งานวิจัยพิสูจน์แล้วว่า ‘โชคลาง’ เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง แล้วเราจะเพิ่มมันได้ด้วยวิธีการใดได้บ้าง

http://www.catdumb.com/the-luck-factors-339/

เรื่องโชคลางเป็นสิ่งที่มีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อว่ามันจะมีอยู่จริง อีกทั้งยังคงเป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันมาจนถึงปัจจุบัน แต่งานวิจัยชิ้นล่าสุดจากนักจิตวิทยา Richard Wiseman ออกมาเผยแล้วว่า เรื่องของโชคลางนั้นมันมีอยู่จริง จากการศึกษาเกี่ยวกับปรากฏการณ์ดังกล่าวภายใต้ชื่องานวิจัย The Luck Factor (ปัจจัยที่ส่งผลต่อโชค) ได้ผลออกมาว่าความโชคดีไม่ใช่เรื่องราวของเวทมนตร์ แต่ส่วนใหญ่แล้วมันเกิดจากทัศนคติของเราทั้งสิ้น ซึ่งเป็นตัวที่ส่งผลกับการตัดสินใจ การได้รับโอกาสต่างๆ ในชีวิต และความโชคดีที่เราจะได้รับ

Richard จึงเปิดสถาบันที่ชื่อว่า Luck School เพื่อแผ่ขยายความโชคดีไปให้กับทุกๆ คน และนี่คือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสำหรับเพื่อนๆ ที่จะช่วยให้พวกเรามีสิ่งที่เรียกว่า โชคดีกันมากยิ่งขึ้น จะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลยยย

1. วิธีเพิ่มโอกาสให้กับตัวเองได้มากที่สุด

พวกเรามักคิดว่าตัวเองไม่ได้รับโอกาสที่มากพอในเรื่องของการประสบความสำเร็จในการทำงาน การเลือกคู่ครอง หรือการเติมเต็มความฝัน ซึ่งปัญหาใหญ่ของสิ่งเหล่านั้นเกิดจากความไม่ตั้งใจและความกลัวไม่กล้าเสี่ยง ทำให้คุณลดความสนใจในการคิดสิ่งใหม่ๆ ได้ทำ ได้ลองสิ่งต่างๆ

เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ จึงต้องเปิดตาและใจให้กว้างเข้าไว้ ไม่ต้องรอให้มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน แต่จงเป็นนายของชีวิตตัวเอง ลงมือทำในสิ่งที่ต้องการ อย่ากลัวในสิ่งที่เรายังไม่รู้หรือยังไม่เกิดขึ้น

2. รับฟังลางสังหรณ์ของตัวเอง

การอยู่กับภวังค์ความคิด ความรู้สึกของตัวเองจะช่วยให้คุณโชคดีมากยิ่งขึ้น ผู้ที่มีโชคลาภมักจะเป็นคนที่สามารถจับสัญญาณของร่างกายและจิตใจตัวเองที่ถูกส่งเข้ามา และเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจมันได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม คนที่กระวนกระวายกับความรู้สึกมากจนเกินไปและหวาดกลัวที่จะเชื่อมั่นในสิ่งนั้นก็จะกลายเป็นคนที่ขาดโชคลาภไปแทน

วิธีการที่ดีคือเพื่อนๆ ต้องเคลียร์ความสงสัยและความกังวลใจของตัวเองออกไป เปลี่ยนไปทำความรู้จักกับความต้องการและเสียงจากภายในของตัวเอง โดยอาจจะใช้การทำสมาธิในการเป็นอย่างนั้น

3. คาดหวังว่าตัวคุณจะได้เจอกับโชคดี

“การมีโชคคือการที่เราเชื่อว่าตัวเองโชคดี” ทัศนคตินี้ช่วยให้เรามีความคิดในแง่บวกและมองโลกในแง่ดี ไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆ คุณอาจจะคิดว่าไม่มีใครโชคดีไปตลอด ซึ่งนั่นมันก็จริง แต่ทำไมเราถึงไม่คาดหวังในสิ่งดีๆ กันไว้ก่อนละการที่เราคิดบวกจะทำให้เรารับมือกับความผิดพลาดได้อย่างไม่ยอมแพ้

4. เปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นดี

การที่เราไม่ได้พกร่มมาในวันที่ฝนตก ช่วยให้เราได้ปลดปล่อยตัวเองไปกับธรรมชาติและอาจเป็นการสร้างมิวสิควิดีโอไปในตัว หรือการที่เสื้อเราแขวนเอาไว้แล้วมันขาด นั่นก็อาจหมายถึงว่ามันเป็นเวลาที่เราต้องเปลี่ยนตู้เสื้อผ้ากันได้แล้ว หรือเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการเย็บให้มันดูเก๋ไก๋

นั่นเป็นความคิดของคนที่โชคดี นอกจากจะเชื่อว่าตัวเองมีโชคแล้ว เรายังต้องปฏิเสธการมีอยู่ของความโชคร้ายไปด้วย มันอาจจะดูเหมือนคนบ้า แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การหลอกตัวเอง มันคือการมองหนทางที่ดีที่สุดในการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ พยายามมองหาแง่ดีของสิ่งต่างๆ ไว้ ไม่โวยวายไปกับมัน

นอกจากเรื่องของทัศนคติแล้ว ยังมีการพูดถึงความโชคดีที่เกิดขึ้นได้ด้วยความบังเอิญ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่เราสามารถเพิ่มโอกาสความโชคดีของเราได้ ผ่านคำแนะนำเหล่านี้

1.เปลี่ยนเส้นทางการออกเดินทางไปในที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถไปทางถนนเส้นที่ไม่เคยไปเพื่อตรงสู่ที่ทำงาน หรือการไปกินร้านอาหารอื่นๆ บ้างก็ได้

2.พบปะผู้คนในสภาพแวดล้อมที่ต่างกันไป

3.ทำงานในลักษณะที่แปลกใหม่หรือทำหน้าที่ที่ไม่เหมือนปกติ