รวม 10 แหล่งดำน้ำ สวรรค์ใต้ทะเล

แม้ช่วงนี้จะไม่เหมาะกับการเที่ยวทะเลสักเท่าไหร่ แต่มีข้อมูลไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะหมดฝนแล้ว และทะเลหน้าหนาวก็จะ กลับมาสวย งามเหมือนเดิม

มีสถานที่ดำน้ำ 10 แห่งของเมืองไทย หรือเรียกว่าเป็นสวรรค์ใต้ทะเลที่อยากแนะนำ

1. เริ่มกันที่แรก "หมู่เกาะสิมิลัน" จ.พังงา 1 ใน 10 แหล่งดำน้ำลึกยอดฮิตติดอันดับโลก สวรรค์ของนักดำน้ำ ขนาดพื้นที่กว่า 140 ตาราง กิโลเมตร จึงอุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ เกาะสิมิลัน หรือ "เกาะแปด" เกาะใหญ่ที่สุด ส่วนจุดน้ำลึกคือ บริเวณที่มี "กองหินใต้น้ำ 3 ลูก" ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ทางทะเล และสวยงามมาก

2. แห่งที่สองคือ "เกาะปาหยู" มีจุดดำน้ำตื้นและน้ำลึก มีทั้งปะการังแข็ง ปะกา รังอ่อน กัลปังหา และฝูงปลาหลากชนิด

"หินปูซา" หรือ "หินหัวกะ โหลก" บริเวณ "เกาะหก" มีปะกา รังอ่อนสวยงามมีถ้ำใต้น้ำหลายแห่ง

"เกาะเก้า" มีกองหินแฟนตาซี เต็มไปด้วยปะการังอ่อน กัลปังหา มักพบปลาฉลามครีบเงิน ฉลามเสือดาว และฉลามหูขาว "เกาะบอน" พบกระเบนราหู "เกาะตาชัย" จุดดำน้ำลึกพบฉลามวาฬ

3. แห่งที่สาม "หมู่เกาะสุรินทร์" จ.พังงา ว่ากันว่า "เป็นสุดยอดแหล่งดำน้ำที่สวยที่สุดของไทย" แหล่งปลาการ์ตูนและเต่าทะเล หายาก เป็นจุดดำน้ำที่พบฉลามวาฬ บ่อยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นจุดดำน้ำตื้นที่สวยงามอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

4. แห่งที่สี่ "หินม่วงหินแดง" จ.กระบี่ แหล่งดำน้ำสุดยอดของอันดามันใต้ เป็นแหล่งปะการังอ่อนหลากสีสัน มีสัตว์น้ำขนาดใหญ่อย่างปลาวาฬ, ฉลามวาฬ และแมนต้าเรย์

ส่วน "หมู่เกาะห้า" ของหมู่เกาะ ลันตา เป็นเกาะหินปูนขนาดเล็ก เป็นแอ่งน้ำล้อมรอบเป็นวงกลมด้วย แก่งหินขนาดใหญ่

5. แห่งที่ห้า "หมู่เกาะพีพี" กระบี่ มีจุดดำน้ำคือ "กองหินมูสัง" เป็น กองหินกลางทะเลลึก เป็นแนวกองหินใต้น้ำขนาดใหญ่หลายกองเชื่อมต่อกัน ปกคลุมไปด้วยปะการังสี ชมพู

"เกาะคู่" หรือ "กองหินปิดะ" เป็นจุดดำน้ำที่อาจพบฉลามเสือดาว กระเบนราหู ปลาจิ้มฟันจระเข้ปีศาจ หรือปลากบหลากหลายสีสัน "ชาร์ก พอยต์" หรือกองหินใต้น้ำใกล้เกาะพีพี

6. แห่งที่หก "เกาะจาบัง" อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล แหล่งปะการังใต้น้ำเจ็ดสี ดอกไม้ทะเล ดาวขนนก ฟองน้ำครกขนาดใหญ่

7. แห่งที่เจ็ด "หมู่เกาะราชา" ทางใต้ของเกาะภูเก็ต มีแนวปะการังแข็งปกคลุม มีปลาดาว ขนนกสีสด ส่วนเกาะราชาน้อย จุดดำน้ำอยู่ที่เกาะล้านด้านเหนือ เป็นดงปะการังอ่อน เป็นที่อยู่ของฝูงปลานานาชนิด

8. แห่งที่แปด "หินมูสังนอก" และ "หินมูสังใน" เป็นดงดอกไม้ทะเลและปะการังอ่อน หินมูสังในเป็นจุดดำน้ำที่มีความหลากหลายของสัตว์ทะเลชั้นสูง

9. แห่งที่เก้า "เกาะเต่า" จ.สุราษฎร์ธานี จุดดำน้ำที่สวยที่สุดของอ่าวไทย อาทิ เกาะหางเต่าหรือเกาะนางยวน เหมาะสำหรับนักดำน้ำ มือใหม่ เพราะกระแสน้ำนิ่ง กระแสลมไม่รุนแรง

10. แห่งที่สิบ "หมู่เกาะช้าง" จ.ตราด มีจุดดำน้ำที่น่าสนใจ โดยเฉพาะที่เกาะรัง เกาะยักษ์ นอกจากนี้ ยังมีตามจุดเรือจมอย่าง เรือจมสุทธาทิพย์ เรือกลไฟเหล็ก ซึ่งจมอยู่ระหว่างเกาะโรงโขนกับเกาะจวง

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของท้องทะเล ไทย ที่กำลังรอให้คุณไปค้นหา และสัมผัสความงดงามของโลกใต้ทะเล แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรละเลยคือ การดำน้ำเป็นเพียงการไปเยี่ยม เยือนมิใช่การบุกรุก เพื่อให้ธรรมชาติอันงดงาม ใต้ท้องทะเลคงอยู่คู่ทะเลไทยไปอีกนาน