read:http://www.wtfintheworld.com/2017/09/24/2-mysteries/
เราคงเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ “มนุษย์ต่างดาว” กันมาพอสมควร บ้างก็ว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตผู้ทรงภูมิปัญญา มียานอวกาศที่ทันสมัย อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามากๆ จนมนุษย์ไม่สามารถจินตนาการได้ถึงเลยทีเดียว
สำหรับวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 2 เรื่องลึกลับที่อาจจะเกี่ยวกับ “มนุษย์ต่างดาว” ก็เป็นได้ เพราะว่ามนุษย์โลกอย่างเราไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปอ่านกันเลย
#1 ดวงตาแห่งซาฮาร่า (Richat Structure)
สถานที่แห่งนี้ถูกถ่ายได้โดยดาวเทียมแลนด์เซท 7 ภารกิจโคจรรอบโลกขององค์การนาซ่า มันตั้งอยู่ในเขตทะเลทรายซาฮาราที่อยู่ในอาณาเขตของประเทศมอริเตเนีย (Mauritania) ในทวีปแอฟริกา
มันมีลักษณะคล้ายหลุมที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 40 กิโลเมตร โดยมีวงแหวนที่เป็นก้อนหินที่เหมือนถูกสร้างขึ้นมีระยะห่างเท่าๆ กันเกิดขึ้นอยู่ภายในพื้นที่วงกลมแห่งนี้ เมื่อมองจากยานอวกาศลงมาจะมีรูปร่างคล้ายกับดวงตาสีฟ้า
ทีแรกมันถูกสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่และภูเขาไฟ แต่เมื่อไปตรวจสอบกลับไม่ใช่ทั้งคู่ จากการตรวจสอบน่าจะมีอายุระหว่าง 90-100 ล้านปีก่อน
ทำให้นักธรณีวิทยาต่างพากันตั้งคำถามเกี่ยวกับเจ้าสิ่งนี้ และเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เกิดจากการกัดเซาะของลมและน้ำที่ทำให้มันกลายสภาพเป็นอย่างที่เห็น แต่ที่แปลกคือทำไมมันถึงเป็นวงกลมได้ก็ยังไม่มีใครสามารถหาคำตอบสำหรับรูปทรงนี้ได้
นักทฤษฎีบางคนเชื่อว่านี้อาจเป็นร่องรอยของ “เมืองที่สาบสูญของแอตแลนติส” ซึ่งมาจากหนังสือของเพลโต ที่อธิบายว่าเกาะลึกลับแห่งแอตแลนติสมีรูปแบบวงกลมซ้อนกันอยู่
โดยแบ่งเป็นทางของน้ำ 3 วง ดิน 2 วง ที่ล้อมรอบด้วยหินที่คล้ายกับภูเขา ก่อนจะสลายและยุบตัวจนกลายเป็นพื้นที่แห่งนี้ และมีหลักฐานว่าเมื่อราว 40,000 ปีก่อนทะเลทรายแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของทะเลสาบขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตามไม่มีใครฟันธงได้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร บางคนเชื่อว่าอาจเป็นฝีมือของมนุษย์ต่างดาว มนุษย์โบราณ หรืออาจเกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่มันได้กลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่บอกนักบินอวกาศให้ได้รู้ว่า “หากเห็นดวงตาสีฟ้าที่พื้นโลกนี่คือพื้นที่ของแอฟริกา” นั่นเอง
#2 แสงเฮสดาเลน (Hessdalen Lights)
นี่คือเรื่องราวของปรากฏการณ์แสงไฟประหลาดที่แม้แต่วิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า เกิดขึ้นเพราะอะไร และเหตุใดจึงปรากฏให้เห็นเฉพาะสถานที่แห่งนี้เท่านั้น หรือที่แห่งนี้จะมีอะไรบางอย่างที่สามารถสื่อสารกับสิ่งที่มาจาก ‘นอกโลก’ ก็เป็นได้
‘แสงเฮสดาเลน’ (Hessdalen Lights) คือชื่อของแสงไฟประหลาดที่เกิดขึ้นบริเวณเหนือน่านฟ้าของหุบเขาเล็กๆ ในหมู่บ้านเฮสดาเลน ประเทศนอร์เวย์ โดยปรากฏการณ์แสงไฟลึกลับนี้ มีลักษณะเป็นลำแสงขนาดใหญ่บ้าง เล็กบ้าง มีทั้งแสงสีขาว สีเหลือง และสีแดง ส่องสว่างไปทั่วทั้งท้องฟ้า
บางครั้งก็ปรากฏเป็นลูกไฟสีขาว ลอยไปลอยมาหรือบางครั้งก็เคลื่อนที่พุ่งไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นแล้วยังมีการรายงานอีกว่า มีผู้พบเห็นวัตถุลึกลับบางอย่างที่มาพร้อมกับแสงเฮสดาเลน ซึ่งทำให้หลายคนเชื่อว่า สิ่งที่มาพร้อมกับแสงนั้นน่าจะเป็นยานอวกาศของ ‘มนุษย์ต่างดาว’ นั่นเอง
จากข้อมูลรายงานการพบเห็นไม่ปรากฏแน่ชัดว่ามีผู้พบเห็นแสงไฟประหลาดนี้ครั้งแรกเมื่อใด แต่ทว่าในช่วงปี ค.ศ. 1980-1984 มีรายงานการพบเห็นแสงเฮสดาเลนบ่อยมาก ว่ากันว่าแสงจะปรากฎให้เห็นประมาณ 15-20 ครั้งต่อสัปดาห์เลยทีเดียว ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้คนจำนวนมากจากทั่วทุกสารทิศต่างหลั่งไหลกันไปชมปรากฏการณ์ที่ว่าด้วยตาของตัวเอง
ในปี ค.ศ. 1983 มีการจัดตั้ง ‘โครงการเฮสดาเลน’ (Project Hessdalen) โดยองค์กรวิจัยยานอวกาศแห่งนอร์เวย์ (UFO-Norge) และองค์กรวิจัยยานอวกาศแห่งสวีเดน (UFO-Sweden) เพื่อทำหน้าที่ศึกษาค้นคว้าหาที่มาที่ไปของปรากฏการณ์แสงประหลาดที่เกิดขึ้น
แต่ทว่ายังไม่สามารถให้คำตอบที่แน่ชัดได้ว่า แสงเหล่านี้เกิดจากอะไรกันแน่! ในบางงานวิจัยบอกว่า แสงนี้เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของก๊าซไฮโดรเจน ก๊าซออกซิเจน และโซเดียมในชั้นบรรยากาศที่มีความไวต่อแสง
หรือไม่ก็เกิดการรั่วไหลของแก๊สปริศนาในชั้นบรรยากาศโลก แต่นี่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐานเท่านั้น อย่างไรก็ตามจวบจนปัจจุบันก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ออกมา
และในรายงานการพบเห็นแสงไฟจากอดีตจนถึงปัจจุบันกลับพบว่า ความถี่ในการเกิดแสงเฮสดาเลนลดจำนวนลงเรื่อยๆ จนตอนนี้แทบจะไม่ปรากฏให้เห็นอีกต่อไปแล้ว แสงเฮสดาเลนถือเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ลึกลับที่เต็มไปด้วยปริศนาและน่าค้นหาเสียจริง
ที่มา https://www.spokedark.tv/