read:http://www.wtfintheworld.com/2017/09/07/james-patrick-bulger/
ปัจจุบันนี้อังกฤษได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความเจริญเรื่องกล้องรักษาความปลอดภัยมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ ในปี 2002 ลอนดอนมีกล้องรักษาความปลอดภัยติดตั้งอยู่ถึงสี่หมื่นตัวเลยทีเดียว
กล่าวกันว่าการติดตั้งกล้อง 49 ตัวที่ถนนบอนมาสเมื่อปี 1985 เป็นการเริ่มต้นของจำนวนกล้องอันมหาศาลนี้ แต่สิ่งที่กลายมาเป็นแรงผลักดันเพิ่มจำนวนกล้องในประเทศอังกฤษนั้นคือการตายของเด็กคนหนึ่งที่ชื่อ “เจมส์ บัลเกอร์” เขามีอายุเพียง 2 ปี 11 เดือนในตอนที่เขาถูกกระทำให้หายจากโลกนี้ไป สั้นจนน่าใจหาย และน่าใจหายยิ่งขึ้นเมื่อรู้ถึงรูปคดีทั้งหมด
“เจมส์ บัลเกอร์” James Patrick Bulger
เจมส์เป็นลูกคนที่สองของเดนิส บัลเกอร์ เธอเสียลูกคนแรกไประหว่างการตั้งครรภ์จึงรักลูกชายคนนี้สุดหัวใจ เจมส์กำลังจะอายุครบ 3 ขวบในเดือนหน้านี้แล้ว
12 กุมภาพันธ์ ปี 1993 คุณแม่พา “เจมส์ บัลเกอร์” ไปซื้อของที่ห้างแห่งหนึ่งในเมืองลิเวอร์พูล เดนิสเข้าไปในร้านขายเนื้อแล้วปล่อยให้เจมส์เล่นอยู่หน้าบู้ทขายบุหรี่เพียงไม่กี่นาที ก่อนจะออกมาและพบว่าเจมส์หายตัวไปแล้ว
เดนิสแจ้งทางห้างให้ประกาศหาก่อนจะแจ้งตำรวจ คดีของเจมส์ถูกแจ้งความเป็นคดีเด็กหายในเย็นวันนั้นและลงข่าวในหนังสือพิมพ์ฉบับเย็น ทางห้างได้มีการตรวจวีดีโอบันทึกภาพจากกล้องรักษาความปลอดภัยและในที่สุดก็พบเจมส์อยู่ในวีดีโอพร้อมกับเด็กชายแปลกหน้า 2 คน
ในภาพ คุณจะเห็นเด็กเล็ก (เจมส์) ถูกจูงมือโดยเด็กชายวัยประมาณ 10 ปีคนหนึ่ง และยังมีเด็กชายรุ่นเดียวกันอีกคนหนึ่งเดินนำอยู่ข้างหน้า ทั้งสามดูเหมือนกับพี่น้องที่สนิทสนมกัน ไม่มีใครรู้เลยว่านี่จะเป็นภาพสุดท้ายที่บันทึกเจมส์ไว้ขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่
14 กุมภาพันธ์ ปี 1993 วันอาทิตย์อีก 2 วันให้หลังจากที่เจมส์หายไป เด็ก 4 คนพบศพของเจมส์บนรางรถไฟ ศพของเจมส์นั้นท่อนล่างเปลือยเปล่า การชันสูตรตรวจพบว่าคนร้ายฉีดสีสเปรย์ใส่ตาของเจมส์มีรอยพกช้ำจากการถูกทุบตีด้วยมือเท้า ท่อนเหล็ก และก้อนหินกว่า 42 แผลทั้งบนศีรษะและร่างกาย
กระโหลกศีรษะแตก ริมฝีปากฉีกขาดเป็นแนวยาวแต่นั่นก็ยังไม่ใช่สาเหตุการตายของเขาร่างของเขาขาดเป็นสองท่อนจากกลางลำตัวเนื่องจากถูกวางไว้บนรางรถไฟให้รถไฟทับในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่
จากรูปในวีดีโอและคำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ จอน เวนาเบิ้ล และโรเบิร์ต ทอมป์สันถูกจับในฐานะผู้ต้องสงสัย ในขณะเกิดคดีนี้ ทั้งสองมีอายุ 10 ปี
จอน (ซ้าย) และโรเบิร์ต (ขวา)
เด็กทั้งสองคนมีคดีขโมยของในร้านติดตัวอยู่แล้ว และต่างก็มาจากครอบครัวที่มีปัญหาและมีการรายงานว่ามีการใช้กำลังกับเด็กในทั้งสองครอบครัว
สอบปากคำ
จอนและโรเบิร์ตซึ่งถูกจับกุมต่างก็แกล้งทำเป็นร้องไห้โวยวาย ทำเป็นไม่รู้เรื่อง หรือบางทีก็ปิดปากเงียบโดยไม่มีการยอมรับความผิดของตัวเองทั้งสองกลับคำให้การซ้ำแล้วซ้ำอีก กระทั่งป้ายความผิดให้กับอีกฝ่าย จนกระทั่งเวลานี้ คดีก็ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่าคนต้นคิดและคนลงมือฆ่าเจมส์เป็นคนไหนในสองคนนี้กันแน่
จอน
โดยทั่วไปแล้วคดีที่มีคนร้ายเป็นผู้เยาว์จะถูกตัดสินโดยศาลครอบครัว และคนร้ายจะถูกปิดบังชื่อจริงและหน้าตาไว้ แต่ด้วยความโหดร้ายอย่างไร้สามัญสำนึกของคดีนี้ นอกจากทั้งสองจะถูกตัดสินด้วยศาลอาญาแล้ว ชื่อจริงและรูปของจอนกับโรเบิร์ตจึงถูกประกาศออกสู่สาธารณะ
โรเบิร์ต
ในเวลานั้นจึงมีการจับตาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกฏหมายอาญาของอังกฤษและเด็กคนร้ายทั้งสองจะได้รับโทษหนักกว่าคดีเยาวชนที่ผ่านมา (มีเสียงเรียกร้องให้ลงโทษประหารด้วย)
ท้ายที่สุด
เนื่องจากกฏหมายอังกฤษจำกัดความรับผิดชอบของผู้เยาว์ซึ่งมีอายุต่ำกว่า 10 ปีไว้เพียงระดับหนึ่ง เด็กทั้งสองจึงถูกสั่งจำคุก 8 ปี (มีการเปลี่ยนเป็น 15 ปีแต่ก็ลดกลับมาเท่าเดิมอีก) หลังจากปล่อยตัวแล้วทั้งสองจะได้รับชื่อใหม่ (เพราะชื่อจริงโดนออกข่าวไปแล้ว) และต้องไปรายงานตัวทุกอาทิตย์และห้ามเข้าใกล้ลิเวอร์พูลในรัศมี 50 กิโลเมตรจนตลอดชีวิต ทั้งสองถูกปล่อยตัวออกมาแล้วเมื่อปี 2001
คุณคิดว่าโทษนี้สมเหตุสมผลหรือไม่ แต่ลองมาฟังคำให้การเกี่ยวกับเหตุผลที่พวกเขาฆ่าเจมส์กันเถอะ
“I just want to do it” (ฉันก็แค่อยากจะทำ)
R.I.P .เจมส์
ที่มา http://ohx3.exteen.com/