https://www.takieng.com/stories/5031
นักโบราณคดีขุดพบกะโหลกมนุษย์กว่า 675 หัวที่ใจกลางเมืองเม็กซิโกซิตี้ เมืองหลวงของประเทศเม็กซิโก แต่ที่สร้างความฉงนให้กับนักโบราณคดีคือมีกะโหลกของผู้หญิงและเด็กฝังร่วมอยู่กับกะโหลกผู้ชายด้วย จึงเกิดคำถามใหม่เกี่ยวกับพิธีบูชายัญของชาวอาณาจักรแอซเท็กที่เคยรุ่งเรืองเมื่อหลายร้อยปีก่อน
ชาวแอซเท็กเป็นผู้อพยพกลุ่มใหญ่จากทางเหนือของทวีปอเมริกา ได้ตั้งรกรากที่ตอนกลางของเม็กซิโกตรงบริเวณทะเลสาบ Texcoco มีความเจริญรุ่งเรืองกลายเป็นอาณาจักรใหญ่ในช่วงปี 1300 – 1521 มีเมืองหลวงชื่อว่า Tenochtitlan ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นเมืองเม็กซิโกซิตี้ (อาณาจักรแอซเท็กเกิดหลังอาณาจักรมายาเป็นพันปี) ชาวแอซเท็กนับถือเทพเจ้า Huitzilopochtli ซึ่งเป็นสุริยเทพและเทพเจ้าแห่งสงคราม ชาวแอซเท็กนิยมทำพิธีบูชายัญสังเวยแด่เทพเจ้าด้วยการตัดศีรษะนักโทษที่จับมาจากการทำสงครามกับอาณาจักรอื่นๆ และยังมีการเอากะโหลกมาจัดแสดงต่อสาธารณะโดยใช้ไม้สอดกะโหลกวางบนแผงสูงหลายชั้นที่เรียกว่า Tzompantli
แม้ในชนเผ่าอื่นเช่นชาวมายาและชาวอินคาจะมีการทำพิธีบูชายัญกันบ้างแต่ไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายเท่ากับชาวแอซเท็ก มีหลักฐานทางโบราณคดีบ่งชี้ว่ามีการสังเวยครั้งใหญ่ถวายต่อมหาพีระมิดแห่ง Tenochtitlan ในปี 1487 ชาวแอซเท็กได้บูชายัญนักโทษถึง 80,400 คนในช่วงเวลาแค่ 4 วัน ปี 1519 เฮอร์นัน กอร์เตสนักสำรวจและนักล่ายึดดินแดนชาวเสปนได้ยกกองทัพเข้าไปยึดครองและสามารถทำลายล้างอาณาจักรแอซเท็กได้สำเร็จในปี 1521 ทหารสเปนชื่อ อันเดรส เด ทาเปีย ได้บันทึกสิ่งที่เขาพบเห็นในจักรวรรดิแอซเทคว่า ในเมืองหลวงมีหอคอยสูงที่ก่อด้วยกะโหลกมนุษย์นับหมื่นหัว ซึ่งสร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้กับทหารสเปนเป็นอย่างมาก
นักโบราณคดีได้ค้นพบหอคอยกะโหลกมนุษย์ที่เมืองเม็กซิโกซิตี้ใกล้กับวิหาร Templo Mayor ซึ่งเป็นวิหารสำคัญของชาวแอซเท็กและได้เริ่มขุดค้นมาตั้งแต่ปี 2015 ได้พบกับกะโหลกมนุษย์จำนวนมากยึดติดเรียงต่อกันเป็นชั้นๆเป็นหอคอยทรงกระบอก ในระยะเวลาของการขุดราวหนึ่งปีครึ่งจนถึงตอนนี้พวกเขาได้ขุดพบกะโหลกมนุษย์แล้วจำนวน 676 หัว และเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยอีกหลายพัน
เดิมก่อนการขุดนักโบราณคดีคิดว่าน่าจะมีแต่กะโหลกผู้ชายซึ่งก็คือนักโทษหรือเชลยสงครามที่ถูกบูชายัญ การพบกะโหลกผู้หญิงและเด็กจึงสร้างความประหลาดใจให้กับพวกเขา “เราคาดว่าจะพบเฉพาะกะโหลกผู้ชาย โดยเฉพาะพวกหนุ่มๆที่เป็นนักรบ ผู้หญิงและเด็กไม่น่าจะเข้าร่วมการทำสงคราม” Rodrigo Bolanos นักมานุษยวิทยาผู้ตรวจสอบกะโหลกกล่าว “มีบางอย่างได้เกิดขึ้นซึ่งเราไม่มีข้อมูล นี่เป็นครั้งแรกที่พบ” Raul Barrera หนึ่งในทีมนักโบราณคดีที่ทำงานอยู่ที่มหาวิหาร Metropolitan Cathedral ที่สร้างทับวิหาร Templo Mayor เชื่อว่ากะโหลกเหล่านี้ถูกนำมาเก็บไว้ที่หอคอยหลังจากได้จัดแสดงที่ Tzompantli แล้ว
หอคอยนี้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 6 เมตร ตั้งอยู่ที่มุมหนึ่งของโบสถ์เทพเจ้า Huitzilopochtli และส่วนพื้นของมันยังไม่มีการขุด Raul Barrera บอกว่าไม่ต้องสงสัยเลยว่าหอคอยนี้จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของหอคอยกะโหลกมนุษย์ที่เคยสร้างหวาดผวาให้แก่กองทัพสเปนในอดีต การขุดค้นบริเวณหอคอยยังไม่สิ้นสุด ยังมีงานที่ต้องทำต่อไปและจำนวนกะโหลกที่พบก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้รับหลักฐานและข้อมูลที่สามารถคลี่คลายปริศนาและข้อสงสัยที่มีอยู่ก็เป็นได้
ที่มา ข้อมูลและภาพจาก reuters, nytimes, wikipeadia