สสช.เผยผลการสำรวจความเดือดร้อน และความต้องการของประชาชน พบคนไทยทั่วประเทศใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไม่เพียงพอ 46% ตะวันออกเฉียงเหนือแชมป์ 60.7% ขณะที่ 56.5%ไม่รู้จักโครงข่าย 3จี แนะรัฐสร้างความเข้าใจก่อนลุยโครงการต่อ...
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ หรือ สสช. กล่าวว่า จากการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ สสช.ทำการสำรวจความเดือดร้อน และความต้องการของประชาชน เนื่องจากสถานการณ์ของประเทศไทยเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ที่มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน รัฐบาลจึงมีความต้องการที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืนและเกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งนี้จากการสำรวจโดยการประเมินสาเหตุฐานะความเป็นอยู่ของตนเอง พบว่า ประชาชนที่อยู่ในกรุงเทพฯและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความรู้สึกว่าตนเองจนกว่าภาคอื่นๆ
ทั้งนี้ สสช.ได้ประเมินสาเหตุสำคัญของความยากจนโดย 3 อันดับแรก คือ
ไม่มีทุนประกอบอาชีพ 65.9% การขาดโอกาสในการดำเนินธุรกิจ 45.3% และการเรียนมาน้อย 40.2% อีกทั้งผู้สำรวจกลุ่มดังกล่าว 17% คาดการณ์ว่าความเป็นอยู่ของตนเองในปี 2554 จะแย่ลงกว่าปัจจุบัน
ผู้อำนวยการ สสช. กล่าวต่อว่า สิ่งที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาในส่วนของเศรษฐกิจ พบว่า
ประชาชนต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาปากท้องมากที่สุด คือ อยากให้ควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน การออกมาตรการลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มสวัสดิการการครองชีพ นอกจากนี้ ในส่วนของปัญหาด้านสังคมนั้น ประชาชนต้องการให้จัดสวัสดิการการรักษาพยาบาลให้ความเท่าเทียมกัน รองลงมาคือ การลดปัญหายาเสพติดในชุมชน และการปลูกจิตสำนึกด้านคุณธรรมและจริยธรรมของนักการเมืองเพื่อเป็นตัวอย่าง ที่ดีให้แก่ประชาชน
ในส่วนของความเห็นเกี่ยวกับมาตรการและนโยบายของรัฐบาล พบว่า นโยบายที่ประชาชนให้ความสนใจมากที่สุด 90% ได้แก่
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและผู้พิการ 500บาท/เดือน หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า นโยบายเรียนฟรี 15 ปี กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ยังต้องการให้รัฐบาลเพิ่มเบี้ยยังชีพให้สูงขึ้นกว่าที่มีอยู่แก่ผู้พิการและสูงอายุ
นอกจากนี้ ยังพบว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไข คือ ความต้องการด้านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศ
ที่ไม่เพียงพอ 46% โดยภาคที่ต้องการมากที่สุดคือ ตะวันออกเฉียงเหนือ 60.7% รองลงมาคือ ภาคใต้ 47.4% และภาคเหนือ46% ขณะเดียวกัน ยังมีประชาชนจำนวนหนึ่งไม่ทราบเรื่องโครงข่าย 3จีถึง 56.5% เห็นด้วย 40.4% และไม่เห็นด้วย 3.1% นอกจากนี้ ล่าสุดพบว่า การใช้งานคอมพิวเตอร์ในปี 2552 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 20.1% เพิ่มขึ้นจากปี2550 ที่มีอยู่ 15.5% และการใช้งานโทร ศัพท์เคลื่อนที่ ปี2552 อยู่ที่ 56.8% เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่ 47.3%
สสช. อยู่ระหว่างรวบรวมความคิดเห็นที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขเพื่อให้เข้าถึง อีกทั้งมองว่าหากรัฐบาล จะทำโครงการใหญ่ต้องให้ประชาชนรู้จักก่อน
เพื่อให้ประชาชนเข้าใจและเห็นด้วย รวมถึงป้องกันการต่อต้านระหว่างการดำเนินโครงการด้วย จากการที่รัฐบาลให้จัดทำผลสำรวจเพื่อที่จะให้เกี่ยวโยงกับแผนปรองดองแห่งชาติของรัฐบาลนั้น ในระหว่างวันที่ 15 ก.ย.-15 ส.ค. เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์กับผู้ที่เกี่ยวข้องเปิดเวทีระดมความคิดเห็นจากนักวิชาการและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดทิศทางของประเทศ โดยรัฐบาลจะนำข้อมูลมากำหนดนโยบายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและตอบสนองความต้องการของประชาชน และ สสช.จะสำรวจความคิดเห็นของประชาชนอีกครั้งในเดือน ต.ค.2553 ก่อนจะกำหนดแผนนโยบายให้เป็นรูปธรรมแก่ประชาชนในเดือนม.ค.ปี 2554 ต่อไป
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
Credit:
teenee.com