ไม่มีอะไรมั่นคงตลอดไป มันเป็นสัจธรรมที่ใช้ได้กับทุกสิ่ง และนี่เป็นสถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเจริญรุ่งเรือง แต่แล้วกลับถูกทอดทิ้งจนกลายเป็นสถานที่ร้างในปัจจุบัน และไม่มีใครกล้าเข้าไปเหยียบ จะมีที่ไหนบ้าง ไปชมกันเลย
1. Argentiera, อิตาลี
เป็นเมืองที่เคยเป็นเหมืองแร่เงินเก่าแก่ ชื่อของเหมืองมาจากคำว่า argento แปลว่า เงิน ในยุค 40 มันเป็นเหมืองที่เคยรุ่งเรืองมากที่สุด แต่แล้วก็เริ่มแย่ลงมาเรื่อย จนถูกสั่งปิดไปเมื่อปี 1963
2. Varosha, ไซปรัส
ตั้งอยู่ในเมือง Famagusta ประเทศไซปรัส มันเคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมาก่อน แต่แล้วกลับถูกตุรกีรุกรานในปี 1974 และปัจจุบันยังคงเป็นเมืองร้างที่ไม่มีคนอาศัยอยู่
3. Quinta da Regaleira, โปรตุเกส
Initiation Well ตั้งอยู่ใน Quinta da Regaleira ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมโดเด่น โดยเชื่อกันว่ามันเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา
4. Grytviken, ทางใต์ของจอร์เจียและทางใต้ของเกาะแซนวิช
เป็นศูนย์กลางการปกครองของดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษในปี 1904 ทั้งยังเป็นสถานีวาฬแห่งแรกในแอนตาร์กติกา นอกจากนี้ยังมีอาคารคริสจักรแห่งเดียวอีกด้วย มีการแต่งงานครั้งสุดท้ายเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2009 หลังจากนั้นก็ถูกทิ้งร้าง
5. Oradour-sur-Glane, ประเทศฝรั่งเศส
ในปี 1944 ทางบริษัท German Waffen-SS ได้ทำลายหมู่บ้าน Oradour-sur-Glane ทำให้มีชาวบ้านถูกสังหารกว่า 642 คน หลังจากสงครามประธานาธิบดีฝรั่งเศสประกาศว่า ไม่ควรสร้างหมู่บ้านนี้ขึ้นใหม่ แต่มันยังคงมีสภาพเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเพราะถือว่าเป็นที่ระลึกถึงความโหดร้ายของนาซี
6. Cape Romano, สหรัฐอเมริกา
เป็นบ้านคล้ายโดมขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นในปี 1980 แต่หลังจากที่พื้นทรายเริ่มจมน้ำในปี 2005 มันก็เริ่มร้าง ซึ่งเจ้าของคนใหม่วางแผนจะทำการปรับปรุงมันใหม่ แต่ก้ไม่สามารถทำได้เพราะเจ้าหน้าที่ของเกาะไม่อนุญาต ปัจจุบันมันจึงกลายเป็นสถานที่ร้างที่ไม่มีใครอาศัยอยู่
7. Plymouth, Montserrat
ในเดือนกรกฎาคม 1995 หลังจากที่ภูเขาไฟ Soufrière Hills เกิดการระเบิดส่งผลให้มีลาวาไหลและมีเถ้าถ่านปกคลุมเป็นบริเวณกว้างไปทั่วตอนใต้ของ Montserrat ทำให้ชาวบ้านกว่า 4,000 คนอพยพกันออกไปอยู่ที่อื่น
8. Spinalonga, กรีซ
เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกาะครีต ในปี 1669 เกาะครีตถูกยึดครองโดยจักรวรรดิออตโตมัน หลังจากนั้นชาวกรีกก็รวบรวมคนที่เป็นโรคเรื้อนส่งไปอยู่ที่เกาะนี้ แต่พวกเติร์กกลัวจะติดเชื้อจึงพากันหนีออกจากเกาะไป ตอนนี้มันมีเพียงซากปรักหักพังที่ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้แต่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพราะมันมีซากป้อมปราการหลงเหลืออยู่
9. Spreepark, เยอรมนี
เป็นสวนสนุกในกรุงเบอร์ลินที่สร้างขึ้นในปี 1969 แต่แล้วในปี 1989 ทางบริษัท Spreepark Berlin GmbH ได้ซื้อกิจการนี้ต่อ แต่แล้วในปี 2001 บริษัทนี้ก็ล้มละลายและสวนสนุกก็ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้
10. Agdam, Nagorno-Karabakh กับอาเซอร์ไบจาน
มันตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอาเซอร์ไบจาน แต่ในปี 1993 กลับเกิดสงครามทำให้ชาวเมืองถูกปล้นและถูกจับเผา
11. ฮาชิมะ, ญี่ปุ่น
เป็นเกาะกลางทะเลที่เคยเป็นเหมืองถ่านหินลึกกว่า 600 เมตร ในปี 1940 ทางบริษัทมิตซูบิชิคอปอเรชั่นได้ใช้แรงงานจีนและเกาหลีบนเกาะนั้น เกาะมีขนาดเพียง 6.3 เอเคอร์เท่านั้นแต่กลับมีประชาชน 835 คน/เอเคอร์ จนมันกลายเป็นสถานที่ที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดในโลก แต่แล้วในปี 1974 เหมืองก็ถูกปิดและมันกลายเป็นเกาะร้างที่ถูกทอดทิ้ง
12. Pripyat, ยูเครน
ถูกสร้างขึ้นในปี 1970 มันเป็นเมืองปิดเพราะเป็นสถานที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล หลังจากเกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ในเดือนเมษายน 1986 ก็มีการอพยพผู้คนออกจากเมือง หลังจากนั้นมันก็ถูกปล่อยทิ้งร้างเพราะผลกระทบจากนิวเคลียร์ ระดับรังสีที่เมืองลดลงจนถือว่ามันปลอดภัยแล้ว แต่มันก็กลายเป็นเมืองร้างที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปอาศัยอยู่ แต่มีนักท่องเที่ยวชอบเเอบเข้าไปสร้างกราฟฟิตี้น่าขนลุกไว้