งมาใส่ในน้ำเต้าหรือกล่องกระดาษปาปิรุส เพื่อใช้เป็น “เครื่องสั่นสะเทือน”
5. งานศิลปะทางเพศที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เชื่อกันว่าอยู่ที่จีน โดยมันเป็นงานศิลปะสกัดหินอายุ 3,000 ปี ซึ่งแสดงการร่วมเพศแบบไบเซ็กชวลไว้
6. แพทย์ในยุควิคตอเรียบางครั้งก็ต้องช่วยสำเร็จความใคร่ให้คนไข้ เพื่อรักษาอาการฮิสทีเรีย
7.ในยุคกลาง (ราวๆ ปี 1500) ของฝรั่งเศส มีการทดสอบความแข็งแรงทางเพศอย่างจริงจัง
โดยในบางครั้งฝ่ายชายก็จะต้องสำเร็จความใคร่ตัวเองต่อหน้าศาลเพื่อเป็นการพิสูจน์สมรรถนะเลย
8.ในสมัยอยุธยา ผู้หญิงที่จะถวายตัวจะต้องมีการรมให้อวัยวะให้หอม และฝึกท่า “พับเป็ด” เพื่อไม่ให้เท้าของหญิงไปสัมผัสพระวรกายของพระเจ้าแผ่นดินด้วย
9.ในช่วงปี 1500 ชาวยุโรปเคยมีการฉีดปรอทใส่ท่อปัสสาวะเพื่อรักษาโรคหนองในด้วย
11. เชื่อกันว่า กริกอรี รัสปูติน เป็นชายผู้มีชื่อเสียงของรัสเซีย มีองคชาตขนาดใหญ่ถึง 13 นิ้ว
แถมเจ้า “ผมไม่เล็กนะครับ” ที่คาดว่าเป็นของเขา ก็ถูกเก็บไว้ที่ พิพิธภัณฑ์ความเร้าอารมณ์ในประเทศรัสเซียเสียด้วย
12. ตามความเชื่อของลัทธิเต๋าในอดีต การถึงจุดสุดยอด (ของผู้ชาย) จะทำให้เสียสุภาพ
นั่นทำให้ผู้ชายในลัทธิพยายามอย่างมากที่จะไม่ถึงจุดสุดยอดทั้งจากการช่วยตัวเอง และจะพยายามถึงจุดสุดยอดในการมีเซ็กซ์ หลัง “ได้พลังชีวิต” จากฝ่ายหญิง (ทำให้ถึงสุดสุดยอดนั่นล่ะ) เท่านั้น
13.สาวยุคโรมัน ในบางครั้งก็จะนำเหงื่อไคลของกลาดิเอเตอร์มาใช้เป็นยาปลุกเซ็กซ์
ที่มา. https://www.catdumb.tv/nsfw-historical-facts-378/