หนังซอมบี้นี้ก็มีที่มา

                                    
                                                                       ซอม บี้

พูดถึงหนังซอมบี้ คุณคิดถึงอะไร และอะไรที่ทำให้หนังซอมบี้กลายเป็นแนวหนัวขวัญใจของคนทั้งโลก

ด้วยรูปแบบอันทรงพลังของหนังซอม บี้ ที่หลายเรื่องมักกล่าวถึงโลกแฟนตาซี(ที่โหด) โลกเรา ตกอยู่ในสภาพเดียวกับในหนัง เมืองร้าง ผู้คนหนีหาย ซากศพที่ถูกกัดทึ้ง เหมือนขยะ สัตว์กลายพันธุ์ และการเอาตัวรอด โอ้...

 

แล้วคุณรู้จัก Zombie ได้มากน้อยขนาดไหน

บางคนอาจจะรู้จักซอมบี้ในชื่อเพลง ของนักร้องหญิงคนหนึ่ง

บางคนอาจจะรู้จักว่ามันคือ ผีดิบร่างกายแข็งทื่อๆไร้วิญญาณ

แต่คุณรู้หรือไม่ มีคนไม่น้อยที่ใส่ใจกับมันในระดับที่เรียกได้ว่า "แรงบันดาลใจ"

 

ในเฮติ ประเทศหมู่เกาะในทะเลใต้ ที่ซึ่งประชากรมีอาชีพเกษตรกรรม ทำไร่ ทำประมง และยังขึ้นชื่อในเรื่องของเวทย์มนต์คาถา หรือที่เรียกกันว่า วูดู(Voodoo) และที่นี่เองที่เป็นต้นกำเนิดของZombie ผีดิบที่ เชื่อกันว่า พ่อมดหมอผีใช้เวทย์มนต์คาถา ปลุกศพคนตายคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาทำพิธีปลุกซอมบี้เพื่อใช้เป็นทาสทำงานต่างๆเช่นทำไร่ และงานกรรมกรอื่นๆ เพราะซอมบี้นั้นไม่รู้จักพัก ไม่เหน็ดเหนื่อย และไม่ต้องกินอาหาร

หลายๆครั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ รับแจ้งจากญาติของคนตายว่า ศพที่พวกเขาเพิ่งฝังไปไม่นานหายไปจากหลุม!ซึ่งพวกเขาก็เชื่อกันว่าศพนั้นถูก ปลุกโดยเวทมนต์จากหมอผี ให้กลายเป็นซอมบี้ เพื่อนำไปเป็นทาสรับใช้

นักวิทยาศาสตร์จากหลายๆที่ๆหลาย สถาบัน เคยพยายามเก็บข้อมูล เพื่อหาความเป็นไปได้ของข่าวเหล่านี้ ซึ่งจริงๆแล้วก็ยังไม่มีรายงานอันใดที่เด่นชัด หรือมีหลักฐานพอพิสูจน์อย่างชัดแจ้งว่าจริงหรือไม่

แต่จากหลายๆข้อมูลก็เอนเอียงไปทาง วิธีการที่เรียกกันว่า การตายชั่วคราว โดยการใช้พิษบางอย่าง(เช่นจากปลาปักเป้า)ลดการทำงานของคลื่นสมอง ลดเมตาบอลิซึ่มทำให้หัวใจเต้นในจังหวะที่ช้ามากหรือ หยุดเต้นไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง นานพอที่หมอผีจะบอกกับญาติๆของผู้ตาย(ชั่วครู่) และอาสารับศพไปดำเนินการเอง และหลังจากยาหมดฤทธิ เขาก็จะให้ยาอีกอย่างเป็นการมอมซากที่ฟื้นชีวิต และนำไปใช้งานต่างๆ(บางกระแสว่า ไม่สามารถทำงานอะไรได้ เพียงแต่รอเวลาให้ญาติๆนำเงินมาให้เพื่อทำการแก้เวทมนต์เท่านั้น) ยาพิษเหล่านี้ ว่ากันว่าเป็นตำรายาสืบทอดกันในหมู่พวกหมอผีแต่โบราณ

และเชื่อว่ามีพืชชนิดหนึ่งที่ขึ้น ในแถบเกาะทะเลใต้ นั่นคือ "แตงกวาซอมบี้"เป็นตัวยาที่จะทำให้คนที่กลับฟิ้นจากอาการตายชั่ว คราว กลายเป็นซอมบี้ เพื่อตกเป็นทาส ตลอดกาล......

               

กลับมาที่หนัง รู้ไหมครับว่าหนังเกือยทุกเรื่อง มักตั้งกฎเหล็กของซอมบี้ไว้ 3 ข้อด้วยกัน

1) ซอมบี้จะโจมตีคน เพื่อกินเป็นอาหาร

2) ยิงมันที่หัว เป็นวิธีเดียวที่จะกำจัดมันได้ด้วยการทำลายส่วนหัว หรือแยกส่วนหัวออกจากตัว

3)เมื่อถูกซอมบี้กัด ให้ตัดอวัยวะแยกออกไป เพราะจะทำให้เกิดการติดต่อ และกลายเป็นซอมบี้ในที่สุด

กฎหลักสามข้อนี้ ได้สร้างแนวทางหนังสยองขวัญคลาสสิคขึ้นมาหลายแบบ และมันก็เป็นหนังที่ถูกผลิตออกมามากที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลกภาพยนต์ ประมาณกันว่า มีหนังซอมบี้ที่ใช้พลอตแบบนี้เคยสร้างกันออกมาไม่ต่ำกว่า สองร้อยเรื่อง

หนังซอมบี้ แน่นอน มันมีทั้งคำชม และคำเหยียดหยาม เพราะหนังส่วนใหญ่ของซอมบี้คือหนังต้นทุนต่ำและเป็นหนังเกรดบี!!

                   


ซอมบี้ในโลกภาพยนตร์เกิดขึ้นอย่าง ไร

หนังซอมบี้ยุคเรื่องราวตำนานของ ซอมบี้ดังกล่าว เป็นหนึ่งในเรื่องราวยุคก่อนปี 70 หนังสยองขวัญหลายเรื่อง ที่มีชื่อZombie ปรากฏอยู่ ส่วนใหญ่แล้วมีพลอตของการใช้มนต์ดำปลุกซากศพทั้งสิ้น และผีดิบที่ลุกขึ้นมานั้นก็ไม่ต่างอะไรจากหนึ่งในบรรดาผีหรือปีศาจอื่นๆที่ ไม่มีอะไรโดดเด่นเลย ซึ่งในยุคนั้น จตุรเทพแห่งว่าการหนังสยองขวัญ มัมมี่ แดร๊กคูล่า มนุษย์หมาป่า และแฟรงเกนสไตน์ได้แย่งความโดดเด่นจากปิศาจตนอื่นไปหมดสิ้น

หนังซอมบี้ในยุคนั้นที่อาจจะพอหา ดูได้ก็เช่น White Zombie(1932) ,I walked with a zombie(1943)

และแล้ว George A. Romero ผู้กำกับ โนเนมคนหนึ่งก็ได้สร้างตำนานขึ้นมา

ปี 1968 หนังสยองขวัญขาวดำ สร้างด้วยทุนเพียง 114,000ดอลลาร์ ได้ถูกนำออกฉายในช่วงเวลานั้นซึ่งเป็นเวลาที่เรามีหนังที่ถ่ายทำด้วยฟิล์มสี ดูกันแล้ว หนังที่แรกเริ่มถ่ายด้วยฟิล์มสี ได้เพียงไม่กี่ฉากแล้วจึงเปลี่ยนมาถ่ายด้วยฟิล์มขาวดำ ด้วยเหตุผลง่ายๆ "ประหยัดงบ"

แต่หลังจากนั้นกลุ่มคนที่ชื่นชอบ ได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

 

โดยในหนังซอมบี้ถือกำเนิดจากแต่ ที่ลงมือก่อนใครเพื่อน นั่นคือ Lucio fulciเจ้าพ่อขาโหดอีกรายหนึ่งเจ้าของฉายา Godfather of gore

โดย ส่วนใหญ่ในหนัง ซอมบี้ถือกำเนิดจาก

·       อำนาจชั่วร้าย จาก Gates of hell ,The Beyon

·       สารกัมมันตรังสี จาก Nightmare city

·       เชื้อโรค จากไบโอ Biohazard

·       เสียงความถี่สูงจากเครื่องกำจัด แมลงศัตรูพืช ที่ไปปลุกซอมบี้ให้อาละวาดได้ จาก Let sleeping corpes

·       ฯลฯ

              


ในปีเดียวกันนั้นเอง เจ้าพ่อแห่งวงการก็ได้ทีดันเอา Day of the dead มาชน ด้วยตัวหนังที่โหด เอฟเฟคสยดสยองเต็มที่ แต่กลับไม่เป็นที่ยอมรับในวงกว้างนัก ยกเว้นแฟนประจำ ก็เป็นอันว่านับจากปี85 เป็นต้นมาถือเป็นการค่อยๆปิดประตูของหนังแนวซอมบี้ไปในตัว โดยถึงแม้จะมีสร้างออกมาบ้าง แต่ก็เป็นหนังที่ขายตลาดเมเจอร์ไม่ได้อีกต่อไป รวมไปถึงฉบับรีเมคของ Night of the living dead โดยTom Savini มือ เอฟเฟคผู้คร่ำหวดในวงการหนังผี ซึ่งก็ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จ

นับเวลายาวนามาจนถึงปี 2002

และแล้วหนังที่สร้างจากเกม Biohazard อันโด่งดัง ซึ่งนำเสนอซอมบี้ออกมาอีกครั้ง แม้จะไม่มาก แต่ก็เพียงพอทำให้คอหนังสยองขวัญรุ่นใหม่พอใจ และพากันถามหาหนังต้นตำรับมาศึกษาดูกัน Resident Evil ที่เน้นแอคชั่นปนสัตว์ประหลาด และซอมบี้ ทำให้กระแสหนังดูจะกลับมาอีกครั้ง

นอกจากนี้ Zombie ไม่ได้เป็นเพียงแค่ หนังสยองขวัญดาดๆในยุค70-80เท่านั้น ความคลาสสิคของมันยังเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของศิลปินหลายๆคน ตัวอย่างเด่นๆ เช่น

Rob Zombie ก่อตั้งวง White Zombie ขึ้นมาในยุค90 โดยมีแรง บันดาลใจจากหนังZombie และหนังสยองขวัญเกรดB อัลบัมต่างๆดูเข้ากันได้ดีระหว่างดนตรี Rock+Industrial และภาพพจน์แฟนซีสยองระคนโป๊เปลือยของสาวๆ หลังจากนั้นไม่นานก็แยกตัวมาเป็นศิลปินเดี่ยว และเป็นที่รู้จักกันดีถึงงานLive ที่สุดโต่งในแนว Cult Horror ทั้ง ชุดแหวกแนวๆ ผสมสัตว์ประหลาด อสูรกาย และการแต่งหน้าแนวผีดิบ

Jamie Hewlett กราฟฟิคดีไซ เนอร์จาก ลอนดอน ผู้ชื่นชอบในแนวทางของหนังZombie ทำ เวบไซท์เป็นportfolioของตัวเองชื่อว่า Zombie flesh eaters แค่ไตเติ้ลของเวบก็สะใจแฟนZombieแล้ว ไม่เชื่อลองแวะชมกันได้ http://www.zombie.uk.com/ (นายเจมี่ เป็นคนทำมิวสิควีดีโอให้ Gorilaz พอคุ้นๆบ้างไหม)

และคอเกมคงรู้จักกันดี Biohazard เกมแนวเดินหน้า แล้วฆ่ามันที่โด่งดัง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า Zombie ใน เกมนั้นมาจากไหน ต้นฉบับของแท้จาก Romero มาเอง จนต่อยอดไปทำเป็นหนัง Resident Evil แล้วก็ส่งผลให้ หนังZombie กลับมาในยุค2000อีก ครั้งหนึ่ง


 

                และ นี้คือ 10 อันดับ หนังซอมบี้ที่ดีที่สุดที่คนทั่วโลกต้องดู (ผมจัดอันดับเองแหละ)

                                           White Zombie (1932)

                        

กำกับ: Victor Halperin  เขียนบท:Garnett Weston

ในประ เทศไฮติ Madeline Short (Madege Bellamy) และ Neil Parker (John Harron) ได้เดินทางโดยรถม้าไปยังที่พักของ Charles Beaumont(Robert Frazer) ซึ่งที่นี่เองที่พวกเขาจะใช้เป็น ที่จัดงานแต่งงาน ระหว่างทางก็ได้พบพิธีกรรมอยู่บนถนนซึ่งคนบังคับรถม้าอธิบายให้ฟังว่า ที่ นี่บางครั้งก็ฝังศพไว้ใต้ถนนเพื่อปกป้องคนที่เดินทางผ่านไปมา เมื่อรถม้าเคลื่อนต่อไปก็ได้หยุดรถเพื่อถามทางกับชายแปลกหน้าMurder Legendre(Bela Lugosi) เขาไม่ตอบแต่กลับจ้องมองมายัง Madeline ตาไม่กระพริบเมื่อรถม้าออกเดินทางเขาก็ได้ดึงผ้าพันคอจาก เธอเอาไว้ เมื่อพวกเขามาถึงที่พักและพบกับ บาทหลวงผู้ที่จะทำพิธีสมรสDr.Bruner (Joseph Cawthorn) และ Beaumont ซึ่ง มีทางทางพอใจในตัวMadeline มากในคืนนั้นเองก็มีรถ ม้า ประหลาดมารับ Beaumont ไปพบกับ Legendre ที่โรงงานผลิตน้ำตาลซึ่งที่นี่เขามีคนงานเป็นซอมบี้ !!Beaumont มาขอร้องให้ Legendre ยับยั้งพิธี แต่งงานในวันพรุ่งนี้ซึ่งดูเหมือนว่า Legendre ได้ วางแผนเอาไว้แล้วและไม่มีสิ่งใดมายับยั้งเขาได้

White Zombie (1932) ถือว่าเป็นหนังซอมบี้เรื่องแรกๆที่แสดงภาพคนที่ถูก ทำเป็นซอมบี้ไว้ใช้แรงงานและเป็นทาสโดยกรรมวิธีตามแบบชาวไฮติ ซึ่งถือ เป็นถิ่นกำเนิดของเหล่าซอมบี้ก่อนที่จะติดเชื้อลุกลามไปทั่วโลก เป็นหนังขาวดำ ยิ่งทำให้บรรยากาศ ความลึกลับ ความน่าสะพรึงกลัว(และเก่าจะหาดูที่ไหนไม่ได้)
 

            The Omega Man (1971)

                      

 

หนังสร้างจากนิยายปี 1954 ของ ริชาร์ด แมธธีสัน  เคยสร้างเป็นหนังปี 1964 มาแล้ว ในชื่อ The Last Man on Earth นำแสดงโดย วินเซนต์ ไพรซ์ และEdward Scissorhands ของ ทิม เบอร์ตั้น ส่วนภาพที่นำมาลงนี้เป็นอีกเวอร์ชั่นหนึ่งในปี 1971 ชื่อ The Omega Man ฉบับนี้นำแสดงโดย ชาร์ลตั้น เฮสตั้น Charlton Heston ในบทมนุษย์คนสุดท้ายบนโลกที่ต้อง หาทางเอาชีวิตรอดจากเหล่าประชากรโลกที่ตัดเชื้อจนกลายเป็นสัตว์กระหายเลือด ซึ่งตลอดเรื่องต่อสู้กับฝูงซอมบี้ครองเมืองแบบข้ามาคนเดียว โดยตระเวนไล่ยิงอย่างเมามันในเมืองร้าง ที่ตลกไม่ออกคือสามสิบกว่าปีต่อมาเขาโดน ไมเคิล มัวร์ ดักสัมภาษณ์ใน  Fahrenheit 9/11 เรื่องสนับสนุนการพกปืนและใช้ความรุนแรง
 

        H.P. Lovecraft's Re-Animator (1985) คนเปลี่ยนหัวคน

                                            

 

เรื่อง ราวของเฮอร์เบิร์ต เวสต์ (Jeffrey Combs) นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องผู้สามารถค้นคิดยา พิเศษที่ปลุกชีพศพให้ฟื้นคืนชีพได้ ...โดยร่วมมือโดย Bruce Abbott ในบทแดน เคน นักศึกษาแพทย์ที่กระหายใคร่รู้และหวังในความสำเร็จ , Barbara Crampton เป็นเมแกน ฮัลซี่ย์ แฟนสาวสุดสวยของแดน, David Gale เป็นดร.คาร์ล ฮิล หมอเจ้าเล่ห์ที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของเวสต์ แต่ผลที่ตามมาคงเดาได้นะครับ เมื่อศพทั้งหลายมันดันเกินความควบคุมของเขา ความสยองก็เริ่มเกินควบคุมตามมา

หนัง กำกับโดย Stuart Gordon และอำนวยการสร้างโดย Brian Yuzna ส่วน เรื่องราวก็ดัดแปลงมา จากงานเขียนของ H.P. Lovecraft นักเขียนนิยายสยองชื่อดังตอนต้นยุค 1900 นะ ครับ กับภาพยนตร์แนวสยองขวัญปนตลกที่ทำออกมาได้อย่างมันส์ ช่วงต้นอาจมีอืดบ้างตามมาตรฐานของหนังแนวนี้ครับ มีแนะนำตัวละคร แต่พอมาช่วงกลางนี่น่าติดตามมากๆๆ

ผมไม่ รู้ว่าคนทั่วโลกวิจารณ์เรื่องนี้อย่างไรแต่พี่ดร.เวสต์นี้แสดงสุดยอดมาก ดูโรคจิตดี ชื่อว่าท่านต้องชอบตัวละครนี้แน่ (หรือเปล่า)
 

                    28 days Later 28วันให้หลัง เชื้อเขมือบคน

                                           

เนื้อหาง่ายมาก คอหนังซอมบี้คงคุ้นเคย เปิดเรื่องมาก็เล่าถึงกลุ่มนักอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ที่ต่อต้านการจับสัตว์ไป ทดลองในแล็ป เลยแอบเข้าห้องแล็ป ปล่อยลิงในห้องทดลองลับแห่งหนึ่งออกมา แต่หารู้ไม่ว่าลิงทั้งฝูงติดเชื้อโรคร้ายที่จะส่งผลให้ใครก็ตามที่โดนกัด กลายเป็นสัตว์กระหายเลือด ไล่กัดกินคนดั่งซอมบี้ และพวกเขาก็โดนมันกัด!ทีนี้เชื้อร้ายลามไปยิ่งกว่าไฟลามทุ่งไปเลย

แต่หนังก็ตัดชึ้บมาเล่าถึง เหตุการณ์อีก 28 วันให้หลัง แนะนำตัวเอกที่ชื่อ จิม (Cillian Murphy) ตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลที่ร้างผู้คน มีแต่ซากกาทำลายเกลื่อนกลาดไปหมด แล้วเขาก็ออกมาเดินถนนข้างนอก ออกสำรวจลอนดอนที่เข้าอาศัยก็พบว่ามันกลายเป็นเมืองร้างไร้ผู้คน เขาพยายามตะโกนเรียกหวังว่าจะมีใครสักคนหลงเหลือ

แต่พอ เขาได้เจอผู้รอดชีวิตเท่านั้นแหละเขาแทบจะอยากให้ตัวเขาเหลืออยู่เพียงผู้ เดียว เพราะคนรอดที่เหลือติดเชื้อหมดเรียบครับ จิมเลยต้องวิ่งหนีแทบตาย หาคนที่ยังไม่ติดเชื้อแล้วหนีไปยังที่ห่างไกล แต่พวกเขาจะรอดไปได้หรือไม่!!

เขา ว่าหนังเรื่องนี้สนุก เพราะฉีดกฎหนังซอมบี้ที่มาเกือบทั้งหมด ซึ่งตามปกติหนังแนวนี้จะเป็นการเผชิญหน้ากับซอมบี้ในพื้นที่จำกัด เช่น ในบ้านหลังหนึ่ง หรือไม่ก็ห้างสรรพสินค้า แต่กับ 28 นี่ไม่ใช่ครับ เพราะมันตระเวนกันทั้งลอนดอน ทั้งเกาะอังกฤษเลย ถือเป็นการสร้างแนวทางใหม่เลย

Shaun of the Dead (2004) รุ่ง อรุณแห่งความวาย (ป่วง)

                      

 

ผู้กำกับ Edgar Wright

ดู ชื่อก็รู้แล้วครับว่าทำออกมายำ Dawn of The Dead เรื่องราวเกี่ยวกับนายชอว์น (Simon Pegg) หนุ่มที่ไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรซักอย่าง วันๆ ก็ได้แต่ทำงาน แล้วตกเย็นก็มานั่งดื่มเหล้าไปตามเรื่องจนแฟนสาวของเขา (Kate Ashfield) ขอเลิกครับ ทำให้ชอว์นตาสว่าง คิดจะกลับตัวใหม่เป็นยอดชายที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ เพื่อให้เธอกลับมาหาเขาอีกครั้ง แต่ก็พอดี ไอ้วันที่เขาคิดจะเริ่มมาดใหม่ ซอมบี้ก็เจือกยกโขยงมาบุกเมืองพอดี งานนี้ชอว์นเลยต้องออกโรงลุยไปรับเอาตัวแฟน พ่อเลี้ยงและแม่ของเขามายังสถานที่ปลอดภัย ... นั่นคือบาร์ที่เขาไปดื่มทุกคืนนั่นแหละ

เป็น หนังซอมบี้ที่ตลกมากกว่าฮาครับ แม้ฉากอมตะโหดประเภทซอมบี้ฉีกเนื้อคน แขนเขินนี่ฉีกจะๆ ไส้กองเลือดนองพื้นเลยแหละ แต่มีโรแมนติก แอ๊คชั่น ที่แปลกใหม่มากๆ
 

        Dead Alive (Braindead) (1992)

                        

 

กำกับ: Peter Jackson เขียนบท:  Stephen Sinclair

หากเอ่ยชื่อของปีเตอร์ แจ๊คสัน หลายคนคงนึกถึงหนังเรื่อง The Lord Of The Ring หนังไตรภาคที่สร้างชื่อให้กับผู้กำกับชาว นิวซีแลนด์คนนี้มาแล้ว แต่ใช่ว่าผู้กำกับคนนี้จะมีดีแค่การกำกับหนังมหากาพย์เรื่องเยื่ยมแต่เพียง อย่าง  แท้จริงแล้วเขากำกับหนังเรื่องหนึ่งจนโด่งดัง จนเป็นที่รู้จักในวงการและสร้างชื่อมาแล้วก็คือ Dead Alive ( 1992 )

ตัวหนังกล่าวไว้เกียวกับชายหนุ่มผู้แสนดี (ไลโอเนล ) ผู้มีความรักและ เชื่อฟังต่อแม่อย่างเต็มเปื่ยม มาพบรักกับหญิงสาวรูปงาม (พาคิต้า) ความรัก ของคนทั้งสองต้องมีอุปสรรคมาขวางกั้น เมื่อแม่ของไลโอเนล เกิดโดนลิง ชนิดหนึ่งกัดเข้าทำให้กลายเป็นซอมบี้ที่กระหายเลือด ตัวไลโอเนลเองจำต้องตี ตัวออกห่างจากพาคิต้าเพื่อที่จะมาดูแลแม่ของตัวเองและ คอยปิดข่าวไม่ให้ คนภายนอกรู้ว่าแม่ของตนเองป่วยหนักและกำลังกลายเป็นซอมบี้ แต่เรื่องราว ยังไม่จบลงเพียงแค่นั้น เมื่อแม่ของ ไลโอเนล ได้กัดคนอื่นเข้าจึงทำให้มี จำนวนคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกหลายคน จนไลโอเนล ต้องจับแม่ของตนเองและ ซอมบี้ตัวอื่น ๆ มาไว้ในห้องใต้ดินในบ้านของตนเองเพื่อไม่ให้ซอมบี้เหล่านี้ไป กัดคนอื่นและขยายพันธ์ต่อไป แต่ทว่ากลับเป็นผลดีหรือผลร้ายก็ไม่รู้เมื่อน้า ชายของ ไลโอเนล ผู้หวังในทรัพย์สมบัติในบ้านหลังนี้ได้พาเพื่อน ๆ ยกโขยง กันเข้ามาจัดปาตี้กันที่บ้านแล้วทีนี้อะไรจะเกิดขึ้นต้องติดตามกันเอา เอง

สำหรับฉากเด็ด ๆ ในเรื่องนี้ก็มีอยู่หลายฉากอยู่ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นฉาก ที่ไลโอเนลต้องไปซื้อ น้ำยากล่อมประสาทและเข็มฉีดยาเพื่อที่จะเอามาฉีดให้ แม่ของตนเองและซอมบี้ตนอื่น ๆ หมดฤทธิ์ลง หรือไม่ว่าจะเป็นฉากที่หลวง พ่อต้องต่อสู้กับเหล่าซอมบี้ที่หลุมฝังศพกันอย่างเมามัน โอ้ว คิดได้ไงเนี่ย และที่พลาดไม่ได้คือฉากที่หลวงพ่อที่ต้องกลายเป็นซอมบี้มีเซ็กส์กับซอมบี้ พยาบาลสาว แม็คทาวิช โชว์บทรักและส่งเสียงร้องกันอย่างเมามันจนทำให้มีเด็ก คลอดออกมาจากท้องของพยายบาลสาว เรียกว่า ปีเตอร์ แจ็คสัน มีลูกบ้าอะไร ก็ปล่อยออกมาในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ทั้งแหวะทั้งตลกโปกฮา สยองปนเสียว มี มุกเท่าไหร่ก็ปล่อยออกมาในเรื่องนี้อย่างเต็มเหนี่ยว ฉากที่เด็ดสุด ๆ สำหรับ คอหนังสยองขวัญทั้งหลายคงอยู่ที่ตอนท้ายเรื่องเมื่อน้าชายของ ไลโอเนล ที่ มีชื่อว่า เลส ได้พาเพื่อน ๆ มาฉลองในบ้านท่ามกลางฝูงซอมบี้ลองคิดดูละกัน ครับว่าอะไรจะเกิดขึ้น

นอกจากนี้ Dead Alive ได้แฝงข้อคิดเอา ไว้หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องความ รักที่ลูกมีต่อแม่ความผูกพันธ์ต่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าแม่ของตนเอ งไม่ใช่แม่คนเดิมอีกแล้วการตัดใจเพื่อฆ่าแม่ของตนเองนั้นช่างเป็นเรื่องที่ ทำใจลำบากเหลือเกิน หรือฉากที่ ไลโอเนล และ พาคิต้า คอยช่วยเหลือซึ่งกัน และกันยามมีปัญหา แสดงให้เห็นถึงอนุภาพแห่งความรักที่สามารถสละตัว เองและยอมเอาตัวเข้าแลกได้ โอ้ว แน่ใจเรอะว่านี้คือหนังซอมบี้
 

                The Return of the Living Dead (1985) ผีลืมหลุม

                                           

 

หนัง ภาคต่อกลายๆ ของหนังชุด Night of The Living Dead

เนื้อหา คือยังมีซอมบี้เหลืออยู่และถูกกักไว้ในแคปซูล แล้วบังเอิญไอ้แคปซูลที่ว่าก็อยู่ใต้ฝ่าเท้าของคนกำลังขุดหลุมพอดี๊พอดี จากนั้นเป็นไงละ ไอ้แคปซูลบ้านั่นเกิดรั่วและผีดิบที่ถูกกักก็หลุดออกมา ไล่ฆ่าคน จากนั้นจำนวนของพวกมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนที่ดวงดีฝีเท้าไวก็หนีตายกันไปตามระเบียบ

หนังนี้ฉีกกฎซอมบีอีกแล้วครับ เพราะซอมบี้ในหนังเรื่องนี้ยิงหัวไม่ตาย วิธีเดียวที่จำกำจัดมันได้คือ ต้องถล่มมันให้เป็นจุล เผาให้วอดไปเลย

Dan O'Bannon กำกับ หนังสยองเอาแหวะที่เดียว ทุนต่ำเกรดบีแต่คนทั่วโลกติดใจ
 

                          Day of the dead (1985) ฉีกแล้วงาบ

                                            

 

กำกับ และเขียนบท: George A. Romero เจ้าพ่อหนังซอมบี้

ในต่อ จากเรื่อง Night of the Living Dead อีกแล้วครับ 10ปีต่อมา หลังเหตุการณ์นั้น  สถานการณ์กลับยิ่งเลวร้ายลงอีก ศพคืนชีพได้แพร่ขยายเผ่าพันธุ์ของมันอย่างไม่สิ้นสุด ผู้คนต่างพากันหลบหนีกระจัดกระจาย แต่มีกลุ่มผู้รอดชีวิตคนหนึ่ง ซึ่งมีทั้งทหาร และนักวิทยาศาสตร์ พวกเขาหลบหนีอยู่ใต้ดิน หาทางติดต่อ ค้นหา ผู้รอดชีวิตกลุ่มอื่น และดำเนินการทดลองเพื่อจะควบคุมเหล่าศพคืนชีพที่เดินอยู่เกลื่อนเมือง ให้อยู่ในโอวาท (เหมือนสอนลิงแสดงละครสัตว์) ความพยายามทั้งหลายดูเหมือนจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ บวกกับความการแตกความสามัคคี (อีกแล้ว) รวมทั้งแนวคิดเผด็จการของผู้กุมอำนาจในมือ ทำให้ความวอดวายมาเยือนท้ายสุดก็ต้องกลายเป็นมื้ออาหารอันโอชะให้ซอมบี้ยิ้ม แย้มได้สวาปามชิ้นเนื้อ ตับไตไส้พุงสดๆกันเอร็ดอร่อย

แม้จะ หนังซอมบี้ แต่เรื่องนี้เน้นอารมณ์ขันสอดแทรกพอให้ยิ้มแฝงด้วย เนื้อหาเสียดสีสังคมอย่างแยบยล แถวฉีดกฎซอมบี(อีกแล้ว) เพราะมีซอมบี้ไอคิวสูงรู้มากที่ครองใจแฟนหนังเรื่องนี้ยิ่งกว่าคนเป็นๆอีก นอกเหนือจากฉากฉีกร่างขาดครึ่งไส้ปลิ้น, นอนอยู่บนเตียงแล้วหัน ตะแคงเครื่องในหล่นมากองกับพื้น, พลั่วทิ่มปากแล้ว แบะหัวส่วนบนกลิ้งกระเด็นกระดอนไปวางกะพื้นแต่ลูกตายังเกลือกกลิ้ง, ฟันแขนกันสดๆแล้วเอาไฟลนไม่ให้ติดเชื้อ, นิ้ว ฉีกจิกหัวลูกตาโปนทะลัก ...ฯลฯ

นอก เหนือจากนี้หนังยังมีมุกเด็ดอีกครับมีซอมบี้แห่กันมาจากหลากหลายสายอาชีพ เดินกันขวักไขว่ ทั้งซอมบี้นักเต้นบัลเลย์, ซอมบี้ตัวตลก, ซอมบี้ทหาร, ซอมบี้ชุดเจ้าสาว, ซอมบี้ชุดครุย, ซอมบี้นักกีฬา...ฯลฯ ว่ากับว่าชาวเมืองที่เป็นตัวประกอบต่างอาสาแต่งตัวเป็นซอมบี้เล่นแบบลืมตาย เลยครับ
 

        Night of the living dead(1968)ซากดิบ ไม่ต้องคุมกำเนิด

                                           

 

กำกับ และเขียนบท: George A. Romero เจ้าพ่อหนังซอมบี้

“ซากดิบไม่ต้องคุมกำเนิด” หรือ “night of the living dead” ถือเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงอีกชิ้นหนึ่งของ “จอร์น เอ โรเมโร่” บรมครูแห่งหนังแนวซอมบี้ที่หลายคนชื่น ชอบ  อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อเมืองทั้งเมืองกลายเป็น “นรก” !!!! ชาวเมืองต่างป่วยเป็นโรค ประหลาดทั้งเมือง และพร้อมที่จะลุกขึ้นมาไล่ล่าผู้รอดชีวิต  กัด กิน ขย้ำ ขยี้ เคี้ยวจนหมดตัว !!!! หนัง รื่องนี้เน้นสาระการเอาชีวิตรอดของเหยื่อเป็นสำคัญ และมีทุกอย่างที่คนชอบหนังแนว “ซอมบี้” ต้องการ ที่สำคัญหนังเรื่องนี้ยังเป็นต้นแบบของเกมส์สยองขวัญชื่อดัง “ไบโอฮาซาร์ท” อีกด้วย ใครไม่เคยดูควรลองหามาดูเป็นอย่างยิ่งเพราะหนังเรื่องนี้สร้างได้ยอดเยี่ยม มากจนต้องนำมาฉายซ้ำทางช่อง 7 สี

ตัว ต้นฉบับเป็นหนังขาว-ดำครับ เปิดฉากโดยการเดินทางไปเคารพหลุมศพที่สุสานของสองพี่ น้องJohny และ Barbara ปรากฏว่าซอมบี้โผล่มา Barbaraวิ่งหนีมา เจอบ้านหลังหนึ่งข้างสุสาน และมาเจอผู้ร่วมชะตากรรม ตัวหนังไม่ได้เน้นไปที่ซอมบี้ แต่ชี้ให้เห็นถึง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมากมายภายในบ้าน แสดงให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัว การแตกความสามัคคี คิดว่าคงเป็นการจงใจประชดประชันการเอาตัวรอด ของคนในสังคม เนื้อเรื่องดำเนินเรื่อยๆภายในบ้าน ใช้รายการข่าวสดทางทีวี เป็นตัวบอกเหตุการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้น และแบบ อึ้ง

ซอม บี้ได้ถูกปฎิวัติใหม่หมด เมื่อมันถือกำเนิดโดยไม่ต้องมีมนต์ดำ วูดู ไม่ต้อง รอเวลาค่ำคืน แต่มันเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา และมันโจมตีอย่างรุนแรงกว่าเดิม

ความ หลอกหลอน แสดงพลังออกมากดดันคนดูได้อย่างเต็มที่ และมีรสนิยม อย่างที่หาได้ยากในหนังสมัยนี้!!

DAWN OF THE DEAD (1978) รุ่ง อรุณแห่งความตาย

                                               

กำกับ และเขียนบท: George A. Romero เจ้าพ่อหนังซอมบี้

ความ จริงหนังแนวซอมบี้ มันก็โหดอยู่แล้ว แต่หลายคนบอกว่าหนังต้นฉบับเรื่องนี้ดีที่สุด แหวะที่สุด กำกับโดยจอร์จ โรเมโร เจ้าพ่อหนังซอมบี้

เมื่อ ประชากรทั่วทั้งโลก ถูกจู่โจมโดยโรคระบาดที่หาสาเหตุและอธิบายไม่ได้ และคนตายไม่อยู่ในสภาพคนตายอีกต่อไป ศพที่หิวกระหายในเนื้อสดๆ ของคนเป็น ลุกออกมาเดินตามล่าผู้รอดชีวิตที่เหลืออยู่น้อยนิด หลังจากหลบหนีออกมาจากบ้านในย่านชานเมือง หนีไปอยู่ในป้อมปราการห้างสรรพสินค้า ในขณะที่กองทัพซอมบี้ที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ผู้รอดชีวิตกลุ่มนี้ต้องต่อสู้ทั้งกับศพเดินได้ ต้องต่อสู้กับคนในกลุ่มเดียวกัน ต้องต่อสู้กับความหวาดกลัว และความสงสัยของพวกเขาเอง ผู้รอดชีวิตต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน และใช้แหล่งทรัพยากรทุกอย่างเท่าที่จะหาได้ ในการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด และที่สำคัญกว่านั้น... ก็คือเพื่อให้เป็นมนุษย์ต่อไป

แน่นอนนี้คือหนังซอมบี้ที่ดีที่ สุดของโรโมโร เป็นภาคต่อจาก Night of the living dead(1968) และแน่นอนก็ต้องมีฉากโหดดิบและสิ่งที่ทำให้แหวะประเภท กัดเนื้อฉีก คอหลุด แขนขาด หัวกระจุย ล้วงควักไส้ตับม้ามมาเปิบ ฯลฯ สารพัดเท่าที่หนังซอมบี้จะมี แม้ดูจะไม่เนียน ไม่สมจริงนี้แต่กลับทำให้หลายคนประทับใจ  

Dawn of the Dead 1978 หรือ"ต้นฉบับ"รุ่งอรุณแห่งความตาย เป็นอีกเรื่องหนึ่งในตระกูลหนังซอมบี้ที่ถือเป็นแบบอย่าง, ถูกนำไปต่อยอด, เป็นแรงบันดาลใจ, นำไปสร้างภาคต่อโดยผู้กำกับคนอื่นๆในแนวทางนี้อีกมากมายจนกลาย เป็นหนังคลาสสิคและเป็นที่ยอมรับของคอหนังแหวะรุ่นต่อๆ มา

                                  

สำหรับ เกร็ดที่น่าสนใจของหนังจตุรภาคซอมบี้ ของโรเมโรนี้ ก็มีที่น่าสนใจเช่น

- หนังภาคแรกใช้ทุนสร้างไป เพียง 114,000 เหรียญ ขณะที่ภาคสองใช้ไป 1.5 ล้านเหรียญ(ความจริงแค่ 500,000 เหรียญ เท่านั้น แต่แต่งตัวเลขเพื่อผลทางการตลาด- โรเมโร สารภาพในภายหลัง) ส่วนภาคสามได้ทุนสร้าง 3.5 ล้านเหรียญ (จาก 7 ล้าน) ในขณะที่ Land of the Dead ใช้ ทุนสร้างประมาณ 15 ล้านเหรียญ

- โรเมโร จ่ายค่าตัวให้นักแสดงที่มาเล่นเป็นซอมบี้เพียง 1 เหรียญ บวกกับเสื้อยืดที่สกรีนบนเสื้อว่า "เราคือซอมบี้ จาก Night of the Living Dead" อีกหนึ่งตัว

- โรเมโร ได้ค่าตอบแทนจากหนังเรื่องนี้.....5 เหรียญเท่านั้น

- เลือด ที่ใช้ในหนัง ทำจากช๊อคโกแล็ตไซรัป แล้วยัดเข้าไปในตัวหุ่นโดยบรรจุเลือดใน ถุงยางอนามัยก่อน

- ตับไตไส้พุงที่เห็นในหนัง มาจากการใช้แฮมและไส้กรอกยัดเข้าไปแทน

- Night of the Living Dead เป็นหนังสยองขวัญเรื่องแรกที่มีนักแสดงนำเป็น คน ผิวดำ ซึ่งโรเมโร ให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการลบล้างสูตรประจำของหนังสยองขวัญที่ว่า "ตัวละครคนดำต้องตายก่อนใครเพื่อน"

- โรเมโร ร่วมแสดงเป็นผู้รายงานข่าวในหนัง Night of the Living Dead ด้วย

- Night of the Living Dead ได้รับเกียรติจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ของ นิวยอร์ค ให้เป็นหนึ่งในรายชื่อหนังล้ำค่าที่จัดขึ้นโดยทำเนียบหนังแห่งอเมริกา (National Film Registry) เมื่อปี 1999  - Dawn of the Dead ใช้สถานที่ถ่ายทำในห้างสรรพสินค้าจริง โดยต้องอาศัยถ่ายทำตอนห้างปิด ช่วงสี่ทุ่มถึงสองโมงเช้

Credit: Cammy
16 ก.ค. 53 เวลา 23:12 14,194 4 66
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...