เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ignite.in.th
กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้งในสังคมโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นในทวิตเตอร์หรือเฟซบุ๊ค สำหรับภาพยนตร์โฆษณาชุด "ขอโทษประเทศไทย" ที่สร้างมาจากแรงใจของพี่ ๆ น้อง ๆ เครือข่ายพลังบวก หลังคณะกรรมการเซ็นเซอร์สั่งห้ามนำแพร่ภาพทางฟรีทีวี เนื่องจากระบุว่าเป็นประเด็นที่เข้มข้นเกินไป และเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสื่อกล่าวถึงนี้ว่า ยังไม่รู้เรื่องนี้ และยังไม่เคยดูโฆษณาชิ้นนี้เลย เรื่องนี้ต้องไปสอบถามทางกองเซ็นเซอร์ว่ามีเหตุผลอย่างไร แต่รัฐคงไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับโฆษณาที่ออกทางโทรทัศน์ เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องของแต่ละสถานีโทรทัศน์ เพราะบอร์ดที่ดูแลเรื่องนี้จะดูแลกันเอง
ขณะที่ นายภาณุ อิงคะวัต นักโฆษณาชื่อดังและผู้ก่อตั้งกลุ่มพลังบวก ซึ่งเป็นผู้จัดทำโฆษณาชุดดังกล่าว เปิดเผยว่า ภาพยนตร์โฆษณาไม่ได้รับอนุญาตให้ออกอากาศเนื่องจากเกรงว่าวิธีเล่าเรื่อง หรือการลำภาพอาจทำให้เกิดปัญหาขึ้น เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ในฐานะกลุ่มคนทำโฆษณาชุดนี้ก็รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ออกอากาศ เพราะโฆษณาชิ้นนี้ถือเป็นโฆษณาที่ดี แต่เราไม่กล้าเอาความจริงมาพูดคุยกันในที่สาธารณะ เพราะอาจจะไปโดนใจดำของบางคน การทำโฆษณาชิ้นนี้เราไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนผิด แต่ทุกคนผิดกันหมด ปัญหาที่เกิดขึ้นมักถูกทับถมทับซ้อน เราจึงอยากกระตุกให้เห็นถึงปัญหาที่มีมานานแต่ก็ไม่มีใครแก้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กลุ่มผู้จัดทำกำลังหาทางปรับแก้ เพื่อให้โฆษณาสามารถออกอากาศได้
ทั้งนี้ โฆษณา "ขอโทษประเทศไทย" ได้ใช้ภาพในเหตุการณ์นองเลือดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งภาพการชุมนุมของคนเสื้อแดง ภาพการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ การปะทะกันระหว่างทหารและกลุ่มคนเสื้อแดง ภาพของไอ้โม่งชุดดำ ภาพตึกและอาคารต่าง ๆ ที่ถูกไฟไหม้จนวอด