read:http://petmaya.com/10-executioner-creepy-stories
การฆ่าคนอื่นถือเป็นเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรง แต่อาชีพเดียวที่คุณสามารถฆ่าคนได้แบบถูกฏหมายแถมยังได้เงินอีกต่างหาก นั่นก็คืออาชีพ “เพชฌฆาต” แต่ชีวิตการเป็นเพชฌฆาตนั้นก็อาจไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิดเสมอไป โดยเฉพาะเรื่องราวของเพชฌฆาตบางคนในอดีต ที่มีเรื่องราวที่ชวนสยองและแปลกพิสดารเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการได้ และวันนี้เพชรมายาจะขอพาทุกท่านไปชมเรื่องราวของเพชฌฆาตเหล่านี้กัน
1. เฮ็นลิช ชมิดท์ คนดูที่กลายมาเป็นเพชฌฆาต
เฮ็นลิช ชมิดท์ คือผู้ชายธรรมดาที่มีอาชีพช่างไม้ที่อาศัยอยู่ในเมืองบาวาเรีย แต่แล้วในวันหนึ่งในขณะที่เขากำลังยืนอยู่ในกลุ่มฝูงชนเพื่อรอดูการประหารชีวิต เจ้าชายจอมเผด็จการก็ตัดสินใจสุ่มเลือกผู้ชมจากฝูงชนมาให้เป็นเพชฌฆาต และ เฮ็นลิช ชมิดท์ คือผู้ถูกเลือก
เขาได้ลงมือประหารชีวิตนักโทษตามที่เจ้าชายสั่ง หลังจากนั้น ชมิดท์ก็ไม่สามารถทำงานอื่นได้อีกเลยนอกจากการเป็นเพชฌฆาตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และชีวิตของเขาก็ถูกรังเกียจจากสังคม เหตุเพราะเขาต้องกลายเป็นคนลงมือประหารชีวิตคนอื่นไปตลอดชีวิต
2. ดิ๊ก บาฟ เพชฌฆาตจำยอม
ดิ๊ก บาฟส์ เด็กชายวัย 12 ปีเป็นอีกคนหนึ่งที่กลายมาเป็นเพชฌฆาตด้วยควมจำใจ เหตุเริ่มจากที่พ่อแม่ของเขาได้ก่อคดีลักทรัพย์และฆาตกรรมจนได้รับโทษประหาร นั่นทำให้เขาต้องถูกส่งตัวไปยังศูนย์เลี้ยงเด็กของไอแลนด์ในช่วงศตวรรษที่ 17 ที่เลวร้ายไม่ต่างจากการถูกส่งตัวไปประหาร
เมื่อเห็นดังนั้นพ่อกับแม่จึงอ้อนวอนขอไม่ให้ดิ๊กถูกส่งตัวไป แต่นั่นต้องแลกกับเงื่อนไขที่ลูกชายของพวกเขาต้องเป็นคนลงมือแขวนคอพ่อแม่ด้วยตัวเอง ดิ๊ก บาฟ กลายเป็นเพชฌฆาตฆ่าพ่อแม่ตัวเองตั้งแต่อายุ 12 ปี และชีวิตของเขาเองก็เจริญรอยตามพ่อแม่ด้วยการเป็นอาชญากร จนสุดท้ายต้องจบชีวิตลงด้วยการถูกแขวนคอไม่ต่างจากพ่อแม่
3. ไซมอน แกรนด์จีน และภรรยา เพชฌฆาตคู่รักที่ล้มเหลว
ในศตวรรษที่ 17 ไซมอน แกรนด์จีน เพชฌฆาตจากเมืองดีฌงและภรรยาของเขาได้รับมอบหมายให้ประหารนักโทษหญิงที่ชื่อ เฮเลเน่ เกลลิท ที่มีความผิดฆ่าลูกตัวเอง ทั้งคู่ถูกมอบหมายให้ตัดหัวนักโทษสาวด้วยดาบ แต่การแกว่งดาบแรกกลับโดนเข้าที่ไหล่ และการแกว่งดาบครั้งที่สองนั้นก็พลาดอีกเช่นกัน นั่นเป็นเหตุทำให้ฝูงชนไม่พอใจอย่างมาก ไซมอนรีบหนีไปที่โบสถ์บริเวณใกล้เคียงในขณะที่ฝูงชนพยายามขว้างปาเขา ส่วนภรรยาที่เป็นผู้ช่วยของเขาก็พยายามแก้สถานการณ์ด้วยการหาไกรกรรขนาดใหญ่มาตัดหัวเธอแทน
แต่ดูเหมือนจะช้าเกินไปเพราะฝูงชนห้อมล้อมและรุมทำร้ายเธอก่อนที่สามีของเธอจะประสบชะตากรรมไม่ต่างกัน สุดท้ายทั้งคู่ต้องเสียชีวิต ส่วนเฮเลนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะถูกปล่อยตัวให้พ้นจากโทษประหารแบบงงๆ
4. โยฮาน ไรน์ฮาร์ท เพชฌฆาตที่จำใจทรยศชาติ
โยฮาน ไรน์ฮาร์ท เพชฌฆาตชาวเยอรมนีและสมาชิกพรรคนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 งานของเขาคือการประหารชีวิตผู้คนที่ถูกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรสงคราม แต่หลังจากที่สงครามจบลง นาซีส่วนใหญ่ที่ถูกจับล้วนถูกประหารชีวิต แต่โยฮานกลับได้รับการยกเว้นเนื่องจากเขาไม่เคยฆ่าใครในสนามรบหรือแม้แต่ในค่ายกักกันแม้แต่คนเดียว แม้ว่าเขาจะไม่ได้โทษประหาร แต่ฝ่ายพันธมิตรก็มอบหน้าที่เพชฌฆาตให้กับเขาเหมือนที่เคยเป็น โยฮานต้องประหารนาซีพวกเดียวกันอย่างน้อย 21 คนก่อนที่เขาจะปฏิเสธไม่ทำมันอีกต่อไป และนั่นทำให้เขาต้องถูกจับเข้าคุกเป็นเวลาถึง 2 ปี และถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกต่อไป
ตลอดชีวิตที่ทำหน้าที่เพชฌฆาต โยฮานสังหารผู้คนด้วยหน้าที่ของเขาไปมากกว่า 3,000 คน และส่วนใหญ่แล้วเป็นช่วงเวลาที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเอง
5. จอห์น เอลลิส เพชฌฆาตผู้ไม่เคยมีความสุข
แน่นอนว่าการเป็นเพชฌฆาตไม่ใช่งานที่มีความสุข การฆ่าคนเพื่อเอาชีวิตรอดหรือแม้แต่ในนามของ “ความยุติธรรม” ก็ล้วนเป็นเรื่องยากของคนส่วนใหญ่ เพชฌฆาตส่วนมากล้วนมีปมลึกๆ กับสิ่งที่ตัวเองทำ และนั่นก็คือชีวิตของ จอห์น เอลลิส เพชฌฆาตชาวอังกฤษผู้นี้ ที่ทำหน้าที่ของเขาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 จอห์น ได้ทำหน้าที่ประหารชีวิต เอดิธ โทมัส นักโทษคนสุดท้ายของเขาด้วยความลำบากใจอย่างมาก เขาตัดสินใจลาออกหลังจากต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่อง เขาดื่มหนักและพยายามฆ่าตัวตายในเวลาต่อมา และไม่รู้ว่าเขาโชคดีหรือโชคร้ายที่รอดชีวิตกลับมาได้
สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือ การฆ่าตัวตายถือเป็นการก่ออาชญากรรมรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจอห์นต้องเข้ารับการพิจารณาคดีด้วยข้อหาพยายามฆ่าตัวตาย และเขาต้องติดคุกนาน 1 ปี ก่อนที่ 8 ปีต่อมาเขาจะพยายามฆ๋าตัวตายอีกครั้งด้วยการปาดคอตัวเอง ซึ่งครั้งนี้เขาทำสำเร็จ
6. อัลเบิร์ต ปิแอร์พอยท์ เพชฌฆาตที่โด่งดังที่สุด
อัลเบิร์ต ปิแอร์พอยท์ หนึ่งในเพชฌฆาตชาวอังกฤษคนสุดท้ายที่ยังเป็นที่รู้จักจนถึงทุกวันนี้ เขามักจะบันทึกเรื่องราวการทำงานของเขาไว้ และนั่นทำให้เราได้เห็นเรื่องแปลกๆ เกี่ยวกับการทำหน้าที่เพชฌฆาตมากมาย บางทีเรื่องราวแปลกๆ ก็ไม่ได้เกี่ยวกับการประหารของเขา แต่เกี่ยวกับความโด่งดังของเขาเอง ถ้าเปรียบเหมือนสมัยนี้ อัลเบิร์ตก็ไม่ต่างอะไรกับเน็ตไอดอลที่มีแต่ผู้คนชื่นชอบและมองว่าเขาเป็นฮีโร่ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อตอนที่อัลเบิร์ตประหารชีวิตอาชญากรสงครามได้ราวๆ 200 คน เขากลายเป็นวีรบุรุษอันทรงเกียรติและกลายเป็นสมบัติของชาติ อัลเบิร์ตพบว่ามีผู้คนมากมายที่เสนอเลี้ยงเบียร์เขาตลอดเวลาในฐานะฮีโร่
ความโด่งดังของอัลเบิร์ตในฐานะเพชฌฆาต เริ่มทำให้เขาเริ่มประหารคนที่ไม่ใช่อาชญากรสงครามเพื่อรักษาความดังของเขาเอาไว้ หรือแม้แต่เคยประหารเพื่อนๆ ในผับของเขาที่รู้จักกันดี และยังทักทายกันแบบส่วนตัวในเช้าวันประหารอีกด้วย
7. โธมัส เดอร์ริค เพชฌฆาตผู้มาจากการก่ออาชญากรรม
โธมัสคือคนที่กลายเป็นเพชฌฆาตจากการก่อคดีข่มขืน ซึ่งในยุคของราชินีอลิซาเบธนั้น การข่มขืนมีโทษสถานเดียวคือการประหารชีวิต แต่ผลจากการตกลงกันแบบลับๆ กับท่านเอิร์ลแห่งเอสเซกซ์ ทำให้เขาได้รับการยกเว้นโทษประหารโดยมีเงื่อนไขก็คือ เขาต้องกลายเป็นเพชฌฆาตให้กับชุมชนท้องถิ่นแทน การเป็นเพชฌฆาตในยุคนั้นไม่ได้รับความนิยมและผู้คนมักจะดูแคลนอาชีพเพชฌฆาตอย่างมาก งานเพชฌฆาตเป็นงานที่ต่ำต้อยและผู้คนต่างก็รู้ดีว่า เพชฌฆาตแบบโธมัสก็คือคนที่ได้รับเว้นโทษประหารมานั่นเอง
ท้ายที่สุด จุดจบของท่านเอิร์ลแห่งเอสเซกซ์ก็ไม่สวยเท่าไหร่ เพราะท่านเอิร์ลกลับโดนโทษประหารชีวิตในข้อหาก่อกบฏ และคนที่ประหารชีวิตท่านเอิร์ลไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือ โธมัส เดอร์ริค ผู้นี้นี่เอง และตลอดชีวิตของโธมัส เขาประหารผู้คนไปมากถึง 3,000 คน
8. อองรี-เคลมองต์ แซนสัน เพชฌฆาตกับกิจการพิเศษ
อองรี-เคลมองต์ เพชฌฆาตชาวฝรั่งเศสที่สืบทอดตำแหน่งหน้าที่นี้ต่อๆ กันมาในครอบครัวถึง 7 รุ่น แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนจะมีความสุขกับงานที่ได้รับสืบต่อจากพ่อแม่ เขากลายเป็นคนขี้เหล้าและใช้เงินฟุ่มเฟือย จนในที่สุดเขาก็ถังแตกและต้องเริ่มทำงานพิเศษเพื่อให้ได้เงินมา อองรีเปิดบ้านของเขาให้ผู้คนเข้าชม “กิโยติน” สมบัติล้ำค่าของครอบครัวที่ใช้ประหารชีวิตผู้คนมานับไม่ถ้วน และเพื่อความตื่นเต้น เขาจึงได้นำแกะเป็นๆ มาตัดหัวโชว์ผู้คนที่เขาเก็บเงินเข้าชม และดูเหมือนเขาจะมีความสุขเล็กๆ กับความซาดิสม์ของตัวเองอีกด้วย
ถึงแม้กิจการของเขาจะฟังดูเข้าท่า แต่สถานะทางการเงินของเขากลับไม่ได้ดีขึ้นเลยแต่กลับแย่ลงไปอีก สุดท้ายอองรีต้องขายกิโยตินที่เป็นสมบัติของตระกูล และเปลี่ยนมาใช้ขวานเก่าๆ ที่มีอยู่ในการประหารชีวิตแทน และด้วยพฤติกรรมเช่นนี้จึงทำให้เขาตกงานในที่สุด
9. แจ็ค เคทช์ เพชฌฆาตที่ห่วยที่สุด
นี่อาจเป็นเพชฌฆาตที่มีฝีมือห่วยที่สุดในประวัติศาสตร์ แจ็ค เคช เพชฌฆาตชาวอังกฤษที่อยู่ในช่วงศตวรรษที่ 17 ผู้โด่งดังจากฝีมือการประหารที่ห่วยแตกแบบสุดๆ ห่วยจนขนาดที่ผู้คนเอาชื่อของเขาไปเรียกเป็นคำแสลง ที่ใช้แทนความหมายว่า “เพชฌฆาตห่วยๆ” ด้วยความห่วยของเขานี่เอง ทำให้ครั้งหนึ่ง แจ็คเคยถูกผู้ชมพยายามรุมทำร้ายเนื่องจากการประหารที่ไม่ได้เรื่องของเขา และการประหารที่ห่วยสุดๆ ของเขาก็คือการที่เขาพยายามตัดศีรษะนักโทษคนหนึ่งถึง 8 ครั้งกว่าจะสำเร็จ
มีเรื่องร่ำลือที่ชวนสยองขึ้นไปอีก เพราะมีบางคนตั้งคำถามว่า มันจะเป็นไปได้หรือที่เขาจะเป็นเพชฌฆาตที่ฝีมือห่วยได้ขนาดนี้ หรือจริงๆ แล้วเขาเป็นคนซาดิสม์ที่อยากเห็นความทรมานของนักโทษก่อนตายก็เป็นได้
10. จอห์น ไพรซ์ เพชฌฆาตอาชญากร
จอห์น คือเพชฌฆาตชาวอังกฤษที่รับหน้าที่แขวนคอนักโทษในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 ถึงต้นศตวรรษที่ 18 แม้ว่าการทำงานของเขาจะอยู่ในกระบวนการยุติธรรม แต่เขากลับเลือกที่จะเดินในเส้นทางตรงกันข้ามกับกฏหมาย ในปี 1715 จอห์นได้แขวนคอผู้ชาย 3 คนที่เขาติดหนี้ เงินที่เขาได้มาจากการฆ่าเจ้าหนี้เหล่านั้นทำให้เขารอดคุกมาได้ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็มีปัญหาด้านการเงินอีกจนถึงกับติดคุก และหลังจากนั้นแค่เพียงไม่กี่เดือน จอห์นกับเพื่อนร่วมคุกของเขาก็แหกคุกออกมาด้วยการขุดอุโมงค์ลอดใต้กำแพงคุก
ในปี 1718 จอห์นก่อคดีฆาตกรรมอีกรอบ เขาฆ่าชายคนหนึ่งและทำร้ายผู้หญิงอีกคนจนบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา และจากคดีที่เขาก่อขึ้นทำให้เขาได้รับโทษประหารชีวิต จากเพชฌฆาต กลายเป็นอาชญากร กลายเป็นฆาตกร และสุดท้ายก็กลายเป็นคนที่โดนประหารชีวิตเสียเอง
ที่มา http://whatculture.com/history/10-creepy-stories-about-real-life-executioners?page=2