ตะละแม่วีนัส

 


1.ตกงาน
มีผู้รู้กล่าวไว้ว่า มนุษย์ทุกคนต้องการอยู่สองอย่างคือ งานกับความรัก ซึ่งจริงๆแล้วในระยะยาวการหางานทำมักง่ายกว่าการค้นหาความรัก ดังนั้นอย่าคิดว่า ว้าว ตกงานแล้วฉันจะได้มีเวลาออกเดทมากขึ้น สิ่งที่ควรโฟกัสเป็นอย่างแรกคือ ใช้เวลาและพลังงานมาสร้างความมั่นคงให้ตัวเองด้วยการมุ่งมั่นหางานใหม่ เพราะเงินเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิต การตกงานทำให้สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง และการออกเดทจะเวิร์คสุดๆก็ต่อเมื่อทั้งคู่มั่นคง มั่นใจและมีความสุข


2.ไม่มีที่อยู่
น่าแปลกใจที่เดี๋ยวนี้คนมักย้ายมาอยู่ด้วยกันทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน เพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพิ่งถูกไล่ที่หรือสูญเสียที่พักด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งไม่ใช่เหตุผลที่เข้าท่านัก ความจำเป็น ไม่ใช่พื้นฐานที่ดีสำหรับความสัมพันธ์แบบระยะยาว การตัดสินใจย้ายมาอยู่กับคนอื่นเป็นเรื่องซีเรียส ไม่ควรตัดสินใจแบบฉาบฉวย และไม่ควรทำเพราะจำเป็นต้องหาที่ซุกหัวนอน ทางที่ดีลองหาอพาร์ทเม้นต์หรือรูมเมทแล้วลืมเรื่องเดทไปสักพักจนกว่าจะหาบ้านเป็นหลักแหล่งได้ เพราะบ้านเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่สำคัญ เหมือนเป้นที่หลบภัยจากโลกภายนอก การไม่มีบ้านจะทำให้เครียดได้
 

3.เสียเพื่อน
มิตรภาพต่างจากการออกเดทอย่างแน่นอนที่สุด การเสียเพื่อนไปไม่ว่าแบบไหนย่อมมีผลกระทบต่อการเดท ถ้าเพื่อนย้ายไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ก็ลองไปหางานอดิเรกทำเพื่อให้ยุ่งเข้าไว้ และเจอคนหน้าใหม่บ้าง ถ้าดูดีเข้าท่าเข้าทางก็จะได้จัดการอัพเกรดเป็นเพื่อนกันไป หรือไม่ก็เขียนจดหมายหรือส่งอีเมล์ไปคุยกับเพื่อน ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบไม่ให้ขาดหายกันไป


4.พ่อแม่เสียชีวิต
หนึ่งในโศกนาฏกรรมชีวิตที่ทุกคนต้องเจอคือการสูญเสียบุพการี ทำให้เรากลายเป็นกำพร้าไม่ว่าจะอายุแก่หงำเหงือกแค่ไหนก็ตาม ซึ่งจะสร้างความรู้สึกโศกเศร้าหดหู่ให้กับชีวิตไปช่วงเวลาหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อแม่เป็นส่วนสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับการออกเดทมาก เพราะท่านทั้งสองเป็นบุคคลแรกๆในชีวิต และอาจเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดซึ่งทำให้เราเรียนรู้การเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เราเรียนรู้ด้วยการมองดูการกระทำของพ่อแม่และเลียนแบบ การสูญเสียท่านจึงต้องเยียวยาให้หายดีเสียก่อนจะออกไปสานสัมพันธ์กับมนุษย์อื่นต่อไป
 

5.หมาตาย
ไม่ว่าจะเป็นแมว นกแก้ว ปลา หรือสัตว์เลี้ยงใดๆ ตามหลักจิตวิทยาถือว่าสัตว์เลี้ยงคือวัตถุทางความรัก เราทั้งกอดทั้งโอบอุ้มเลี้ยงดูมัน แต่การรับมือกับสัตว์เลี้ยงแตกต่างกับคน (ถึงแม้จะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องดูแลมากแค่ไหน สิ่งที่มันทำไม่ได้ก็คือพูดคุย เหน็บแนม สอพลอ โต้เถียงกับเรา หรือไปบ่นกับแม่เราว่าเราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้) อย่านำมาปนกันให้สับสนค่ะ


6.สับสนชีวิต
ถ้ารู้สึกว่าชีวิตกำลังสับสน ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครหรือต้องการอะไร แถมยังมีความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ที่อยากซ่อนเอาไว้ และหนึ่งในวิธีซ่อนที่ดีที่สุดคือจับตัวเองเข้าไปอยู่ในชีวิตคนอื่น ปัญหาก็คือไม่ว่าช้าหรือเร็วเราก็ต้องเอาชีวิตตัวเองกลับคืนมาอยู่ดี เพราะฉะนั้นจัดการกับชีวิตตัวเองให้เรียบร้อยเสียก่อนค่อยเริ่มเกี่ยวพันกับคนอื่น


7.แต่งงานแล้ว
จริงๆแล้วข้อนี้ไม่เห็นต้องบอกเลยนิ คนแต่งงานแล้วและมีคู่เป็นตัวเป็นตนจะออกเดทได้อย่างไร ถ้าอยากเดทก็อย่าแต่งงาน และถ้าแต่งงานแล้วก็จัดการกับชีวิตคู่ของตัวเองซะ ถ้าไม่ไหวจริงๆก็แยกทางกันไปให้สิ้นเรื่องสิ้นราว อย่าไปลากคนอื่นมาเดือดร้อนเลยค่ะ ในทางตรงกันข้ามถ้ายังโสดอยู่ก็อย่าไปยุ่งกับคนแต่งงานแล้ว อย่าไปเสียเวลากับคนที่ไม่ซื่อสัตย์กับคู่ของตัวเองดีกว่า คนที่แต่งงานแล้วก็แค่มาทำเฟลิร์ทเรี่ยราดแก้เซ็ง อย่าไปยุ่งด้วยเป็นดีที่สุด


8.ยังคบกับใครอยู่
สิ่งที่ไม่ควรทำคือเดทกับคนหนึ่งโดยที่ยังคาราคาซังอยู่กับอีกคน จริงๆแล้วการเดทหลายคนในเวลาเดียวกันก็ทำได้ถ้าไม่โกหกกัน แต่ก็ทำได้แค่เฉพาะช่วงแรก เพราะพอถึงจุดหนึ่งก็ต้องเลือกใครคนใดคนหนึ่ง และเลิกกับคนที่เหลือ ไม่มีใครเดททีละหลายคนได้ตลอดไป และคนพวกนั้นก็จะไม่ยอมเป็นช๊อยส์ให้เลือกอยู่แบบนี้ตลอดไปเช่นกัน


9.แยกกันอยู่
การแยกกันอยู่ก็ยังหมายความว่าแต่งงานแล้วนั่นละ ยังไงก็ยังค้างคากันอยู่นั่นเอง การเดินออกไปจากความสัมพันธ์ที่อยู่กันมานานเป็นเรื่องยากมาก แต่การใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือช่วยเยียวยาความรู้สึกทางอารมณ์นั้นไม่เวิร์คหรอกค่ะ แถมยังเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่ารักและไม่ยุติธรรมต่อคนๆนั้นเลย


10.หย่าร้างไม่ถึงหนึ่งปี
ถึงแม้ว่าแยกกันอยู่และตัดใจเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังต้องใช้เวลาเยียวยาเรื่องนี้อยู่ดี เพราะอาการหวนคิดคำนึงถึงความทรงจำเก่าๆมักผุดโผล่ขึ้นมาเป็นระยะ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดอารมณ์และความรู้สึกพวกนี้ไม่ให้กำเริบซ้ำซากก็คือหลังหย่าร้างควรรอเวลาสัก 1 ปีแล้วค่อยเริ่มต้นเดทอีกครั้ง เวลาหนึ่งปีจะทำให้เรารู้ว่าควรทำอะไรให้ตัวเองได้บ้าง และความผิดพลาดที่ผ่านมาเกิดจากอะไร จะได้เป็นบทเรียนไม่ให้เกิดขึ้นอีก การงดเดทหนึ่งปีไม่ได้หมายความว่าต้องกักบริเวณตัวเองอยู่กับบ้าน เราสามารถออกไปเที่ยวกับเพื่อนเพศเดียวกันได้ ไปทำงาน ออกกำลังกาย เข้าคอร์สอะไรสักอย่าง เข้าสัมมนาหรือกิจกรรมสาระพัด นี่คือเวลาที่เราสามารถลงทุนเพื่ออนาคต และเมื่อเวลาหนึ่งปีผ่านพ้นไป ความมั่นใจในตัวเองและสมดุลชีวิตก็จะกลับคืนมา ชีวิตจะสดใสปิ๊งปั๊งอีกครั้ง