http://strangesounds.org/2014/11/kindlifresserbrunnen-the-terrifying-child-eater-of-bern-mystery.html
คราวนี้เราจะขอบินลัดฟ้าพากัญชี้ (ห้ามผวนนะ!!) ไปที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ซึ่งมีเรื่องราวของตำนานยักษ์กินเด็ก ‘Kindlifresser’ (Children Eater) สุดหลอนราวกับว่ายักษ์กินคนนั้นมีอยู่จริง รูปปั้น ‘คนกินเด็ก’ ดังกล่าว นับว่าเป็นหนึ่งในประติมากรรมที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดแห่งสวิตเซอร์แลนด์ เพราะมันถูกสร้างมาตั้งแต่ปี 1546 แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีใครรู้ว่า.. เรื่องราวที่แท้จริงของรูปปั้นตนนี้คืออะไรกันแน่!?
รูปปั้นตั้งอยู่ใจกลางเมือง Bern และไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ความหลอนแบบยุคกลาง ก็ยังปรากฎให้เห็นอยู่ตลอด
ถึงเราจะไม่ทราบตำนานที่แท้จริง แต่ก็มีทฤษฏีสมคบคิด 4 ข้อหลักๆ ดังนี้…
ทฤษฏีแรกและดูเป็นทฤษฏีที่ไม่น่าเชื่อถือมากที่สุด ได้ให้เหตุผลว่า รูปปั้นดังกล่าวถูกสร้างขึ้นมาเพื่อข่มขวัญชาวยิวที่อาศัยอยู่ในเมือง และสังเกตได้จากหมวกของรูปปั้น ที่เดิมทีเป็นรูปทรงหมวกที่ชาวยิวนิยมใส่กันในยุคนั้น
ทฤษฎีที่สองที่ดูเหมือนจะออกทะเลอยู่หน่อยๆ ได้อธิบายไว้ว่า ยักษ์กินเด็กที่ปรากฎอยู่เป็นภาพตัวแทนของยักษ์ ‘Kronos’ ตามตำนานกรีก ซึ่ง Kronos ก็เป็นยักษ์ที่ชอบกินเด็กเป็นชีวิตจิตใจนั่นแหละ
ทฤษฎีที่สามดูมีความน่าเชื่อถือขึ้นมาหน่อย เมื่อผู้เฒ่าผู้แก่ประจำเมืองเล่าต่อกันมาว่า รูปปั้นดังกล่าวเป็นภาพของ Duke Berchtold หนึ่งในผู้ก่อตั้งเมือง Bern ทว่าด้วยความที่ถูกเมินเฉยจากพี่ชาย ทำให้จู่ๆ เขาก็กลายเป็นบ้าและเริ่มจับเด็กในเมืองมากิน
ทฤษฎีสุดท้าย ผู้คนเชื่อว่าเรื่องราวของ ‘ยักษ์กินเด็ก’ เป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นจากผู้หลักใหญ่ในสมัยก่อน เพื่อนำมาใช้เป็นกุศโลบายในการหลอกเด็กให้ไม่ทำตัวดื้อซน กระทั่งต่อมาในช่วงสงคราม 30 ปี ความหมายของรูปปั้นนี้ก็เปลี่ยนไป เมื่อผู้คนเริ่มไม่มีอันจะกิน บ้านเมืองตกอยู่ในสภาวะอดอยาก และผู้คนต้องออกมาดิ้นรนเอาชีวิตรอดถึงขนาดที่ต้องกินหมากินแมว รวมไปถึงการกินเนื้อมนุษย์กันเองด้วย…
แม้เราจะไม่ทราบความจริงที่แน่ชัด แต่อย่างน้อยกุศโลบายที่ผู้ใหญ่เอามาใช้กับเด็กๆ ก็ดูเหมือนจะได้ผลมานานถึง 500 ปี เชียวล่ะ
ที่มา http://strangesounds.org/2014/11/kindlifresserbrunnen-the-terrifying-child-eater-of-bern-mystery.html