read:http://petmaya.com/10-childhood-in-north-korea
คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า ชีวิตของเด็กที่เติบโตมาในประเทศเผด็จการ จะแตกต่างจากชีวิตของพวกเรามากน้อยขนาดไหน แน่นอนว่าชีวิตของพวกเขาถูกกำหนดชะตาเอาไว้หลายสิ่งอย่าง แต่ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่เราเองยังไม่เคยรู้มาก่อน และวันนี้เพชรมายาจะขอพาทุกท่านไปชมสิ่งที่แตกต่างของชีวิตเด็กในเกาหลีเหนือ มาลองดูว่าพวกเขาจะต้องเจอกับอะไรกันบ้าง
1. ตั้งแต่เกิด เด็กจะได้รับสถานะทางสังคม หรือ “ซองบุน”
ซองบุน คือระบบการแบ่งชนชั้นในสังคมในเกาหลีเหนือ ที่จะระบุว่าคุณเกิดมาในครอบครัวแบบไหน ถ้าคุณเกิดในครอบครัวที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวนาหรือผู้ที่ภักดีกับรัฐบาล พวกเขาจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มผู้จงรักภักดี แต่ถ้าบรรพบุรุษของคุณเป็นฝ่ายกบฏหรือไปเข้าฝ่ายเกาหลีใต้ในระหว่างสงครามเกาหลี คุณจะถูกจัดเป็นฝ่ายปฏิปักษ์ต่อรัฐ
และนั่นส่งผลไปถึงการที่เด็กๆ เหล่านั้นจะได้รับการปฏิบัติตนที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเข้าโรงเรียน การเข้ามหาวิทยาลัย หรือแม้แต่การเข้าไปเป็นหนึ่งในสมาชิกพรรคแรงงาน
2. การศึกษาตั้งแต่อนุบาล
ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เด็กๆ จะได้เข้าโรงเรียนอนุบาลก็ต่อเมื่อพ่อแม่พวกเขาต้องการ แต่เมื่อถึงอายุ 5 ขวบ เด็กๆ จะถูกรัฐบาลบังคับให้เข้าเรียน เด็กทุกคนที่ต้องการไปโรงเรียน จะต้องไปเข้าโรงเรียนอนุบาลก่อนอย่างน้อย 1 ปี
3. เด็กบางคนที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ แล้วมีพ่อแม่
สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะมีคู่รักหนุ่มสาวหลายคู่ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกของตัวเองได้ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจึงกลายเป็นที่ๆ พ่อแม่เหล่านี้นำลูกมาทิ้งไว้ ในขณะเดียวกัน เด็กกำพร้าที่ถูกรับไปเลี้ยงแล้วพ่อแม่บุญธรรมไม่สามารถเลี้ยงต่อไหว ก็สามารถถูกส่งกลับมาได้เช่นกัน
4. การศึกษาในโรงเรียน
ในโรงเรียนที่เกาหลีเหนือ เด็กนักเรียนจะได้เรียนภาษารัสเซียและชีวประวัติของผู้นำประเทศตนเอง บางวิชาจะเป็นการสอนประวัติศาสตร์ การอุทิศตนของผู้นำประเทศทั้ง 3 นั่นคือ คิม อิลซุง, คิม จองอิล และ คิม จองอึน นอกจากนั้นพวกเขาจะได้เรียนภาษาอังกฤษบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่เพราะโรงเรียนในเกาหลีเหนือไม่ใช่หนังสือภาษาอังกฤษสอนเด็กๆ
และเมื่อเด็กน้อยอายุครบ 10 ปี เด็กนักเรียนทุกคนก็จะเข้าสู่สหภาพเด็กแห่งเกาหลี และเริ่มมีการพบปะทางการเมืองบ้าง
5. บทเรียนและกิจกรรม เต็มไปด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ
รัฐบาลเกาหลีเหนือปลูกฝังเรื่องการเมืองตั้งแต่ในโรงเรียน โดยคุณจะสามารถเห็นโปสเตอร์เกี่ยวกับการเมืองได้ตามทางเดินในโรงเรียน และข้อความเกี่ยวกับการเมืองในหนังสือเรียน
นอกจากนั้นในระหว่างวันหยุดยาว เด็กๆ จะมีกิจกรรมเดินพาเหรดที่จะได้แต่งชุดเป็นทหาร และเดินขบวนไปพร้อมรถและจรวดที่ทำจากกระดาษแข็ง
6. เด็กๆ สามารถชมการประหารสาธารณะได้
ดูเหมือนความรุนแรงอย่างการประหารผู้คนที่กระทำผิดในที่สาธารณะของรัฐบาล จะถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติ และการที่เด็กได้รับประสบการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับชาวเกาหลีเหนือแต่อย่างใด แถมในบางครั้ง เด็กๆ เหล่านี้ก็มีส่วนในการการประณามผู้กระทำผิดอีกด้วย
7. ทำงานหนักเป็นเรื่องปกติ
ไม่มีกฏหมายแรงงานเด็กสำหรับทีนี่ เด็กๆ ทำงานหนักถือเป็นเรื่องปกติทั่วไป เพราะพวกเขาต้องช่วยทำฟาร์ม ทำไร่ เก็บเกี่ยวพืชผล ตัดต้นไม้ ทำเหมือง รวมไปถึงงานก่อสร้างอื่นๆ
ซึ่งเด็กๆ เองก็มีโควต้าแรงงานที่ต้องทำงานให้ครบตามที่กำหนด ไม่เช่นนั้นจะต้องถูกปรับนั่นเอง
8. ของเล่นที่เกี่ยวกับการทหาร
ในขณะที่เด็กๆ ประเทศอื่นๆ จะมีของเล่นที่หลากหลาย แต่สำหรับในประเทศเกาหลีเหนือ ของเล่นของเด็กเกือบทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับการทหารแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น รถถัง เฮลิคอปเตอร์ หรือปืนแบบต่างๆ มากมาย ซึ่งรัฐบาลคิดว่าของเล่นเหล่านี้จะช่วยปลุกจิตวิญญาณของความรักชาติในตัวคนรุ่นใหม่ได้
9. เด็กๆ จะใช้เวลาว่างในศูนย์การศึกษา
ตัวอย่างเช่นในใจกลางเมืองเปียงยาง จะมีพระราชวังเด็กมังยองแด ที่เปิดให้เด็กๆ เข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะ ดนตรี กีฬา และคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่ใช่แค่ที่นี่เพียงแห่งเดียว เพราะตามย่านต่างๆ ก็จะมีศูนย์การศึกษาที่เล็กกว่าที่เปิดให้เด็กๆ เข้าถึงได้ และการแสดงคอนเสิร์ตของเด็กๆ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ
10. มีสิ่งบันเทิงสำหรับเด็ก
หากพ่อแม่เป็นบุคคลชั้นสูง พวกเขาสามารถพาลูกๆ ของตนไปดูภาพยนตร์ 3 มิติ ไปชมสวนสัตว์ หรือไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ แต่ถ้าหากพ่อแม่คนไหนไม่มีเงิน ก็จะมักให้เด็กๆ ดูการ์ตูนบนทีวีแทน นอกจากนั้นที่เกาหลีเหนือยังมีเทศกาลมากมาย ที่สามารถพาเด็กๆ ไปฟังเพลง และมีขนมของหวานอีกมากมาย
ที่มา https://brightside.me/wonder-places/10-major-differences-between-childhood-in-north-korea-and-other-countries-432960/