ย้อนรอย “บิลลี ซิง” ยอดสไนเปอร์ชาวออสเตรเลีย “นักลอบสังหาร” แห่งสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

https://www.catdumb.com/billy-sing-378/ 

เคยได้ยินเรื่องราวของ “บิลลี ซิง” (Billy Sing) ไหม? เขาคือหนึ่งในสไนเปอร์ที่มีชื่อเสียงจากสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสไนเปอร์ที่เก่งที่สุดของประเทศออสเตรเลียเลย

 

บิลลี ซิงเกิดในครอบครัวที่มีบิดาเป็นชาวจีนกับมารดาเป็นชาวอังกฤษในปี 1886 และใช้ชีวิตวัยเด็กอยู่ในพื้นที่ชนบทของรัฐควีนส์แลนด์ แถมยังต้องทำงานมาตั้งแต่เด็กๆ เพื่อช่วยบรรเทาภาระของครอบครัวที่มีฐานะยากจนของเขา แม้ว่าตัวเองจะโดนเหยียดชนชาติอย่างหนักจากการเป็นลูกครึ่งก็ตาม เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการขี่ม้าและยิงปืนมาตั้งแต่วัยรุ่น ถึงขั้นที่ว่าพี่เขยของเขาชมว่าบิลลีสามารถยิง “หางของหมู” ที่อยู่ห่างออกไป 20 เมตรได้เลย ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นนักกีฬาและนักล่าจิงโจ้ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของพื้นที่ไป

 

ตอนที่สงครามโลกครั้งที่หนึ่งปะทุขึ้นในปี 1914 บิลลีเป็นลูกครึ่งกลุ่มแรกๆ ที่สมัครเข้าเป็นทหาร ดังนั้นเขาจึงสามารถเข้าร่วมกองทัพได้ แม้ว่าในภายหลังออสเตรเลียจะไม่รับคนที่ไม่ใช่คนผิวขาวเข้าเป็นทหารก็ตาม ในสงครามบิลลี ถูกส่งไปรบกับจักรวรรดิออตโตมันในพื้นที่ที่จะกลายเป็นตุรกีในปัจจุบัน และได้ถูกบรรจุเป็นสไนเปอร์จากความแม่นยำในการสังหารศัตรูและการฝึกของเขา 

 

เมื่อสงครามโลกครั้งที่หนึ่งดำเนินไป ตัวเลขการสังหารของบิลลีก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีหยุด จนแค่ในการทัพกัลลิโพลีเพียงที่เดียว บิลลีก็สังหารศัตรูไปถึง 200 คน จนถูกเพื่อนๆ ตั้งฉายาให้ว่า “the Assassin” (นักลอบสังหาร) กับ “the Murderer” (ฆาตกร) จนตัวเขากลายเป็นตำนานของกองทัพไป 

กองกำลังออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เทียบท่าที่กัลลิโพลี

 

ว่ากันว่าเขาเคยโดนสไนเปอร์ของฝ่ายศัตรูเห็นเข้าโดยที่ยังไม่รู้ตัว และเกือบโดนยิงตายมาแล้ว แต่เจ้าตัวก็ไหวตัวทันก่อน และยิงสังหารศัตรูได้ก่อน แม้ว่าเขาจะอยู่ในกล้องส่องแบบพร้อมยิงแล้วก็ตาม อ้างอิงจากคนในกองทัพบิลลีมักจะถูกมองว่าเป็นนักสังหารมืออาชีพที่ฆ่าคนอย่างเลือดเย็นอยู่เสมอ จนถูกหลายๆ คนยกให้เขาเป็นเทวดาแห่งความตายกลางสนามรบ แม้ว่าเจ้าตัวและเพื่อนๆ จะยืนยันว่าเขานั้นไม่เคยสังหารใครก็ตามที่เข้าไปรักษาทหารที่บาดเจ็บในสงคราม เหมือนที่ทหารฝั่งออตโตมันทำ 

ทหารตุรกีในกัลลิโพลี

 

อย่างไรก็ตามด้วยความไม่ชัดเจนหลายๆ อย่างในสงครามตัวเลขการสังหารของบิลลีจึงไม่ได้ถูกบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ (โดยหลายคนเชื่อว่าเขาสังหารศัตรูไปมากกว่า 200 คน) แต่ถึงอย่างนั้นบิลลีก็สามารถรอดจากสงครามครั้งนี้ไปได้ พร้อมเหรียญเกียรติยศมากมายบนหน้าอก

 

น่าแปลกที่ชีวิตหลังสงครามของฮีโร่แห่งสงครามคนนี้จะดูไม่มีอะไรหวือหวาอย่างที่ควรจะเป็นเลย เพราะไม่เพียงแต่เขาจะต้องออกจากกองทัพด้วยอาการบาดเจ็บเท่านั้น แต่บิลลียังต้องจบชีวิตลงไปด้วยวัยเพียง 57 ปีโดยที่ไม่มีใครพูดถึงเลยด้วย สุสานของเขานั้น ไม่มีการเขียนวีรกรรมใดๆ ของชายคนนี้ไว้เลยนานกว่า 50 ปี ก่อนที่เรื่องราวของเขาถูกตีพิมพ์โดยหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น และก็เป็นในตอนนั้นเองที่ชื่อของยอดสไนเปอร์คนนี้จะถูกจดจำต่อไปในประวัติศาสตร์ 

บิลลี ซิง กับภรรยาของเขา

 

ที่มา https://allthatsinteresting.com/billy-sing?

Credit: https://allthatsinteresting.com/billy-sing?
#ประวัติ
THEBOxrun
นักแสดงรับเชิญ
สมาชิก VIP
23 เม.ย. 62 เวลา 15:31 847
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...