https://daily.rabbit.co.th/
วันนี้เราจะขอพาเพื่อนๆ ย้อนอดีตไปชมภาพประวัติศาสตร์หาดูยาก เกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวจีนในสมัยราชวงศ์ชิง (ยุคแมนจู) กันสักหน่อย ซึ่งเป็นในช่วงปี 1644-1912 ก่อนที่ประเทศจีนจะเปลี่ยนมาสู่ระบบคอมมิวนิสต์แบบในปัจจุบัน และวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยที่ก่อนจะเปลี่ยนผ่านสู่ยุคของ เหมา เจ๋อตุง จะเป็นอย่างไรนั้น ไปชมพร้อมๆ กันได้เลย
ประชาชนจำนวนมากที่ในยุคนั้นจะถูกมอมเมาด้วยฝิ่น ผู้คนส่วนใหญ่จึงนิยมสูบฝิ่นกันเป็นอย่างมาก
ภายใต้กฎการปกครองของราชวงศ์ชิง ผู้ชายชาวจีนทุกคนจะต้องตัดผมครึ่งหัวและถักเปียไว้ด้านหลังแบบนี้ หรือที่หลายคนรู้จักกันว่า ‘แมนจู’ นั่นเอง
กลุ่มเด็กผู้ชายบนถนนจากเมืองกวางโจว (ภาพซ้าย) และภาพการขนก้อนชาที่หนักกว่า 136 กิโลกรัม ไปในระยะทางไกลกว่า 180 กิโลเมตร (ภาพขวา)
ในยุคนั้นหญิงสาวทุกคนจะถูกฝึกให้ห่อเท้าตั้งแต่เด็ก โดยมีความเชื่อว่ายิ่งเท้าเล็กเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีความสวยงามมากเท่านั้น
ภาพจากปักกิ่งเมื่อปี 1869 ก่อนที่วัฒนธรรมดั้งเดิมทั้งหมดจะถูกลบหายไปในยุคการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ภาพของกลุ่มนักบวชลัทธิเต๋าเมื่อปี 1906 ซึ่งภายหลังเรื่องแนวคิดทางศาสนาขัดแย้งกับหลักการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ ทำให้พวกเขาต้องอยู่กันแบบหลบๆ ซ่อนๆ
กลุ่มหญิงสาวผู้เป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมในยุคราชวงศ์ชิง
ภาพของคุณหมอกำลังตรวจสุขภาพเท้าของชายคนหนึ่งที่เมืองปักกิ่ง ปี 1869
ในยุคสมัยนั้นการแสดงงิ้วยังได้รับความนิยมสูง ก่อนที่จะถูกควบคุมในยุคของเหมา เจ๋อตุง
ภาพของนักร้องสาวสองคนจากฮ่องกงเมื่อปี 1901 ผู้หญิงที่อยู่ด้านซ้ายเล่นเครื่องดนตรีพื้นเมืองของจีน ซึ่งปัจจุบันมีคนเล่นน้อยมาก
ภาพของสองพ่อค้าชาวจีนผู้มั่งคั่งเมื่อปี 1901 กำลังทานอาหารพร้อมได้รับการบริการจากสาวนักร้องที่จ้างมา
ภาพของชายชาวจีนกำลังยืนอยู่ใกล้กับปืนใหญ่จากเมืองนานกิง เมื่อปี 1872
ฝั่งซ้ายเป็นภาพของพ่อค้าผู้มั่งคั่งในยุคนั้น ส่วนฝั่งขวาเป็นภาพของหญิงสาวชาวบ้านที่ต้องถูกห่อเท้าตั้งแต่เด็ก
ภาพจากปี 1880 เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนส่วนใหญ่ติดฝิ่นกันงอมแงม ก่อนที่จะถูกกวาดล้างและขึ้นบัญชีให้เป็นสิ่งผิดกฎหมายในยุคต่อมา
ภารกิจของเด็กๆ ในยุคนั้นก็คือการเล่นต่อตัวหรือการฝึกวิชากังฟูดั้งเดิม ก่อนภารกิจจะถูกเปลี่ยนให้เป็นการอ่านหนังสือปกแดง ซึ่งเป็นคติพจน์ของเหมา เจ๋อตุง
ช่วงเวลาเปลี่ยนไป ยุคสมัยก็เปลี่ยนตาม และแน่นอนว่าย่อมมีหลายสิ่งหลายอย่างเข้ามาทดแทนสิ่งเดิมๆ ซึ่งมันก็ทำให้หลายสิ่งต้องเลือนลางหายไปตามกาลเวลา หลงเหลือไว้เป็นเพียงภาพถ่ายหรือภาพในความทรงจำให้คิดถึงเท่านั้นเอง
ที่มา http://www.dailymail.co.uk/news/article-4510310/Incredible-images-China-communist-rule.html