https://www.catdumb.com/5-cursed-artifacts-378/
สำหรับเหล่านักโบราณคดีแล้ว มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่วัตถุโบราณที่พวกเขาพบจะไปเกี่ยวข้องกับความเชื่อและพิธีกรรมของคนในสมัยก่อน ดังนั้นจริงๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในชีวิตของพวกเขาจะต้องมีการเข้าไปเกี่ยวข้องกับคำสาป หรือมนต์ดำ ของคนในสมัยก่อนเข้าสักครั้ง โดยมากแล้วสิ่งที่พวกเขาพบจะเป็นเพียงวัตถุโบราณที่คนสมัยก่อนเข้าใจผิดไปเอง และสามารถอธิบายได้ในทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันเท่านั้น แต่มันก็มีบางครั้งเหมือนกันที่วัตถุที่พวกเขาพบนั้น มันเป็นอะไรที่น่ากลัวจนหลายๆ คนสงสัยว่ามีคำสาปอยู่จริงๆ เหมือนอย่างวัตถุโบราณทั้ง 5 ชิ้นต่อไปนี้
เริ่มกันจาก คำสาปของแหวนแห่งซิลวาเนียส
นี่เป็นแหวนที่คาดกันว่าถูกทำขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่รูปของเทพีวีนัสและคำสลักภาษาละติน ‘SENICIANE VIVAS IIN DE’ ซึ่งแม้จะมีการเขียนผิดอยู่บ้างแต่ก็น่าจะแปลแบบตรงๆ ว่า “ซิลวาเนียส อยู่ในพระเจ้า” อันเป็นจารึกที่พบได้บ่อยๆ ในโบราณวัตถุของชาวโรมันที่นับถือคริสต์
คำสาปของแหวนนี้โด่งดังขึ้นเมื่อมีการค้นพบศิลาบันทึกคำสาปในอดีต ซึ่งระบุไว้ว่า ซิลวาเนียสนั้นจะถูกพระเจ้าลงโทษให้ล้มป่วยจนกว่าจะนำแหวนไปคืนให้กับวิหาร และถูกเชื่อกันว่าอาจจะเป็นแหวนต้นแบบของแหวนเอกธำมรงค์ในเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ก็เป็นได้
แตรสงครามของตุตันคาเมน
เรื่องราวของฟาโรห์ตุตันคาเมนนั้นเต็มไปด้วยคำสาปเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามแตรสงครามอันนี้กับมีความพิเศษกว่าวัตถุโบราณอื่นๆ อยู่เล็กน้อย นั่นเพราะนี่เป็นแตรที่เชื่อกันว่าจะจะก่อให้เกิดสงครามขึ้นทุกครั้งที่มีคนเป่ามัน
เหตุการณ์ที่สำคัญๆ เกี่ยวกับแตรอันนี้คือการที่สถานีวิทยุ BBC อัดเสียงไปเผยแพร่ในปี 1939 (ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานสงครามโลกครั้งที่สองก็เริ่มขึ้น) ในปี 1967 (สงครามหกวันระหว่างอาหรับกับอิสราเอล) และปี 1990 (สงครามอ่าวเปอร์เซีย)
เพชรโฮป
นี่คือเพชร 45 กะรัตที่มีสีน้ำเงินเข้มซึ่งว่ากันว่าจะนำพาเรื่องร้ายๆ มาให้กับเจ้าของ และเปลี่ยนผ่านมือบุคคลสำคัญๆ อย่างพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และแมรี่ อังตัวเนตต์มาแล้ว (ซึ่งทั้งสองถูกประหารชีวิตในการปฏิวัติฝรั่งเศส)
เพชรเม็ดนี้ได้รับชื่อเพชรโฮปมาจากการที่มันตกทอดมาในตระกูลของเฮนรี่ ฟิลิป โฮป และทำให้คนในตระกูลนี้ต้องพบกับความโชคร้ายแบบรุ่นต่อรุ่น ก่อนที่สุดท้ายมันจะตกมาอยู่ในมือของพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาสมิธโซเนียน สถานที่ซึ่งคำสาปดูเหมือนว่าจะหยุดไป
“Unlucky Mummy” โลงมัมมี่อาถรรพณ์
นี่เป็นโลงใส่มัมมี่เปล่าๆ ที่พิพิธภัณฑ์อังกฤษได้รับมาจากอียิปต์ในปี 1889 และมีชื่อเสียงเรื่องที่ว่าให้ก็ตามที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโลงศพนี้จะต้องมีอันเป็นไป ซึ่งตั้งแต่ที่มันถูกส่งมาในยุโรปเอง มันก็คนที่ประมูลมันไปเก็บไว้เสียชีวิตไปแล้วหลายต่อหลายคน
อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่ทำให้มัมมี่ร่างนี้มีชื่อเสียงที่สุดคงเป็นเรื่องที่ว่ามันถูกโทษว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เรือไททานิคล่มในปี 1912 แม้ว่าในภายหลังจะมีคนออกมายืนยันว่าเรือไททานิคไม่ได้ขนวัตถุโบราณสุดอาถรรพณ์ชิ้นนี้ไปด้วยก็ตาม
สุสานต้องสาปของกษัตริย์คาสิเมียร์ที่สี่แห่งโปแลนด์
ในตอนที่สุสานต้องสาปแห่งนี้ถูกพบในปี 1973 เหล่านักโบราณคดีได้ล้อเล่นกันไว้ว่ามันอาจจะมีคำสาปอยู่ก็เป็นได้ แต่ปัญหาคือคำล้อเล่นดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นจริงขึ้นมานี่สิ นั่นเพราะหลังจากที่โลงศพถูกเปิดออกได้ไม่นาน เหล่านักโบราณคดีที่ข้าไปตรวจสอบโลงศพนี้ก็เริ่มเสียชีวิตกันไปทีละคนสองคน คล้ายคำสาปของสุสานฟาโรห์ตุตันคาเมนไม่มีผิด จนในท้ายที่สุดสุสานนี้ก็คร่าชีวิตนักโบราณคดีไปถึง 15 คน ภายในเวลาราวๆ 1 ปี
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่วงการวิทยาศาสตร์ในสมัยนั้นเริ่มก้าวหน้าขึ้นมากแล้ว ไม่นานหลังจาก “คำสาป” เกิดขึ้น นักวิทยาศาสตร์ก็พบว่าสิ่งที่สังหารเหล่านักโบราณคดีนั้น แท้จริงเป็นเชื้อรา Aspergillus flavus ที่แพร่พันธุ์อยู่ในตัวสุสานเองต่างหาก
ที่มา https://www.ancient-origins.net/history/unlucky-artifacts-0011799