ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปมาก หลายสิ่งหลายอย่างแบบเดิมๆ ก็ค่อยเลือนหายไปเพราะมีสิ่งใหม่มาแทนที่ และนี่คือ 10 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งแปลกประหลาดที่คนโบราณทำกันจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา แต่คุณจะไม่มีวันพบในทุกวันนี้เด็ดขาด
1. ผู้หญิงใช้ตะกั่วและกำมะถันในการย้อมผม
ช่วงแรกมีการใช้วัสดุจากพืชเพื่อย้อมผม ต่อมาชาวกรีกโรมันก็ใช้ตะกั่วและกำมะถันในการย้อมผม โดยไม่รู้ว่ามันอันตรายเป็นอย่างมากเพราะขาดความรู้ในการใช้สารเคมี
ในปี 1700 ชาวอิตาเลียนนิยมแช่ผมในสารเคมีเพื่อให้ผมเป็นสีทอง และผู้หญิงยุโรปจำนวนมากนิยมใช้กำมะถันเพื่อให้ผมมีสีเหลือง นอกจากนี้ชาวอัฟกันยังเชื่ออีกด้วยว่าการย้อมผมช่วยรักษาอาการปวดได้
2. ลูกแก้วและยางรองพื้นถูกใช้ทำเป็นนมปลอม
หญิงโบราณบางคนไม่มีทรวงอกและเพื่อเสริมให้มันใหญ่ขึ้นจึงมีการใช้น้ำมันมะพร้าวนวด โดยการผ่าตัดเสริมหน้าอกครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 1895 โดยแพทย์ที่ชื่อว่า Vincenz Czerny เขาจำเป็นต้องเสริมหน้าให้กับบผู้ป่วยที่ทำการผ่าตัดเนื้องอกออก เลยนำลูกแก้ว ยางพารา และสารตัวอื่นๆ มาใช้ในการทำหน้าอก
3. มูลสัตว์ถูกใช้ในการรักษาพยาบาล
คนโบราณใช้มูลสัตว์ในการรักษาโรคแตกต่างกัน
โดยผู้หญิงกรีกโบราณเชื่อว่ามูลจระเข้สามารถใช้เป็นยาคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพได้โดยการสอดเข้าไปในช่องคลอด
ส่วนในอียิปต์โบราณนักรบใช้มูลสัตว์กับบาดแผล นอกจากนี้ยังมีการใช้มูลผึ้งในการรักษาไข้ทรพิษ ส่วนมูลหมูใช้ในการหยุดเลือดกำเดา
4. หมอเจาะรูที่หัวของคนเพื่อปลดปล่อยวิญญาณชั่วร้าย
Trepanation เป็นการเจาะรูที่ศีรษะซึ่งแพทย์เชื่อว่าสามารถรักษาอาการชัก ปวดหัว และติดเชื้อได้ นอกจากนี้พวกเขายังคิดว่าโรคต่างๆ เกิดจากมีวิญญาณชั่วร้ายอยู่ภายในศีรษะมนุษย์ ดังนั้นจึงต้องทำการเจาะรูเพื่อปลดปล่อยวิญญาณออก
แต่แล้ววิธีการรักษาแบบบนี้ก็ถูกยกเลิกไปในยุคกลาง เพราะว่ามันเป็นวิธีรุนแรงและไม่สามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้จริง
5. ผู้หญิงไม่ได้รับอนุญาตให้ร้องไห้ในงานศพ
ตามปกติแล้วงานศพในกรุงโรมโบราณเริ่มต้นด้วยการเดินขบวนไปตามถนน จะมีญาติร้องไห้ตามขบวนแห่ไปด้วย และการที่มีคนร่วมขบวนศพมากขึ้นก็แสดงให้เห็นว่าผู้ตายได้รับความเคารพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นบางครั้งครอบครัวจะจ้างผู้หญิงมาร้องไห้เพื่อสร้างความประทับใจแก่คนอื่น และบางครั้งมันรุนแรงถึงขนาดตัดผมตัวเองเลยทีเดียว จึงมีการยกเลิกเพราะถือว่มันเป็นการกระทำที่รุนแรงมากเกินไป
6. พ่อสามารถฆ่าลูกสาวของตัวเองได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
พ่อเป็นคนที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อครอบครัว โดยเฉพาะลูกสาวที่ยังไม่ได้แต่งงาน โดยพ่อมีสิทธิเลือกสามีที่ดีให้ลูกสาวตัวเองได้ และลูกสาวไม่มีสิทธิที่จะสนิทสนมกับใครก่อนแต่งงาน
ดังนั้นตามกฎหมายพ่อจึงมีสิทธิที่จะฆ่าลูกสาวและคนรักของลูกสาวได้ ถ้าจับได้ว่าพวกเขาทำผิดประเวณี และถ้าฆ่าคนรักของลูกสาวเพียงคนเดียวอาจถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมได้ และมันเป็นความจริงที่ค่อนข้างแปลกประหลาดของหญิงชาวโณมันเพราะเธอเป็นสิทธิของเธอเสมอแม้ว่าจะแต่งงานแล้วก็ตาม
7. ในกรุงโรมโบราณพ่อสามารถขายลูกหลานของตนไปเป็นทาสได้เพียง 3 ครั้ง
พ่อสามารถขายบุตรชายไปเป็นทาสได้ ถ้าคนที่ซื้อไปไม่ต้องการทาสแล้วเขาจะนำตัวกลับมาคืน โดยพ่อแม่สามารถขายลูกได้เพียง 3 ครั้งเท่านั้น
8. แพทย์ใช้กระเทียมทดสอบการตั้งครรภ์
การขาดความรู้ทางการแพทย์โดยละเอียด โดยเฉพาะทางด้านกายวิภาคทำให้แพทย์ไม่สามารถทราบได้ว่าหญิงคนไหนตั้งครรภ์ ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีธรรมชาติหลายวิธีในการตรวจสอบ
โดยในปี 1350 มีการแนะนำให้ผู้หญิงคนหนึ่งใช้เมล็ดข้าวชุบสำลียัดเข้า และถ้าเมล็ดข้าวนั้นสามารถงอกได้ แสดงว่าเธอตั้งครรภ์
ส่วนอีกหนึ่งวิธีคือการใส่กานพลู กระเทียม หรือ หอมเข้าไปในช่องคลอด แล้วเช้าวันรุ่งขึ้นแพทย์จะทำการดมกลิ่นลมหายใจของหญิงคนนั้น โดยอ้างว่าถ้าหญิงคนนั้นตั้งครรภ์เขาจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมของกระเทียมในลมหายใจ
9. ในอียิปต์โบราณคนจะโกนขนคิ้วเพื่อไว้ทุกข์ให้กับแมวของพวกเขา
คนในอียิปต์โบบราณบูชาแมวเพราะเชื่อว่ามันจะมอบความโชคดีให้กับครอบครัว ทั้งยังมีเทพธิดาแมวอีกด้วย ดังนั้นแมวจึงเป็นเหมือนสิ่งศักสิทธิ์ที่ทุกคนห้ามทำร้ายหรือฆ่าเด็ดขาด
และครอบครัวชาวอียิปต์จะไว้อาลัยให้กับแมวที่ตายไปด้วยการโกนคิ้วของพวกเขา ร่างของแมวจะถูกดองใส่ในโลงศพไม้แกะสลักเป็นรูปแมว จากนั้นก็ฝังไว้ในสุสาน
10. ห้องน้ำสาธารณะในกรุงโรม
ในกรุงโรมมีห้องและและห้องอาบน้ำสาธารณะ แต่มีคนร่ำรวยเพียงไม่กี่คนหรอกที่จะมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำไว้ในบ้าน โดยห้องน้ำสาธารณะทำมาจากหินและมีหลุมห่างกันไม่กี่ฟุต