http://www.catdumb.com/bird-catcher-tree-777/
ปกติแล้ว ต้นไม้จะทำหน้าที่เป็นที่อยู่อาศัยให้กับสัตว์ โดยเฉพาะนกที่ชอบทำรังบนอยู่บนนั้น แต่สำหรับ Pisonia Brunoniana มันคือต้นไม้ที่ฆ่านกมาแล้วนับไม่ถ้วน Pisonia Brunoniana เป็นพรรณไม้ดอกขนาดเล็ก มีถิ่นกำเนิดในแถบเขตร้อนจากฮาวายไปจนถึงนิวซีแลนด์และทางตะวันตกของอินเดีย ต้นพีโซเนียจะมีเนื้ออ่อนนุ่ม มีใบขนาดใหญ่ มันวาว และมีความลี้ลับบางอย่างแฝงอยู่…หากขุดลงไปยังส่วนราก คุณจะพบซากกระดูกเต็มไปหมด จนทำให้มันถูกเรียกว่า “ต้นไม้ฆาตรกร”
ต้นพีโซเนียจะผลิตฝักเมล็ดที่ปกคลุมไปด้วยของเหลวที่มีความเหนียว หากนกหรือแมลงไม่ทันระวังหรือไม่รู้แล้วบินมาเกาะเมล็ด ยิ่งขนของพวกมันไปติดบนเมล็ดหลายๆ ลูก ก็จะยิ่งบินออกยาก และอาจตายอยู่ตรงนั้น หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว นกที่มาติดกับดักของต้นพีโซเนีย มักจะหนีออกมาไม่ได้ ทำให้มันตายและกลายเป็นศพแห้งบนต้นไม้ แล้วห้อยลงมาเหมือนสิ่งประดับต้นคริสต์มาสยังไงอย่างงั้น ย่ิงไปกว่านั้น นกที่ติดอยู่บนต้นไม้ ทั้งมีชีวิตอยู่และตายไปแล้ว มักจะเป็นเหยื่อล่อให้นกตัวอื่นๆ สนใจ และมาติดกับดักด้วยในที่สุด
ต่อมาเมื่อ Alan Burger นักนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาลัยวิกตอเรีย ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับต้นไม้ที่คร่าชีวิตนกนับไม่ถ้วน เขาเกิดความสงสัยว่ามันเหตุผลอยู่เบื้องหลังกลไกการดักจับหรือมันอาจจะเป็นแค่วิวัฒนาการของต้นไม้เท่านั้น ดังนั้นในต้นเดือนพฤษภาคม ปี 1999 Burger จึงเดินทางไปยังหมู่เกาะเซเชลส์ในมหาสมุทรอินเดีย เพื่อทำการศึกษาต้นพีโซเนีย และอยู่ที่นั่นนานถึง 10 เดือน Burger กล่าวว่า “จากการทดลองของผมพบว่า ต้นพีโซเนียไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากการที่ดักจับสัตว์เลย เมล็ดไม่ได้เพิ่มขึ้นหรือน้อยลงจากการที่มีนกมาตายบนต้นไม้”
เขาได้ทำการทดลองต่อไปจนพบว่าต้นพีโซเนียได้รับสารอาหารจาก Guano (ขี้นก) มากกว่าซากนกที่ตาย นั่นแสดงว่านกที่มีชีวิตมีประโยชน์กับต้นไม้มากกว่าตอนมันตาย ประเด็นถัดมาคือ ทำไมเมล็ดของต้นพีโซเนียถึงมีความเหนียว? Burger ได้ลองนำเมล็ดไปแช่ในน้ำ เพื่อทดสอบว่าต้นไม้ใช้ซากศพในการแพร่พันธ์ตัวเองหรือไม่ แต่จากการทดสอบกลับพบว่าเมล็ดจะตายภายใน 5 วัน หลังจากที่ถูกแช่ในน้ำ ต่อมาเขาก็เลยของทดสอบพ่นน้ำใส่เมล็ดพีโทเนีย เป็นเวลาหลายสัปดาห์ พบว่ามันเมล็ดยังเติบโตได้ตามปกติ
The Deadly Bird Catcher Tree (Parapara)
ดังนั้นการดักจับนกจึงไม่ใช่หนทางที่จะทำให้ต้นไม้มีการแพร่กระจาย แต่เมล็ดสามารถทำให้ต้นไม้งอกขึ้นมาใหม่ได้ด้วยวิธีการทางธรรมชาติของมัน โดยไม่ต้องพึ่งซากนก อย่างไรก็ตามนกที่ยังมีชีวิตอยู่น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้นพีโซนียมีการแพร่พันธ์ุ แต่น่าเสียดายที่เมล็ดของมันมีความเหนียวและการผลิตเมล็ดพันธุ์ก็มีจำนวนมาก ทำให้นกบางชนิดมาบินมาติดจนไม่สามารถบินออกไปได้ เพราะฉะนั้นการที่ต้นไม้ฆ่านกนับไม่ถ้วนนั้นเป็นเพียงความไม่ตั้งใจเท่านั้น แต่ตราบเท่าที่เมล็ดยังอยู่บนต้น มันจะยังคงเจริญเติบโตได้ตามปกติ
แต่มีบางอย่างที่แปลกคือ แม้ต้นไม้จะอันตรายสำหรับนก แต่นกกลับรักต้นพีโซเนีย และบินเข้ามาเกาะเอง…
Beth Flint นักชีววิทยาสัตว์ป่าจาก U.S. Fish and Wildlife Service กล่าวว่า “มักจะไม่ค่อยมีการพบต้นพีโซเนียที่ไม่มีซากสัตว์อยู่ ในต้นพีโซเนียจะมีซากสัตว์อย่างน้อยหนึ่งตัวเสมอ” บางครั้งมนุษย์เองก็ได้เข้ามาแทรกแซงวัฏจักรดังกล่าวเช่นกัน บนเกาะนอร์ทของนิวซีแลนด์ ต้นพีโซเนียแทบจะสูญพันธ์ุ เนื่องจากมนุษย์ได้ทำการตัดทิ้ง เพื่อป้องกันไม่ให้นกไปติดตายอยู่บนต้นไม้ นอกจากนี้บนเกาะ Cousine เจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่ามีนโยบายให้ช่วยเหลือนกที่ไปติดอยู่บนต้นพีโซเนีย ขจัดความเหนียวออกจากตัวพวกมัน และให้การช่วยเหลือจนกว่ามันจะกลับมามีชีวิตปกติ
ที่มา http://www.odditycentral.com/pics/bird-catcher-tree-lures-birds-with-free-meals-then-accidentally-kills-them.html