9 เรื่องราวแวมไพร์ในตำนาน ที่กลายเป็นหัวใจสำคัญของตรรกะหนังดูดเลือด!!

read:http://www.wtfintheworld.com/2017/02/06/9-legend-of-vampire/

เรื่องราวของ ‘แวมไพร์’ อยู่คู่มนุษยชาติมาช้านาน และในยุคหลังมานี้หนังแนว ‘แวมไพร์’ อาทิ Twilight ก็ดูจะฮิต พร้อมกับทำให้สาวทั่วโลกกรี๊ดกันใหญ่ ก็พระเอกเค้าหล่อจริงนี่นะ

แต่ย้อนกลับไปในอดีตกาล ‘ตำนานแวมไพร์’ ไม่ใช่เรื่องที่สาวคนไหนอยากกรี๊ดด้วย ซ้ำร้ายมันยังเป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวมาก แน่นอนว่าคนในยุคเราก็คงมองมันเป็นแค่ ‘ตำนานสนุกๆ’ แต่อย่าลืมว่าคนในยุคก่อนโน้นมีกรอบความรู้ไม่กว้างขวางเท่าปัจจุบัน

พวกเค้าไม่ได้มีความเข้าใจเชิงการแพทย์สูงส่ง หรือมีวิทยาศาสตร์ที่ก้าวไกล และด้วยความรู้อันจำกัดก็ผลักดันให้พวกเขามีมุมมองต่อ ‘เรื่องผีดูดเลือด’ ในแบบเหนือธรรมชาติและเชื่อว่ามันมีอยู่จริง…แวมไพร์ในตำนานมีใครบ้าง มาดูกัน

#1 ตำนานแวมไพร์แห่งอียิปต์ (Ka)

ความเชื่อในอียิปต์เชื่อว่า Sekhmet ชอบดื่มเลือดมาก และจากหนังสือ Egyptian Book of the Dead บางตอนกล่าวไว้ว่า วิญญาณ Ka ถ้าไม่ได้รับของถวายอย่างเหมาะสมแล้วละก็มันจะออกจากหลุมเพื่อไปตามหาเลือด สดดื่มเอง

#2 แวมไพร์หญิงสยองแห่งฮังการี

Elizabeth Bathory ภรรยาขุนนางท่านหนึ่งในฮังการี ถูกกล่าวหาว่าเป็นแวมไพร์ เพราะเธอชอบกัดเนื้อของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายและอาบน้ำเลือดของพวกเขาเพื่อความงามของตัวเอง

#3 แวมไพร์จอมกระโดดแห่งจีน

ในจีนผีดูเลือด ใช้ชื่อเรียกว่า Ch’iang Shih จะมีกรงเล็บยาวตาสีแดง หรือที่เราคุ้นเคยกันในหนังจะเห็นว่ามันเป็นผีที่ชอบกระโดด

#4 ตำนานแดรกคูลาผู้ถูกกล่าวขานว่าเป็นบุตรแห่งมังกร

วลาดแห่งวาลาเคีย หรือที่เรารู้จักว่าวลาดจอมเสียบ ว่ากันว่าพระองค์ทรงโหดร้ายป่าเถื่อนผิดมนุษย์ เวลาฆ่าศัตรูเสร็จ บางครั้งพระองค์จะเสวยขนมปังที่จุ่มด้วยเลือดศัตรู โดยวลาดจอมเสียบเป็นหนึ่งในตำนานแวมไพร์ที๋โด่งดังที่สุดก็ว่าได้ และเป็นแรงบันดาลใจที่เชื่อมโยงมายัง ‘แดรกคูลา’

#5 ตำนาน Ekimmu

จากตำนานของชาวสุเมเรียนและชาวบาบิโลเนีย ก่อนคริสตศักราช 4000 กล่าวว่า Ekimmu คือผีที่ถ้าหากฝังแบบไม่ถูกต้อง มันจะฟื้นขึ้นมาดูดเลือดสิ่งมีชีวิต

#6 ตำนานการคืนชีพ

ความเชื่อของชาว ยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือ จะต้องวางหินที่เรียกว่า dolmens ไว้บนหลุมศพ เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ตายฟื้นคืนชีพ

#7 โรคระบาดแวมไพร์ ช่วงเวลาสยองที่พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปหลายคน

ในช่วงศตวรรษที่ 16 เชื่อว่าแวมไพร์ออกจากร่างเหยื่อที่มีโรคระบาด และคนที่แพร่เชื้อนี้ก็ถูกกล่าวหาว่าต้องเป็น ผู้หญิง ดังนั้น เวลามีใครต้องสงสัยว่าเป็นแวมไพร์ พวกเขาก็จะถูกฝังแล้วเอาหินยัดลงไปในปาก

#8 เหล่าแวมไพร์ที่สิงอยู่ในโลง

สมัยก่อนชอบมีโจรขโมยโลง เมื่อโจรเหล่านั้นเปิดฝาโลงออก เจอศพกระดุกกระดิกได้อาจจะเป็นเพราะปฏิกิริยาบางอย่าง โจรพวกนี้เห็นแล้วก็กลัวเลยเกิด เรื่องราวแพร่กระจายไปว่า แวมไพร์ชอบอาศัยในโลง (บางทีนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนทำหนัง เริ่มสร้างภาพลักษณ์ว่า แวมไพร์ต้องอยู่ในโลง)

#9 มองเรื่องราวแวมไพร์ในเชิงการแพทย์

ทางการแพทย์ได้สันนิษฐานว่า มันน่าจะมีโรคที่คล้ายกับ อาการผีดูดเลือด ยกตัวอย่างเช่น haematodipsia เป็นโรคกระหายเลือด hemeralopia เป็นอาการไม่สามารถมองเห็นตอนกลางวัน และ Porphyria อาการไวต่อแสงและฟันเปลี่ยนสี

นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่น่าสนใจคือกรณีศึกษาของศาสตร์จารย์เดวิด ดอลฟิน ในปี ปี ค.ศ.1982 ได้ชี้ว่าตำนานแดร็กคิวลาแท้จริงแล้วเป็นภาวะป่วยโรคเลือดโดยกำเนิด เนื่องจากเกิดความบกพร่องในเซลเม็ดเลือดและขาดธาตุเหล็ก อีกทั้งผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีร่างกายอ่อนแอ แพ้แสงแดดอย่างรุนแรงถึงขั้นปวดแสบปวดร้อนและมีการเปลี่ยนแปลงทางผิวหนัง เพื่อเลี่ยงอาการเหล่านี้คนเหล่านั้นจึงมักปรากฏกายในยามค่ำคืน

ที่ล้ำลึกกว่านั้นคือโรคนี้ยังส่งผลให้เหงือกของผู้ป่วยหดรัดตัวเข้าไปและมีฟันยืนออกมา ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคนี้จึงมีรูปร่างลักษณะและอุปนิสัยคล้ายผีดูดเลือด ซ้ำร้ายพวกเค้ายังกลัวกระเทียมเป็นที่สุด เนื่องจากมันมีฤทธิ์เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการทำลายเม็ดเลือด กล่าวคือนี่ล่ะคือ ‘โรคแดร็กคิวล่า’ และผู้ป่วยโรคนี้ไม่ถูกกับกระเทียมอย่างแรง!!

ที่มา https://www.vampires.com/is-egypt-the-birthplace-of-vampires/

Credit: https://www.vampires.com/is-egypt-the-birthplace-of-vampires/
18 ก.ย. 60 เวลา 03:52 2,507 10
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...