1.น้องไช้ จูงโรบิน ฟาน เพอร์ซี
2.น้องพลอย จูงซาบี เฮอร์นันเดซ
แชมป์โลก สเปน คว้าถ้วยกลับบ้านฉลองชัยไปแล้ว
สองเด็กไทยก็กลับถึง ไทยแล้วเช่นกัน
ใครที่เกาะติดขอบจอนัดชิงศึกบอลโลก 2010 คงได้เห็นรอยยิ้มสดใสของสองเด็กไทยในเสื้อแจ๊กเกตสีเหลือง
สองเท้า เล็กๆ ของเด็กไทยกับภารกิจอันยิ่งใหญ่ในสนามฟุตบอลโลกคงไม่ธรรมดา
วันนี้ น้องพลอย ด.ญ.พลอยไพลิน เบรเซียร์ และน้องไช้ ด.ช.ชานนท์ เลิศนีรนาท ผู้ชนะเลิศจากโครงการ แมคโดนัลด์ เพลย์เยอร์ เอสคอร์ต ผู้ทำหน้าที่จูงนักเตะลงสนาม มีเรื่องราวความทรงจำดีๆ มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง
วัน ที่ 8 ก.ค. น้องพลอยและน้องไช้ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเครื่องว่า "หลังจากที่บราซิลและอาร์เจนตินา ทีมที่พวกเราเชียร์ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้ต้องทำใจแล้วเชียร์ทีมใหม่ จะได้สนุกกับฟุตบอลโลก 2010 ครั้งนี้"
ไช้บอกว่า "เอาใจช่วยทีมฮอลแลนด์ครับ เพราะคุณพ่อเชียร์อยู่ และอยากจูงมืออาร์เยน รอบเบน เพราะเป็นนักฟุตบอลที่มีทักษะการครองบอลยอดเยี่ยม ยิงประตูได้เฉียบคม" ด้านน้องพลอยบอกว่า "อยากจูงมือเฟอร์นันโด ตอร์เรส ค่ะ เพราะนอกจากจะยิงประตูเก่งแล้ว ยังหล่ออีกด้วย"
16 ชั่วโมงบนท้องฟ้า พาสองหนูน้อยจากเมืองไทยถึงเมืองโจฮันเนสเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับ 1 ของแอฟริกาใต้ ทั้งสองเดินทางไปพร้อมกับคุณแม่ คุณเก๋ แม่น้องพลอย และคุณเพชร แม่น้องไช้ คุณแม่เล่าว่าพลอยและไช้ถูกจับตามองตั้งแต่ลงสนามบิน เพราะไปถึงเป็นกรุ๊ปแรกๆ สื่อมวลชนมารอทำข่าวสัมภาษณ์ตัวแทนประเทศไทยกันยกใหญ่
1.ทีมกระทิงดุ
2.หนู น้อยเอสคอร์ตเพลย์เยอร์นัดชิง
3.น้องไช้เฉียดถ้วยบอลโลก
4.น้องไช้นำ ทัพกังหันส้ม
5.กับเพื่อนๆ เอสคอร์ตเพลย์เยอร์
6.เด็กไทยก้าวสู่สนาม บอลโลก
7.น้องไช้
8.น้องพลอยผูกโบธงชาติไทยด้วย
9.ดวลแข้งรุ่นเล็ก
โชคดีที่ไช้และพลอยพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง จึงพรีเซ็นต์ว่า I come from Thailand บางคำที่ยากเกินไป สองหนูน้อยก็ไม่หวั่น ถามล่ามว่าพี่นักข่าวถามว่าอะไรแล้วก็ตอบเป็นภาษาไทย
แต่ภาษาที่ สร้างความประทับใจให้สื่อต่างชาติมากที่สุด คือ "ภาษากาย" ทั้งสองเต้นเพลง วาก้า วาก้า ให้ดู ด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู ขนาดข่าวภาคค่ำของแอฟริกาใต้เอาไปออนแอร์
เช้าวันที่ 10 ก.ค. น้องพลอยและน้องไช้เดินทางไปร่วมกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์กับเด็กๆ อีก 16 คนทั่วโลก ที่มาจากประเทศต่างๆ เช่น ตุรกี อังกฤษ ไซปรัส แอฟริกาใต้ โดยจำลองบรรยากาศการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบชิงชนะเลิศ แบ่งเด็กทีมละ 9 คน ให้เล่นฟุตบอลแข่งกัน
ไช้อยู่ทีมฮอลแลนด์ ทำหน้าที่เป็นกองกลาง ส่วนพลอยอยู่ทีมสเปน แถมจับได้เบอร์ 8 สวมบทเป็น เดวิด บีญ่า เล่นกองหน้า ร่วมกับเพื่อนๆ เพลย์เยอร์เอสคอร์ตจากทั่วโลก ผลวันนี้ ฮอลแลนด์ ชนะ สเปน ไปแบบหืดขึ้นคอ!!!
ช่วงบ่ายไปชมเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า Lion & Rhina Park สวนสัตว์ขนาดใหญ่ของแอฟริกาใต้ ที่มีสัตว์พื้นเมืองมากหน้าหลายตา ก่อนปิดท้ายด้วยการรับประทานอาหารพื้นเมือง
และแล้ววันสำคัญก็มาถึง เช้าวันที่ 11 ก.ค. มีนัดซ้อมใหญ่ พี่ๆ ทีมงานเตรียมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย พร้อมกระเป๋าสะพาย รองเท้า ให้เด็กแต่ละคน รับของแล้วแต่งชุดเหมือนกันหมด ก่อนจะพาทุกคนนั่งรถโค้ชเข้าสู่สนามซ็อกเกอร์ ซิตี้ สเตเดี้ยม ซึ่งยิ่งใหญ่มาก
หลังผ่านระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด รถจะมาหยุดที่ปลายอุโมงค์ที่ใช้สำหรับนักกีฬาพักผ่อนและเตรียมตัว
จาก นั้นทีมงานพาน้องๆ ไปเทรน พลอยเล่าว่า "เขาจะเทรนท่าเดิน คือเดินตัวตรงไปข้างหน้า ห้ามยุกยิก แตกแถว ห้ามยิ้มกับกล้อง ห้ามใส่เครื่องประดับอื่นๆ ที่สำคัญห้ามคุยกับนักกีฬา"
ไช้กล่าวว่า "จริงๆ ก็ไม่มีเวลาสื่อสารกันมาก เพราะต่างฝ่ายต่างมาเจอกันที่หน้าประตู ก่อนเดินเข้าสนาม เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็มีช่องว่างอยู่ว่าถ้านักกีฬาคุยกับเรา เราก็คุยกับเขาได้"
ซ้อม อยู่ 5 รอบ ท่ามกลางอุณหภูมิ 2-7 องศาเซลเซียส ไช้กับพลอยไม่มีท่าทีหงุดหงิด เพราะรู้ว่าทุกฝ่ายก็ต้องซ้อมหนักเหมือนกัน เพื่อให้ทุกอย่างออกมาดี
พลอยเล่าว่า "เหมือนทีมงานเขาจัดให้แล้วว่าใครจะได้จูงมือใคร ทีมไหน เรียงตามแถว ทีแรกพลอยได้จูงทีมฮอลแลนด์ แต่ว่าเชียร์สเปนก็เลยอ้อนทีมงานขอเปลี่ยนได้มั้ย โชคดีมีเพื่อนคนหนึ่งอยากเปลี่ยนมาจูงฮอลแลนด์เช่นกัน ก็เลยไม่มีปัญหา"
ส่วน ไช้ "ผมได้จูงฮอลแลนด์ซึ่งดีมาก ตรงใจแล้ว แต่คงไปเลือกว่าจูงใครไม่ได้ ผมก็เลยแล้วแต่ดวง"
ท้ายสุดไช้ได้จูงมือ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ศูนย์หน้าทีมชาติฮอลแลนด์ ส่วนพลอย จูงมือ ซาบี เฮอร์นันเดซ กองกลางทีมชาติสเปน
นาทีนั้นรู้สึกอย่างไร ไช้บอกว่า "ภาคภูมิใจอย่างที่สุด ตอบไม่ถูก บรรยากาศจริงมันยิ่งใหญ่มาก ยิ่งใหญ่กว่าชมในจอทีวีสิบเท่า ร้อยเท่าก็ว่าได้ ทั้งแสง สี เสียง ผู้คน อารมณ์ ทุกอย่างมันดีไปหมด สุดยอดจริงๆ และที่ประทับใจมากคือหญ้าครับ หญ้าในสนามไม่มีก้อนดินดำๆ ให้เห็นเลย เรียบเนียนน่าลงไปเตะบอลมากๆ แต่หญ้าริมขอบสนามเป็นของปลอมนะ ผมแอบเห็น"
พลอยบอกว่า "หนูได้เห็นสนามจริงแวบเดียว เพราะครึ่งหลังง่วงมากและหนาวมากก็เลยหลับไปก่อน มารู้อีกทีตอนเสียงวูวูเซลาดังกึกก้อง คนโห่ร้องดีใจยกใหญ่ พอถามคุณแม่ว่าทีมอะไรชนะ คุณแม่บอกว่าสเปนก็ดีใจมาก ลุกขึ้นมาเต้นด้วย ลืมง่วงไปเลยค่ะ"
น้องพลอยและน้องไช้บอกว่า เป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญที่พิเศษมาก เป็นความภาคภูมิใจที่ไม่มีวันลืมเลือน นอกจากนั้นก็มีของที่ระลึก เช่น เสื้อคลุมแขนยาว เสื้อกีฬาแขนสั้น กางเกงกีฬา รองเท้าสตั๊ด ลูกบอล และตุ๊กตาซาคูมิ ทั้งหมดจะเก็บเอาไว้อย่างดี เอาไว้ชมที่บ้าน
"มองแล้วก็ภาคภูมิ ใจว่า ครั้งหนึ่งเคยมีส่วนร่วมกับฟุตบอลโลกนัดประวัติศาสตร์"
credit: www.yenta4.com