โกนผมไฟ-โกนจุก

พิธีทั้ง 2 ต่างกันดังนี้

 

 

 

1.พิธีมงคลโกนผมไฟทำเมื่อเด็กมีอายุครบ 1 เดือน ส่วนมากมักทำรวมกันกับพิธีมงคลทำขวัญเดือน เป็นพิธีที่เอิกเกริกขึ้นเพราะมีการประกอบพิธีทั้งทางพราหมณ์และพิธีทางสงฆ์ การเตรียมการก็มีการบอกกล่าวไปยังญาติพี่น้องและผู้ที่เคารพนับถือว่าจะทำพิธีมงคลโกนผมไฟเด็ก ตกแต่งบ้านเรือนที่จะใช้ประกอบพิธี นิมนต์พระสงฆ์ไว้ให้พร้อมและเชิญพราหมณ์ กับเตรียมเครื่องบายศรี เครื่องกระยาบวด และแป้งกระแจะ ตลอดจนเครื่องใช้อื่นๆ ตามที่พราหมณ์จะกำหนดให้เตรียมไว้

เมื่อถึงเวลาก็นำเด็กมานอนหันหัวไปตามที่ที่โหรกำหนด ให้ผู้เป็นประธานจุดธูปเทียนและกล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย และกล่าวคำอัญเชิญเทวดา เมื่อได้ฤกษ์ที่กำหนดไว้โหรก็ลั่นฆ้องชัย ผู้เป็นประธานหลั่งน้ำสังข์ลงบนศีรษะเด็ก แล้วเอามีดโกนมาแตะผมเด็กพอเป็นพิธี ในระหว่างนี้พระสงฆ์สวดชยันโต พราหมณ์เป่าสังข์และดีดบัณเฑาะว์ พิณพาทย์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์มหาชัย มีการให้ศีลให้พรแล้วให้ช่างมาโกนผมไฟออกให้หมด นำเด็กไปอาบน้ำในอ่างน้ำอุ่นที่เจือน้ำพระ พุทธมนต์ แล้วนำมาวางไว้บนเบาะข้างเครื่องบายศรี ในตอนนี้มีการ ถวายอาหารแด่พระสงฆ์ พระท่านอนุโมทนาแล้วลากลับ ต่อจากนั้นเอาเด็กไปประกอบพิธีลงเปล เป็นอันเสร็จพิธี

 

 

 

 

ส่วน 2.พิธีมงคลโกนจุก คือพิธีตัดจุกของเด็กที่ผู้ใหญ่ให้ไว้จุกมาตั้งแต่ทำพิธีโกนผมไฟ การประกอบพิธีมงคลโกนจุกทำกันเมื่อเด็กชายมีอายุ 13 ปี ถ้าเป็นเด็กหญิงอายุ 11 ขวบ โดยนำวันเดือนปีของเด็กไปให้โหรผูกดวง กำหนดฤกษ์ที่จะประกอบพิธี ซึ่งกำหนดงานเป็น 2 วัน วันแรกเริ่มประกอบพิธีในตอนเย็นโดยเจ้าภาพจัดแจงโกนผมเด็กรอบจุก อาบน้ำแต่งตัวและเกล้าจุกไว้ให้เรียบร้อย ปักด้วยปิ่น หรือสวมพวงมาลัย เมื่อพระสงฆ์มาพร้อมแล้วนำเด็กมานั่งต่อหน้าพระสงฆ์ ฟังพระเจริญพระพุทธมนต์ ข้างหน้าเด็กมีโต๊ะสำหรับรองพานเครื่องตัดจุก เตรียมจับด้ายสายสิญจน์ทำเป็นวงกลมสวมลงพอเหมาะแก่จุกของเด็ก เมื่อพระเริ่มสวดพระพุทธมนต์ก็ให้นำสายสิญจน์ที่พระจับสวดมนต์มาคล้องศีรษะเด็ก และเอาออกมาเมื่อพระสวดจบแล้ว พิณพาทย์ประ โคม ลั่นฆ้องและโห่ร้องเอาชัยเป็นการเสร็จพิธีตอนเย็นวันแรก

รุ่งขึ้นให้เด็กแต่งตัวนุ่งขาวห่มขาว แบ่งจุกของเด็กออกเป็น 3 ปอย เอาแหวนนพเก้าสวมปอยละ 1 วง แซมด้วยใบเงินใบทองและหญ้าแพรก เมื่อพระสงฆ์มาพร้อมแล้วให้เด็กไปนั่งเบื้องหน้า พอได้ฤกษ์โหรลั่นฆ้องขึ้น 3 ครั้ง โห่ร้องเอาชัย พระสงฆ์สวดชยันโต พิณพาทย์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์มหาชัย พอพระสงฆ์สวดถึงบทที่ว่า "สีเส ปฐวิโปก ขเร" ผู้เป็นประธานก็เริ่มตัดจุกปอยแรกทันที ส่วนจุกปอยที่ 2-3 ให้ผู้มีอาวุโสรองๆ ลงไปเป็นผู้ตัด พราหมณ์เป่าสังข์ ดีดบัณเฑาะว์ เสร็จแล้วให้ช่างโกนผมให้เกลี้ยง และในขณะทำพิธีตอนนี้เอาด้ายสายสิญจน์ที่พระถือสวดชยันโตมาวงล้อมเด็ก และผู้เข้าร่วมกลุ่มทำพิธีไว้ด้วย เมื่อโกนผมเด็กเรียบร้อยแล้วให้นั่งในที่อันควร อาบน้ำมนต์ ให้ศีลให้พร แล้วให้ไปนั่งต่อหน้าพระสงฆ์ เจ้าภาพถวายอาหารบิณฑบาต พระสงฆ์อนุโมทนาแล้วก็เป็นเสร็จพิธี

ส่วนผมของจุกที่ตัดนั้นจะทำพิธีทำขวัญจุกในตอนเย็นอีกก็ได้ การทำขวัญจุกต้องเตรียมเครื่องบายศรี มีมะพร้าวอ่อน 1 ผล กล้วยน้ำว้า 1 หวี ขนมแดง ขนมขาว ขันใส่ข้าวสารสำหรับปักแว่นเทียน เมื่อได้ฤกษ์ก็ให้เด็กนั่งหน้าเครื่องบายศรี มีญาติมิตรห้อมล้อม ผู้ทำพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย กล่าวคำอัญเชิญขวัญแล้วเอาด้ายสายสิญจน์ผูกข้อมือเด็กข้างละ 3 เส้น ลั่นฆ้องชัยและเวียนเทียนจากเบื้องซ้ายมาเบื้องขวาครบ 7 ครั้ง ดับเทียนโบกควัน แล้วเจิมหน้าด้วยแป้งกระแจะ เอาน้ำมะพร้าวอ่อนกับไข่ขวัญให้เด็กกิน 3 ครั้ง แล้วเปิดบายศรี ตีฆ้องและโห่ร้องเอาชัย พิณพาทย์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์มหาชัย อวยพรให้อยู่เย็นเป็นสุขแล้วก็เสร็จพิธี ส่วนจุกให้ใส่กระทงบายศรีลอยไปในแม่น้ำเสีย

 

Credit: ช่าวสด
18 ก.ค. 53 เวลา 09:40 5,529 30
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...