การจัดกิจกรรมวันแห่งความโกรธแค้น เพื่อต่อต้านการรุกรานของไทย ของภาคเอกชนกัมพูชา ที่รัฐบาลสนับสนุนให้จัดกิจกรรมดังกล่าว ในวันที่15 ก.ค. นี้

Everyday.com.kh ของกัมพูชา รายงานว่าสมาพันธ์สหภาพกัมพูชา ได้แจกจ่ายจดหมายเกี่ยวกับการจัดงาน "วันแห่งความโกรธแค้น" ที่จะจัดขึ้น ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 1 ปี วันที่ไทยทำการรุกรานอาณาเขตของกัมพูชา โดยจดหมายชี้แจงกำหนดการณ์ ว่า งานจะเริ่มขึ้นในเวลา 08.00 น.

โดยจะเชิญมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าอาคาร รัฐสภา ใกล้กับพระราชวัง ต่อจากนั้นจะมีการเดินขบวนไปวางช่อดอกไม้ที่หน้าอนุสาวรีย์อิสระภาพ เพื่อเป็นการรำลึกถึงเหล่าทหารและวีระชน ที่อุทิศชีวิตเพื่อปกป้องราชอาณาจักรกัมพูชาไม่ให้แบ่งแยกออกจากกัน

ใน จดหมายได้มีการเรียกร้องให้เหล่าข้าราชการ ครู พนักงาน และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานนี้ เพื่อแสดงพลังให้รัฐบาลไทย ยอมรับและเคารพในสิ่งต่อไปนี้

1. รัฐบาลไทยต้องผลักดันกองกำลังเจ้าหน้าที่ ซึ่งทำการรุกรานและบุกรุกกินแดนกัมพูชาออกจากพื้นที่ ที่มีอยู่ก่อน 15 กรกฎาคม 2551

2. รัฐบาลไทยต้องเคารพข้อตกลงและลงนามในข้อตกลงนั้น

ด้าน แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง การจัดกิจกรรมวันแห่งความโกรธแค้น เพื่อต่อต้านการรุกรานของไทย ของภาคเอกชนกัมพูชา ที่รัฐบาลสนับสนุนให้จัดกิจกรรมดังกล่าว ในวันที่15 ก.ค. นี้ ว่า ขณะนี้ยังไม่ส่งผลต่อสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา และจากการติดตามข่าวตนคิดว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นเพียงการปลุกกระแสเท่านั้น คงเหมือนกับการจัดกิจกรรมภาคเอกชนในประเทศของเรา โดยของไทยเรา ก็มีกลุ่มที่เรียกร้องทวงคืนแผ่นดินแม่ออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะ แบบเดียวกัน

ซึ่งทางการไทยได้ชี้แจงทำความเข้าใจไปแล้ว สำหรับทางฝ่ายกัมพูชา ได้มีการประสาน และชี้แจงแล้ว ซึ่งฝ่ายกัมพูชาก็มีสิทธิ์ ในการที่จะกระทำในพื้นที่ หรือในประเทศเขาได้ แต่ขออย่าให้มากระทบต่อความสัมพันธ์ หรือบริเวณแนวชายแดนเช่นกัน ขณะนี้ทางกัมพูชาก็ยืนยันว่าจะไม่ให้เกิดเหตุที่บริเวณแนวชายแดนขึ้น

เขมร จัดงาน "วันโกรธแค้นไทย" หวั่นจะกลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีก ยืนยันทหารไทย-กัมพูชา ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ระบุต้องหาแนวทางที่จะให้ประชาชน 2 ประเทศอยู่ด้วยกันอย่างสันติ...

พล. อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาจะจัดงานวันโกรธแค้นไทย ว่าในส่วนของเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 2 ฝ่ายยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่มีสิ่งบอกเหตุอะไร ส่วนลึกเข้าไปตามที่เป็นข่าวนั้นตนคงไม่วิเคราะห์เพราะจะเป็นประเด็นขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ประชาชนทั้ง 2 ประเทศยังคงต้องอยู่ด้วยกัน ต้องหาแนวทางที่จะอยู่ด้วยกันอย่างสันติเหมือนพี่น้องกัน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการตรึงกำลังตามแนวชายแดนนั้น ตอนนี้เหตุการณ์ปกติไม่มีการตรึงกำลังแต่อย่างใด

ในการประชุมร่วมคณะ กรรมการชายแดน ส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (อาร์บีซี) ที่ได้กำหนดจัดการประชุม ระหว่างวันที่ 23-24 ต.ค. นี้ ได้ตั้งกรอบหารือไว้อย่างไรบ้าง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ถือเป็นการใช้กลไกติดต่อในช่องทางหนึ่ง การประชุม อาร์บีซี นั้น จะต้องมีกองเลขาฯของทั้ง 2 ฝ่ายเตรียมประเด็นที่จะพูดกัน

ส่วนใหญ่จะ เป็นเรื่องการทำให้แนวชายแดนทั้ง 2 ฝ่ายของกองทัพภาคที่ 1 กับภูมิภาคทหารที่ 5 เกิดความสงบสุข ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายคงเตรียมหัวข้อที่จะหารือกันเรียบร้อยแล้ว รวมถึงการหาช่องทางให้ สถานการณ์ตามแนวชายแดนเกิดปกติสุข

เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับ กัมพูชายังแน่นแฟ้นอยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ระดับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่มีความสัมพันธ์ที่ดี ยังมีการติดต่อกันระหว่างผู้บังคับบัญชาระดับสูง