read:http://www.wtfintheworld.com/2017/10/04/hooligan-millwall-brick/
ประเทศอังกฤษนั้นถือว่าเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เรียกได้ว่ามีความคลั่งไคล้ในเกมฟุตบอลเป็นอย่างมาก จนถึงขนาดที่ว่า “ฆ่าได้หยาม (ทีมที่ข้ารัก) ไม่ได้” จึงเป็นต้นกำเนิดให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันระหว่างแฟนบอลเป็นประจำ ซึ่งพวกแฟนบอลพันธุ์โหดเหล่านี้เราเรียกว่า “ฮูลิแกน”
สำหรับวันนี้เรามีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับอาวุธที่ของพวก “ฮูลิแกน” ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีวันตรวจพบ มันคืออะไรแล้วมีรายละเอียดแบบไหนไปอ่านกันเลย
ข้าคือ “ฮูลิแกน”
การต่อสู้ของเหล่าฮูลิแกนในประเทศอังกฤษนั้นสร้างความหนักใจให้แก่แฟนบอลปกติ (ที่นิสัยดี) รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สนามเป็นอย่างมาก เพราะมีหลายครั้งที่เกิดเหตุเกินเลยจนทำให้มีคนเสียชีวิตหรือมีคนอื่นโดนลูกหลง
ในบางครั้งเหตุการณ์รุนแรงส่งผลกระทบไปในสนามด้วย จนทำให้การแข่งขันต้องหยุดชะงักหรือยกเลิกไปเลยก็มีเช่นกัน
ในช่วงปลายทศวรรษ 1960
เจ้าหน้าที่จึงเริ่มเข้มงวดกับเหล่าฮูลิแกนที่จะเข้าไปชมเกมภายในสนามมากขึ้น ด้วยการตรวจค้นอาวุธเพื่อให้ไม่สามารถนำสิ่งที่อาจจะใช้เป็นอาวุธเข้าไปในสนามได้
ซึ่งแรกๆ นั้นก็ได้ผลเป็นอย่างดี ลดเหตุร้ายแรงได้อีกทางหนึ่ง แต่ทว่ายังมีคนสามารถที่จะคิดค้นวิธีการเปลี่ยนสิ่งของธรรมดาให้กลายเป็นอาวุธได้ สิ่งนั้นถูกเรียกว่า “อิฐมิลล์วอลล์”
“อิฐมิลล์วอลล์”
เกิดขึ้นโดยกลุ่มฮูลิแกนของทีมฟุตบอลที่เรียกได้ว่า “อันตราย” ที่สุดในอังกฤษนั่นก็คือทีม Millwall F.C. เมื่อถูกกดดันไม่ให้พกพาอาวุธเข้าสนามหรือมักจะถูกตรวจค้นได้ตามสถานีรถไฟ
พวกเขาจึงนำ “กระดาษหนังสือพิมพ์” ติดตัวไปไหนต่อไหนเพื่อใช้มันเป็นเครื่องทุ่นแรง
โดยก่อนที่จะมีการปะทะกับคู่อริ พวกเขาจะใช้หนังสือพิมพ์ที่เตรียมมาทำการม้วนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ขนาดที่เหมาะมือและพันด้วยเทปกาวเพื่อความถนัดในการใช้งาน
ซึ่งไอ้เจ้าหนังสือพิมพ์พับแบบนี้จะมีความแข็งพอๆ กับอิฐก้อนหนึ่งเลยทีเดียว
แต่ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือยังมีการพัฒนาให้สามารถยัดก้อนหินเข้าไปตรงบริเวณที่เป็นส่วนพับ ทำให้มันไม่ต่างจากค้อนหรือว่าขวานหินเลยทีเดียว
ความรุนแรงของการใช้อิฐมิลล์วอลล์นั้นเคยเป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ราย ซึ่งเหล่าผู้ที่คิดค้นได้ให้เหตุผลว่า “ใครมันจะไปสนใจคนถือหนังสือพิมพ์” ล่ะจริงไหม
ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ว่าเพียงแค่กระดาษธรรมดาก็สามารถนำมาใช้เป็นอาวุธได้ น้องอย่าเลียนแบบล่ะ
ที่มา SpokeDark.TV