บอลโลกปีนี้ เป็นไงครับ มีเรื่องมี่คาดฝัน, โชคร้าย, ริษยา ส่วนผมนั้นมันจบไปตั้งแต่ทีมชาติอังกฤษแพ้ไปแล้ว แถมอดดูมาโดน่าแก้ผ้าอีก...เออ ตอนนี้ผมชักเกลียดปลาหมึกพอลสักแล้วสิ
10 รายการต่อไปนี้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในบอลโลกยุคใหม่ครับ (นับจากฝรั่งเศสเป็นเข้าภาพ จนถึงเยอรมัน) แน่นอนเรื่องราวแปลกๆ ในบอลโลกนั้นมีมากมาย เนื่องจากรายการนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีสีสัน จนเรียกได้ว่ามันได้กลายเป็นวัฒนธรรมของชาวโลกไปแล้ว
อันดับ 10 WAGs Descend on Deutschland
ปกติเวลาที่นักฟุตบอลโลก รับใช้ทีมชาติ นักแตะจะต้องออกจากครอบครัว แต่ยุ่งเกี่ยวกับภรรยา เพื่อไม่ให้จิตใจวอกแวกใช่เปล่าครับ แต่ในช่วงบอลโลกปี 2006 ภรรยาและแฟนของผู้เล่นอังกฤษ(ที่ทั้งสวยทั้งอวบ) ผู้จัดการทีมอนุญาตให้พวกเธอเหล่านี้สามารถสามารถพบนักแตะในที่ฝึกซ้อมได้ ส่งผลทำให้บรรดาแฟนและภรรยาสาวของนักเตะอังกฤษโด่งดังไปทั่วโลกในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ค.ศ.2006 รอบสุดท้ายที่เยอรมนี เมื่อทำให้ผู้คนหันมาสนใจพวกหล่อนมากกว่าฟุตบอลเสียอีก ทำให้บาเด็น บาเด็น เมืองเล็กๆในเยอรมนี ที่ทีมชาติอังกฤษพักอยู่คึกคุกทันตามีข่าวออกมาไม่เว้นแต่ละวันจนกลบความ สนใจของฟุตบอลแทบหมดพร้อมกับทำให้ เศรษฐกิจของเมืองพุ่งด้วยการช็อปปิ้งเป็นว่าเล่นไปด้วย
อันดับ 9 Disastrous French Defense
ฝรั่งเศสถือได้ว่าเป็น ทีมที่ดราม่ามากในการแข่งขันฟุตบอลโลกยุคใหม่ ที่มีทั้งดีและร้ายอยู่ในเวลาเดียวกัน โดยแมกซ์คลาสสิกที่ทำให้โลกตะลึง(รวมทั้งคนเล่นบอลเจ๊งเป็นแถบๆ) นั่นก็คือในนัดแรกปี 2002 ที่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วมกัน เกมนั้น ฝรั่งเศส แชมป์เมื่อปี 1998 และเพิ่งได้แชมป์ยูโร 2000 พบกับ เซเนกัล ตัวแทนจากแอฟริกา ที่แทบจะไม่มีใครรู้จักทีมนี้ ผลออกมา แทบช็อก เมื่อฝรั่งเศสไม่สามารถสู้กับ เซเนกัล ได้ ก่อนจะโดนยิงประตูชัย 1-0 ในนาทีที่ 30 จากผลงานของ ปาป้า บูบ้า ดิย็อบ หลังจากเกมดังกล่าว นักเตะของเซเนกัลหลายคน ได้รับความสนใจจากทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป ไม่ว่าจะเป็น ซาลิฟ ดิเยา, เอล ฮัจจิ ดิยุฟ และ อองรี กามาร่า เส้นทางของฝรั่งเศส ในปีนั้นตกรอบแรก ขณะที่ เซเนกัล ตกรอบ 8 ทีมสุด ท้าย โดยอองรีออกมาคำแก้ตัวว่าที่ฝรั่งเศสแพ้ก็คือ “ซีดานบาดเจ็บครับ”
อันดับ 8 Jung-Hwan Hung Out to Dry
กลาย เป็นแม็กซ์ความทรงจำของบอลโลกและหายนะของผู้ชนะบางคน โดยเป็นบอลโลกปี 2002 ที่เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น ซึ่งเกาหลีใต้เจ้าภาพที่ทำสถิติเป็นทีมจากเอเชียทีมแรกที่ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมเจอกับ ศึกหนักอิตาลี ซึ่งแมกซ์นี้ถือได้ว่าเป็นแมกซ์ที่คนฝั่งอิตาลีเกิดอารมณ์เดือเป็นอย่างมาก โดยพวกเขาบอกว่าผู้ตัดสิน ปล้นชัยชนะของพวกเขา เพราะ กรรมการเป่าเข้าข้ามเจ้าภาพเกาหลีใต้ตลอดตั้งแต่ต้นจนจบเกม คริสเตียน วิเอรี่ ทำประตูให้อิตาลีนำ 1-0และทำท่าจะคว้าชัย ชนะผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ แต่ก่อนหมดเวลา 2 นาที โซล คี ยอง ช็อคโลกด้วยการตีเสมอเป็น 1-1 ต้องต่อ เวลาพิเศษหาผู้ชนะเป็นหนังชีวิตของฟุตบอลโลก ก่อนจะพ่ายไป 2-1 จากโกลเด้นโกลของ อาน จุง ฮวาน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ปฏิกริยาจาก ทางด้าน ลูชาโน่ กาอุชชี่ ประธานสโมสรเปรูจา ถึงกับออกมาไล่ อาน จุง ฮวาน ออกจากสโมสรโทษฐานที่เป็นผู้ยิงประตูชัย โดยเขาได้ออกมาสัมภาษณ์ว่า”ผมไม่อยากจ่ายเงินเดือนให้กับคนทำให้อิตาลี เจ๊ง(ว่ะ)” และจากนั้นเราก็ไม่ได้เห็นผู้เล่นที่เป็นคนเกาหลีใต้ในสโมสรอิตาลีอีกเลย
อันดับ 7 David Beckham
มันกลายเป็นแมกซ์คลาสสิก ในบอลโลก และความทรงจำอันเลวร้ายของเทพบุตรลูกหนังเดวิด แบ็คแฮมในนัดอาร์เจนตินา 1-1 อังกฤษ,รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 1998 ในตอนนั้นนั้น แบ็คแฮมกลายเป็นฮีโร่ของคนทั่วโลกที่เล่นโดดเด่นในฟุตบอลโลกครั้งนี้ แต่แล้วเกมที่เป็นตราบาปก็มาถึง ในนัด 16 ทีม 16 ทีมสุดท้าย ที่อังกฤษเจออาร์เจนติน่า ในช่วงที่ทีมสิงโตคำรามสกอร์ยังเสมอ อาร์เจนตินา 1-1 ปรากฎว่าอดีตดาวดังแมนฯยูไนเต็ดดันตบะแตกไปเตะเอาคืน ดีเอโก ซิเมโอเน่ ดาวเตะฟ้าขาวดีดตัวพุ่งล้ม ทั้งๆ ที่ตอนนั้นแบ็คแฮมนอนราบกับพื้นแท้ๆ ทำให้ผู้ตัดสินไม่ลังเลที่จะชักใบแดงไล่แบ็คแฮมออกออก ทำให้อังกฤษต้องเหลือ 10 คนแต่ยังเยื้อไปจนกระทั่งต่อเวลาก่อนดวงแตก ปราชัยด้วยการดวลจุดโทษ คนที่ตกเป็นแพะรับบาปต้องรับผิดชอบก็คือ เบ็คแฮม กลายเป็นซาตานในร่างเทพบุตรทันที
อันดับ 6 Ronaldo – What a Winker
มันเป็นแม็กซ์ดราม่าของ ซุปเปอร์สตาร์ในยุคนี้โคจรกันระหว่าง เวยน์ รูนีย์ของอังกฤษ กับ โรนัลโด้ของโปรตุเกสในศึกฟุตบอลโลก 2006 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ตอนนั้นรูนีย์ได้รับอาการบาดเจ็บพึ่งมีโอกาสลงเล่นได้ ซึ่งเขาลงสนามพร้อมอารมณ์ปูดๆ ในตอนนั้นอังกฤษเสมอ 0-0 ในช่วงครึ่งหลังรีนีย์ดันไป ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ กองหลังทีมชาติโปรตุเกส และโรนัลโด้ ที่ตอนนั้นเป็นผู้เล่นของแมนฯ ยูไนเต็ด พยายามเข้าไปกดดันผู้ตัดสิน ส่งผลทำให้ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่รูนีย์ออกจากสนาม มีส่วนทำให้อังกฤษต้องเล่นผู้เล่นเพียง 10 คนในสนาม และอังกฤษแพ้จากการดวลจุดโทษ หลังจากเกมในนัดนี้ทำให้สื่อในอังกฤษกดดันและต่อว่า โรนัลโดยังอย่างหนัก แต่กระนั้นมันก็กลายทำให้โรนัลโดระเบิดฟอร์มยอดเยี่ยมในการแข่งขันกับแมน เชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยกวาดรางวัล 3 แชมป์ และได้รับรางวัลส่วนตัวมากมาย จนกระทั้งย้ายไปอยู่เรอัลมาดริดด้วยเงินค่าตัวเป็นสถิตโลกในเวลาต่อมา
อันดับ 5 Card Counting with Graham Poll
"เกรแฮม โพลล์" อดีตกรรมการชาวอังกฤษคน เดียวในการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2006 ที่มีฝีมือดีในอังกฤษ ได้สร้าง
ชื่อเสียงอัน "ไม่" ยิ่งใหญ่ของตนเองในฟุตบอลโลก 2006 ในฐานะกรรมการที่แจกใบเหลือง 3 ใบให้นักเตะคนเดิมในเกมเดียว(และนักแตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ ได้ใบเหลือง 3 ใบในเกมเดียว โดยเขาได้ แจกใบเหลืองให้กับ โยซิป ซิมูนิช ปราการหลังทีม "ตาหมากรุก" ถึง 3 ใบก่อนจะชูใบแดง หลังจบเกมที่ ออสเตรเลีย เสมอกับ โครเอเชีย 2-2
โดยแจกใบเหลืองแรกให้กับ ซิมูนิช ในนาที 62 จากนั้นเขาก็ไล่ ดาริโอ ซิมิช นักเตะของ โครเอเชีย และ เบร็ทท์ เอเมอร์ตัน สตาร์ดังของ ออสเตรเลีย ออกจากสนามในช่วง 10 นาทีสุดท้าย และพอเข้านาทีสุดท้าย โพลล์ ได้แจกใบเหลืองให้ ซิมูนิช อีกครั้งจากการฟาวล์น่าเกลียด แต่เขากลับไม่ชูใบแดงไล่ ซิมูนิช ออกจากสนาม ซึ่งคาดว่า โพลล์ คงจำไม่ได้ว่า เขาได้แจกใบเหลืองให้ ซิมูนิช ไปแล้ว จากนั้น 3 นาทีให้หลัง โพลล์ เป่านกหวีดจบเกมซึ่ง ออสเตรเลีย เข้ารอบตาม บราซิล ปรากฎว่า ซิมูนิช ได้เดินเข้าไปคุยกับ ผู้ตัดสินชาวเมืองผู้ดี ที่กำลังดูไม่สบอารมณ์ ก่อนที่เขาจะใช้มือข้างหนึ่งผลักนักเตะออกไป และจัดการแจกใบเหลืองให้เขาเป็นครั้งที่ 3 และครั้ง นี้ โพลล์ ให้ใบแดงด้วย(นักแตะก็หน้าด้านหน้าทนอยู่สนานเหลือเกิน) และความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ส่งผลทำให้ โพลล์ หมดสิทธิ์ลงทำหน้าที่ตัดสินในศึกเยอรมัน 2006 ในเวลาต่อมา และชื่อของเขาถูกจดจำในฐานะกรรมการที่ตัดสินผิดพลาด
อันดับ 4 Ronaldo’s Mystery Affliction
ในนัดชิงชนะเลิศระหว่าง บราซิลกับฝรั่งเศสเจ้าภาพ หลายคนหวังจะเห็นโรนัลโด้(อ้วน)ซึ่งเป็นซุปเปอร์สตาร์ในสมัยนั้นโชว์เทพบ้าง อีกทั้งในรอบที่ผ่านมาโรนัลโด้โชว์ฟอร์มเก่งตลอดทั้งยิงทั้งจ่ายกะหน่ำประตู นับไม่ถ้วน นอกจากนี้บราซิล แชมป์โลกปี 1994 มาในฐานะแชมป์เก่า ที่เป็นตัวเต็งจ๋าพร้อมกับคนอื่นๆ ในทีมที่เก่งเทพพอกัน แต่แล้วพอถึงเวลานัดชิงชนะเลิศกับฝรั่งเศสจริงๆ ทีมชาติบราซิลทั้งทีมต่างเล่นไม่ออก โดยเฉพาะโรนัลโดเขาเล่นได้อย่างน่าเบื่อ, เหนื่อยง่าย และโดนบอลน้อยมาก โดยนักแตะที่เล่นโดดเด่นในเกมส์นี้กลับกลายเป็นซีเนดีน ซีดาน นักแตะทีมชาติฝรั่งเศสนั่นเอง เขาโหม่งทำประตูสองประตูแรกจากลูกเตะมุม และปิดท้ายด้วย เอมานูเอล เปตีต์ กองกลางยิงไกลปิดท้ายให้ฝรั่งเศสถล่มบราซิลไปแบบหมดรูป 3-0 คว้าแชมป์โลกครั้งแรกฝรั่งเศส ซึ่งหลังจากจบเกมส์โรนัลโดออกมาให้สำภาษณ์ว่าเขาไม่ฟิตต้องใช้ไฟฟ้ากระตุ้น เพื่อให้ลงเล่นได้ แต่หลายคนออกมาลงความเห็นว่าอาจเป็นการล้มบอลเพื่อให้ฝรั่งเศสได้แชมป์
3. Rivaldo’s Theatrics
หากจะ ยกรางวัลตุ๊กตาทองให้ใครสักคนในบอลโลกล่ะก็ ต้องให้ริวัลโด้ นักแสดงที่แสดงได้สมบทบาท ในแม็กซ์บราซิลชนะตุรกี 1-0 ในนัดแรกของบอลโลก(32 ทีมสุดท้าย) ริวัล โด้ที่กำลังจะแตะมุม ได้หลอกลวงผู้ตัดสิน คิม ยุง-จู ชาวเกาหลีใต้ โดยเขาไปยั่ว ฮาคาน อุนซาล ดาวเตะตุรกีโกรธ จนเขาเตะบอลมาตรงหตัวริวัลโด้ หากดูภาพช้าๆ จะพบว่าบอลโดนที่เข่าเบาๆ เท่านั้น แต่ดันริวัลโด้ดันไปนอนดีดดิ้น อย่างกับปลาถูกทุบจนออกเวอร์เกินขนาด จนนักแตะตุกรีคนนั้นโดนใบเหลืองที่สองตะเพิดออกจาก สนาม มันเป็นหนึ่งในชอตซึ่งคอลูกหนังทั่ว โลกจดจำได้ดี เพราะแสดงถึงความไร้สปิริตของนักเตะสักคนหนึ่งอย่างสิ้นเชิงและสมบูรณ์แบบแม้สุดท้ายบราซิลจะชนะตุรกีและได้ แชมป์บอลโลกในตอนท้าย แต่หลังจากนั้นเขาประสบปัญหาฟอร์มตก และย้ายจากมิลานไปเล่นให้สโมสรฟุตบอลเฟเนอร์บาห์นเซในตุรกีได้หนึ่งปี กลับไปเล่นให้สโมสรฟุตบอลครูไซโรในบราซิลเป็นระยะเวลาสั้นๆ และมาอยู่กับสโมสรฟุตบอลโอลิมเปียกอสในประเทศกรีซจนถึงปัจจุบัน
http://www.youtube.com/watch?v=UgfRCa71Kmw&feature=player_embedded
2. Keane Abandons Ireland
รอยคีนทิ้งทีมชาติไอร์แลนด์ ถือว่าเป็นเหตุการณ์ช็อกโลก เราะว่าที่ผ่านๆ มา รอยคีนเป็นแกนหลักของทีมชาตินี้ตลอด และมีส่วนทำให้ไอร์แลนด์เข้าเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2002 รอบสุด ท้ายได้สำเร็จ โดยอยู่ในกลุ่มเดียวกับ โปรตุเกส และ ฮอลแลนด์ หาก แต่เขาได้มีปัญหากับผู้จัดการทีมชาติ มิค แม็คคาธี่ย์ ทำให้ต้องถูกส่งตัวกลับประเทศและไม่สามารถลงเล่นช่วยทีมชาติได้ในขณะนั้น สื่อต่างก็ประโคมข่าวกันมากมาย ว่าเกิดอะไรขึ้น และทำนายกันว่าจะเกิดอะไรตามมา โดยหลังจากนั้นไม่กี่เดือน รอย คีน ก็ออกมาประกาศเลิกเล่นให้กับทีมชาติไอร์แลนด์ ในที่สุด โดยเขาบอกว่าสาเหตุที่ทะเลาะกับผู้จัดการทีมนั้น รู้สึกว่าทีมไม่มีโอกาสในการเข้ารอบต่อไปเพราะคุณภาพของเครื่องอำนวยความ สะดวกและการเตรียมความพร้อมของทีมไม่ดีพอ รอย คีน จึงเอาเรื่องนี้ไปพูด ผู้จัดการทีมพร้อมกับเพื่อนร่วมทีม แต่กลายเป็นว่าเขาได้ตั๋วกลับบ้านก่อนแข่งบอลโลกซะงั้น ส่วนทีมชาติไอร์แลนด์เมื่อไม่มีคีนอยู่ปรากฏว่าทำผลงานหยุดลงในรอบ 18 ทีมสุดท้ายและจากนั้นเป็นต้นมาทีมชาติไอร์แลนด์ก็ไม่เคยได้ไปเล่นบอลโลกอีก เลย
1. Zidane’s Moment of Madness
เกมส์ นี้ถือว่าเป็นตราบาปของผู้เล่นระดับโลกอย่าง ซีเนดีน ซีดาน ที่ได้ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ พร้อมกับเกิดคดี ซีซู โหม่งนักเตะกองหลังของอิตาลี มาร์โก มาเตรัซซี เข้าอย่างแรงจนล้มทั้งยืน และถูกกรรมการแจกใบแดงให้ออกจากสนาม ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2006 ที่ฝรั่งเศส พ่ายการดวลลูกจุดโทษต่ออิตาลี 3-5
ซีดาน ให้สัมภาษณ์ว่า เขาขอโทษต่อการกระทำดังกล่าว ซึ่งเป็นตัวอย่างไม่ดีกับคนกว่า 3 พันล้านคน รวมไปถึงเด็กๆ นับล้าน โดยเขาบอกถึงสาเหตุที่เขากระทำแบบนี้เพราะ มาเตราสซี ได้กล่าวถ้อยคำที่รุนแรงดูถูกแม่ และน้องสาวของเขาอย่างไรก็ตาม ซีดานไม่ได้เปิดเผยอย่างชัดเจนว่าคำพูดดังกล่าวคืออะไร แต่นักอ่านฝีปากได้แปลว่า เตราชซีด่าแม่และน้องสาวของเขาว่า “เป็นหญิงขายตัว”
การถูกใบแดงไล่ ออกจากสนาม ในการแข่งขัดนัดสุดท้ายของอาชีพพ่อค้าแข้งครั้งนี้ ยังทำให้ ซีดาน ถูกคณะกรรมการของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ตรวจสอบ เนื่องจากถือว่าเข้าข่ายทำร้ายคู่ต่อสู้ และอาจทำให้ถูกริบตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของฟุตบอลโลก 2006 พร้อมกับยึดลูกบอลทองคำคืนด้วย และนี้คือการปิดฉากที่ไม่สวยเสียเลยกับนักแตะบอลโลกอย่าง “ซีดาน”
จัดอันดับที่ http://listverse.com/2010/06/16/10-controversies-from-recent-world-cups/