พยาธิไส้เดือน ขนลุก
ในตัวเราอาจจะมีก็ได้ แต่!! อาจจะไม่รู้
มันอยู่ในลำใส้ครับ
โรคพยาธิไส้เดือน
โรคพยาธิไส้เดือน (อังกฤษ: Ascariasis) เป็นโรคของมนุษย์ซึ่งเกิดจากพยาธิไส้เดือน (Ascaris lumbricoides) ประมาณกันว่าหนึ่งในสี่ของประชากรโลกมีการติดเชื้อพยาธิดังกล่าว[1] โรคพยาธิไส้เดือนมักเกิดในเขตร้อนและในบริเวณที่สุขลักษณะไม่ดี
การติดเชื้อพยาธิไส้เดือนมักเกิดจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนไข่พยาธิ ตัวอ่อนของพยาธิจะออกมาจากไข่และไชผ่านผนังลำไส้ เข้าไปสู่ปอด และออกมายังทางเดินหายใจ ก่อนจะถูกกลืนกลับเข้าไปและเจริญเป็นตัวเต็มวัยในลำไส้ซึ่งมีความยาวถึง 30 เซนติเมตร (ประมาณ 12 นิ้ว) เกาะติดกับผนังของลำไส้
ผู้ที่ติดเชื้อพยาธิไส้เดือนอาจไม่มีอาการหากมีการติดเชื้อในปริมาณน้อย ผู้ป่วยที่มีอาการมีการอักเสบ ไข้ และท้องเสีย และมีอาการแทรกซ้อนจากการไชไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายของพยาธิตัวอ่อน
[แก้]
วงชีวิตของพยาธิ
พยาธิตัวเต็มวัย (1) อาศัยในลำไส้เล็ก ตัวเมียจะออกไข่ประมาณ 200,000 ฟองต่อวัน ซึ่งจะออกมาพร้อมกับอุจจาระ (2) ไข่ที่ไม่ได้รับการผสมแม้จะออกมากับอุจจาระและถูกรับประทานก็จะไม่ทำให้ติดเชื้อต่อไป ส่วนไข่ที่ได้รับการผสมจะเจริญเป็นเอ็มบริโอและกลายเป็นระยะติดต่อใน 18 วันหรือหลายสัปดาห์ (3) ขึ้นกับสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม คือ ดินชื้น อบอุ่น และมีร่มเงา หลังจากระยะติดต่อคือไข่ถูกกลืนเข้าไป (4) ตัวอ่อนจะฟักออกจากไข่ (5) และไชทะลุเยื่อเมือกของลำไส้ ผ่านทางระบบเลือดพอร์ทัล ระบบเลือดเลี้ยงกาย และ/หรือระบบน้ำเหลืองเข้าสู่ปอด ตัวอ่อนจะเจริญต่อภายในปอด (6) (10-14 วัน) ไชทะลุผ่านผนังถุงลม เคลื่อนขึ้นไปยังกิ่งก้านหลอดลมและช่องคอ จากนั้นถูกกลืนกลับ (7) เข้าไปยังลำไส้เล็กและเจริญเป็นตัวเต็มวัย ( ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนตั้งแต่การรับประทานไข่พยาธิจนถึงพยาธิตัวเมียวางไข่ พยาธิตัวเต็มวัยสามารถมีชีวิตได้ถึง 1-2 ปี
ไข่จะเริ่มปรากฏในอุจจาระประมาณวันที่ 60-70 อาการจากการติดเชื้อพยาธิตัวอ่อนจะเกิดราว 4-16 วันหลังจากการติดเชื้อ อาการสุดท้ายคือปวดท้อง อาเจียน เป็นไข้ พบไข่พยาธิในอุจจาระ ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการเกี่ยวกับปอดหรือความผิดปกติของระบบประสาทจากการไชผ่านร่างกายของพยาธิตัวอ่อน อย่างไรก็ตามทั่วไปมักมีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ ก้อนกระจุกของพยาธิอาจอุดกั้นทางเดินอาหาร การไชของตัวอ่อนอาจทำให้เกิดปอดอักเสบหรืออีโอสิโนฟิเลีย (eosinophilia)