หลังจากที่ประเทศ กัมพูชา ประกาศจัดงาน "วันแห่งความโกรธแค้น" ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 1 ปี ที่ไทยทำการรุกรานอาณาเขตของกัมพูชา ประเด็นต่าง ๆ ของประเทศกัมพูชาก็ถูกขุดคุ้ยกลับขึ้นมาให้วิพากษ์วิจารณ์กันอีกรอบ
โดยเฉพาะประเด็นเรื่องที่กัมพูชาจัด "ทัวร์สังหาร" ให้นักท่องเที่ยวใช้อาวุธสงครามไล่ยิงถล่มฝูงเป็ด และวัวจนดับดิ้นคาที่ กลายมา เป็นข่าวให้คนสนใจอีกครั้ง หลังจากเมื่อหลายปีก่อน เคยถูกรุมสับถึงความโหดร้ายป่าเถื่อนกันมาแล้วครั้งหนึ่ง
สำหรับ "ทัวร์ สังหาร" ของกัมพูชานี้ เกิดจากการที่ผู้จัดนำเที่ยวของบริษัทเอกชน เห็นว่าประเทศกัมพูชาเป็นประเทศที่ทำสงครามมานานหลายทศวรรษ จึงคิดจะใช้ประโยชน์จากจุดนี้ทำรายได้ให้กับการท่องเที่ยวของประเทศ ด้วยการนำเสนอ "ทัวร์ล่าสัตว์" หลายหลายรูปแบบให้นักท่องเที่ยวแบ็กแพ็กเกอร์ ผู้คลั่งไคล้การผจญภัยและการล่าสัตว์
ทดลองซ้อมยิง
ทั้งนี้ทัวร์ล่าสัตว์เช่นนี้ ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในหลาย ๆ ประเทศว่า เป็นพฤติกรรมที่ค่อนข้างโหดร้าย คือ นักท่องเที่ยวจะต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อสัตว์ที่ต้องการไล่ล่า เช่น วัว ซึ่งมีราคาค่อนข้างแพง หรือจะเป็นฝูงเป็ดที่มีราคาค่อนข้างถูกกว่า จากนั้นนักท่องเที่ยวจะได้เลือกอาวุธที่ต้องการใช้สังหารสัตว์เหล่านั้น เช่น เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี , ระเบิดมือ แต่จากการเปิดเผยของนายลาน โกศัล ผู้จัดนำเที่ยว ระบุว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เป็นชาวตะวันตก มักจะเลือกใช้ปืน AK-47 หรือปืนกลมือออโตเมติก เช่น เอ็ม-16, ทอมป์สัน, ปืนกลอูซี่, ปืนกลญี่ปุ่น ฯลฯ เพราะอยากสัมผัสประสบการณ์การยิงปืนแบบนี้สักครั้ง ซึ่งหาไม่ได้จากในบ้านเกิด
ผู้จัดนำเที่ยวบอกต่ออีกว่า มีปืนหลากหลายประเภทให้นักท่องเที่ยวเลือก สนนราคาแตกต่างกันไปถึงหลักหลายร้อยดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวที่มีรสนิยมโหดสามารถไล่ล่าวัวเป็น ๆ ด้วยจรวดอาร์พีจี จนทำให้วัวทั้งตัวตับไตไส้พุงกรจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ในชั่วพริบตา หรืออาจจะเลือกใช้ระเบิดมือถล่มฝูงเป็ดก็ทำได้
อย่างไรก็ตาม การจัดทัวร์ล่าสตัว์ด้วยอาวุธสงครามนี้ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในกัมพูชา เพราะทางการไม่อนุญาตให้เอกชนจัดสนามยิงปืน หรือซ้อมการใช้อาวุธปืนประเภทต่าง ๆ ได้ แต่ ที่บริษัทแห่งนี้ยังสามารถจัดทัวร์ล่าสัตว์ต่อไปได้ เพราะได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และยกเหตุผลที่ว่า การจัดทัวร์เช่นนี้เพื่อเป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา เที่ยวยังประเทศกัมพูชา
ทัวร์สังหารล่า วัว ในกัมพูชา
ทัวร์สังหารล่า วัว ในกัมพูชา
ขณะที่ทางการสหรัฐฯ ได้เคยแสดงความวิตกกังวลว่า อาวุธร้ายแรงพวกนี้จะตกไปอยู่ในมือของผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ แม้ว่าทางการกัมพูชาจะได้สั่งทำลายอาวุธสงครามไปแล้วกว่า 180,000 ชิ้น แต่ทว่ายังคงพบอาวุธหลงเหลืออยู่ ไม่ว่าจะเป็นการขุดพบตามป่าเขา ซุกซ่อนตามสถานที่ต่าง ๆ แถมยังเป็นอาวุธที่ยังมีประสิทธิภาพดีเยี่ยม ดังเช่นอาวุธที่ใช้ในการทัวร์สังหารนี้ ก็เป็นอาวุธที่เป็นเพียงเศษเหลือใช้จากสงครามเท่านั้น
ทั้ง นี้ ประเทศกัมพูชานั้น เคยเผชิญกับภาวะสงครามมาแล้วนับสิบ ๆ ปี ทั้งสงครามต้านญี่ปุ่น และสงครามอินโดจีนในช่วงทศวรรษ 1960 ทำให้มีอาวุธหลั่งไหลเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมาก ทั้งจากเวียดนาม สหรัฐอเมริกา จีน และโซเวียตที่ขนอาวุธมาซ่องสุมให้ฝ่ายที่สนับสนุน เพื่อทำการสงคราม
นักท่องเที่ยวเตรียมออกล่าเหยื่อ ทัวร์สังหารล่าวัว ในกัมพูชา