แอฟริกาเป็นทวีปที่มีสัดส่วนของคนยากจนแบบสุดสุดของในโลก โดยคิดเป็นร้อยละ 45 และมีจำนวนถึง 300 ล้านคนที่หิวโหย และกลุ่มผู้ที่น่าสงสารที่สุดก็คือเด็กอายุน้อยๆ ที่เสียชีวิตวันละกว่าหมื่นคนเพราะขาดอาหารในวัยเด็กซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ พื้นฐาน อย่างไรก็ดี พวกมนุษย์ก็ไม่ได้อยู่เฉยกับปัญหานี้แต่อย่างใด ด้วยความคิดริเริ่มของมนุษย์ ก็ได้พบหนทางที่สามารถปัญหาปัญหาขาดแคลนอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 

พลัมพีนัท(Plumpy'nut)

หรือ Plumpy'nut Ready-to-Use therapeutic food, wrapper

Serving size 92g

Calories 500 kcal or 2.1 MJ.

ส่วนประกอบสำคัญ  peanut paste, vegetable oil, powdered milk, powdered sugar, vitamins, and minerals

                        ผู้ผลิต Nutriset, France

 

ประวัติการกำเนิดอาหารนี้อันเนื่องมาจากเพื่อแก้ปัญหาการ ขาดแคลนอาหารในทวีปแอฟริกานั้นเอง  ยกตัวอย่างประเทศไนเจอร์(Niger) ที่ตั้งอยู่ในใจกลางทวีปแอฟริกาอย่างถูกตัดขาดจากทะเล ทิศเหนือจดลิเบียและแอลจิเรีย ทิศใต้จดไนจีเรีย มีประชากร 12 ล้านคน มีพื้นที่มากกว่าประเทศไทยประมาณกว่าหนึ่งเท่าตัว ประชากรประกอบด้วยผู้คนหลายเผ่าพันธุ์ ร้อยละ 80 เป็น มุสลิม เคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสจนได้รับอิสรภาพเมื่อ ค.ศ.1960 การปกครองก็สไตล์แอฟริกาคือเลือกตั้งสลับปฏิวัติ

 แค่ อ่านประโยคนี้ประโยคเดียวก็คงพอทราบแล้วมั้งว่าเป็นอย่างไร ก็เล่นปฏิวัติเป็นว่าเล่นนี้น่า ประขากรก็เยอะ ประเทศก็แห้งแล้ง ไม่ได้เจอทะเล ประเทศมันก็ยากจนนะสิ โดยจากสถิติสหประชาชาติ ระบุว่า ใน Niger เด็ก อายุต่ำกว่า 5 ปี จำนวน 150,000 คน ขาดแคลนอาหารโดยอยู่ในสภาพทุโภชนาการอย่างร้ายแรง และอีก 650,000 คน ขาดแคลนในระดับปานกลาง ในภาพรวมสหภาพทุโภชนาการเกิดขึ้นในเด็ก 1 ใน 5 คน ผลพวงจากการขาดแคลนอาหารและสารอาหารอย่างเพียงพอก็คือ ร้อยละ 60 ของเด็กที่เสียชีวิตในแต่ละปีอยู่ในวัย ต่ำกว่า 5 ปี

                ในแอฟริกาในแต่ละวันเด็กเสียชีวิตประมาณ 7,000 คนด้วยโรคมาลาเรีย และอีกนับพันคนด้วยโรคท้องเสีย โรคติดเชื้อทางเดินอาหาร และอีกหลายโรคที่เป็นผลจากความอ่อนแออันเนื่องมาจากสภาพทุโภชนาการ

                มีเด็กเล็กจำนวน 150,000 คน ใน Niger ที่นอนผอมแห้ง หัวโต ตาเหม่อลอยนอนไม่เคลื่อนไหว ดูคล้ายกับกองผ้ามากกว่าเป็นร่างมนุษย์กระจายอยู่ในศูนย์จ่ายแจกอาหาร 32 แห่งทั่วประเทศ

                ที่ผ่านมา Niger ได้รับ ความช่วยเหลือในเรื่องวิตามินสารอาหาร นมผง และน้ำดื่มสะอาด แต่วิธีการช่วยเหลือให้อาหารแก่เด็กขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงเหล่านี้เป็น ปัญหาที่แก้ไม่ตกทั่วทวีปแอฟริกา

                เมื่อแจกนมผงแก่แม่รวมทั้งสารอาหารเพื่อเป็นอาหาร เสริมไปป้อนลูก ปัญหาที่ตามมาก็คือขาดน้ำสะอาดที่จะเอาไปละลายนมจนเกิดการติดเชื้อ มีอัตราเสียชีวิตสูง การเก็บรักษาไม่ให้บูดเสียก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ทำให้ความช่วยเหลือไม่มี ประสิทธิภาพเท่าที่ควร

                จน กระทั่งเมื่อส่วน เมื่อ 10 ปีที่ แล้ว(ปี 1999) ชาวฝรั่งเศส ชื่อ Andre Brined ก่อ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว วันหนึ่งตอนที่เขานั่งกินอาหารเช้าอยู่เขาเห็นเนยถั่วลิสง (peanut butter) ที่ทำจากถั่วบดละเอียดสำหรับใช้ทาขนมปัง ซึ่งเป็นผลิตผลของวัฒนธรรมอเมริกา จึงเกิดไอเดียว่า เหตุใดจึงไม่เอามาทำเป็นอาหารเสริมให้เด็กเพื่อแก้ไขปัญหาทุโภชนาการ แทนที่จะให้เป็นแท่งอาหาร เป็นของเหลว เป็นผง เป็นเม็ด ฯลฯ ดังที่เคยทำกันมา

                                

อาหารเสริม ของเขามีชื่อว่า Plumpy" Nut (จาก Plump=ท้วม และ Peanut=ถั่วลิสง มีลักษณะเหมือนแท่ง ขนมอบแห้งรสเนยถั่ว (Peanut Butter) ห่อด้วยกระ ดาษฟอยล์ ใส่ในซองอะลูมิเนียมขนาดสองกำปั้น ทารก เป็นถั่วลิสงเนยสีเหลืองอ่อนออกน้ำตาลที่ให้พลังงาน 500 แคลลอรี มีความหนืดพอๆ กับมันบด ใส่นม วิตามิน และสารอาหารที่สำคัญครบถ้วน มีราคาซองละประมาณ 14 บาท

                โดยสารอาหารครบถ้วนที่ว่าประกอบไปด้วย

-                   วิตามิน A  = 910 Mcg

-                   วิตามิน D  =  16 Mcg

-                   วิตามิน E  = 20 Mg

-                   วิตามิน C  = 53 Mg

-                   วิตามิน B1 = 0.6 Mcg

-                   วิตามิน B2 = 1.8 Mg

-                   วิตามิน B6 = 0.6 Mcg

-                   วิตามิน B12 = 1.8 Mcg

-                   วิตามิน K = 021 Mcg

-                   สารไบโอติน = 65 Mcg

-                   กรด Folic = 210 Mcg

-                   Pantothenic acid= 3.1 Mg

-                   Niacin= 5.3 Mg

-                   ธาตุแคลเซียม = 320 Mg

-                   ฟอสฟอรัส = 394 Mg

-                   โพแทสเซียม = 1111 Mg

-                   แมกนีเซียม = 92 Mg

-                   สังกะสี = 14 Mg

-                   ทองแดง = 1.78 Mg

-                   เหล็ก = 11.53 Mg

-                   ไอโอดีน = 110 Mg

                พลัม พีนัทมีข้อดีหลายอย่างตามแบบของอาหารยุคอวกาศ คือสามารถขนย้ายได้อย่างสะดวกและยังพร้อมรับประทานได้ทันที มีราคาถูกกว่านม  รวมทั้งยังสามารถเก็บรักษาไว้ได้ นานกว่าอาหารทั่วไปอายุยาวถึง 2 ปี ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีในการนำไปช่วยเหลือผู้ที่กำลังเผชิญกับความหิวโหยจาก เหตุการณ์พายุพัดถล่มในพม่า ที่มีเด็กเป็นจำนวนมากที่กำลังป่วยจากภาวการณ์ขาดแคลนอาหาร

                ด้วยลักษณะของบรรจุภัณฑ์นั้นทำให้สามารถนำไปแจกจ่ายโดยการทิ้งร่ม จากอากาศยานได้ และพ่อแม่สามารถนำไปให้ลูกๆ กินได้เลย โดยไม่ต้องไม่ปรึกษาแพทย์ ทำให้ผู้ใหญ่สามารถดูแลเด็กๆ ได้เอง เด็กหนึ่งคนบริโภค 2 ซองต่อวัน วิธีการใช้ง่ายๆ เพียงฉีกซองและเอานิ้วจิ้มในซองแล้วใส่ปากเด็กโดยไม่ต้องใช้น้ำมาผสมให้ยุ่ง ยาก นับว่าเป็นการให้อาหารเสริมที่สะดวกและรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงอีกด้วย

 องค์กรความช่วย เหลือต่างๆ กล่าวว่า Plumpy'nut สามารถช่วยให้ เด็กเพิ่มน้ำหนักได้มากถึงสัปดาห์ละ 2 กิโลกรัมซึ่ง อาหารยุคอวกาศนี้มีความหมายต่อความเป็นความตายในพม่าได้ และเปลี่ยนไปราวกับเป็นเด็กคนละคน นัยน์ตามีแวว เกิดความกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา หลังจากเด็กที่ขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง บริโภค Plumpy" Nut แล้ว ในหนึ่งอาทิตย์น้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง 1-2 ปอนด์

                การรักษาทารกที่อยู่ในสภาพทุโภชนาอย่างรุนแรงใช้เวลา 4 อาทิตย์ โดยบริโภค Plumpy" Nut พร้อมไป กับอาหารเหลวที่ทำจากแป้งที่เรียกว่า Unimix ซึ่ง แปรรูปจากธัญพืชผสมวิตามินและสารอาหาร เด็กบางคนใช้เวลาเพียง 2 อาทิตย์ร่างกายก็กลับเป็นปกติ ต้นทุนที่ใช้ไปต่อการช่วยชีวิตเด็กหนึ่งคนที่ใช้เวลา 4 อาทิตย์ คือ 20 เหรียญสหรัฐ หรือ 800 บาทเท่านั้น

                การแก้ปัญหาด้วยอาหารอวกาศนี้ ก่อให้เกิดการปฏิวัติในการช่วยชีวิตเด็กขาดแคลนอาหารรุนแรงอย่างไม่เคยมีมา ก่อน ทั้งผู้ดูแลศูนย์เด็ก แม่เด็ก และบุคลากรทางการแพทย์ต่างพูดตรงกันว่าเป็นวิธีที่ได้ผล ในเมือง Maradi ใน Niger ที่มีประชากรประมาณ 100,000 คน รักษาทารกขาดแคลนอาหารรุนแรงอยู่ 700 คน และมีรายใหม่มาให้ตรวจวันละ 130 คน และรับไว้รักษาประมาณ 80 คน ซึ่งทุกคนจะได้กำไลป้ายพลาสติคติดไว้ที่ข้อเท้าเป็นหลักฐานมารับ Plumpy" Nut ทุกอาทิตย์

        

พลัมพีนัท (Plumpy'nut) เป็น อาหารที่ไม่สามารถหาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป แต่อาหารยุคอวกาศนี้ (space-age foods) ได้กลายเป็นอาวุธชิ้นเยี่ยมในการต่อสู้กับความหิว โหยโดยเฉพาะในช่วงประเทศที่ขาดแคลนอาหาร และประเทศที่เกิดภัยพิบัติต่างๆ เช่นพายุนาร์กิสพัดถล่มในพม่า แม้อาหารนี้รสชาดไม่ดีนัก แต่เมื่อเด็กๆ อยู่ในภาวะที่ขาดอาหาร รสชาติก็ไม่สำคัญอีกต่อไป พวกเรากินเพื่อนอยู่ ไม่ได้อยู่เพื่อกิน

 

http://www.pantown.com/board.php?id=7268&area=1&name=board9&topic=45&action=view

http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=505.0

http://en.wikipedia.org/wiki/Plumpy'nut