รมต. ชุมพล ปลื้มกระแสบอลโลก 2010 เติมเชื้อไฟ เดินหน้าทำแผนปฏิบัติงานเป็นเจ้าภาพเวิลด์ คัพ ร่วมกับ "เสือเหลือง" มาเลเซีย หลัง ครม.ไฟเขียว เตรียมผุดสเตเดี้ยม 50,000 ที่นั่ง เล็ง 4 สนาม สมุทรปราการ, สุพรรณบุรี, ชลบุรี และศุภชลาศัย แบ่ง มาเลย์ 3 สนาม ดึง "บังยีร์"วรวีร์ มะ(กระผม)ดี บอร์ดฟีฟ่าคนเดียวของไทยหารือ 29 ก.ค. นี้ มี "บิ๊กเติ้ง" บรรหาร ศิลปอาชา นั่งหัวโต๊ะ แนะบอลไทย ต้องมีพัฒนาทั้งระบบ
หลังจากที่การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้จบลง โดยแฟนบอลชาวไทย ได้ติดตามการแข่งขันตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา พร้อมกระแสฟุตบอลโลกฟีเวอร์ในเมืองไทย ล่าสุด ชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยกับผู้สื่อข่าวสยามกีฬาว่า ไทยพร้อมที่จะจับมือกับประเทศมาเลเซีย เป็นเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในอนาคต
เกี่ยวกับเรื่องนี้ รมต.กีฬา กล่าวว่า ต้องยอมรับว่ากระแสฟุตบอลโลกอยู่ในความสนใจของคนไทยมาก เห็นได้จากการส่งไปรษณียบัตรร่วมลุ้นโชคของหน่วยงานต่างๆ ที่จัดขึ้น มีการตอบรับที่ดีมาก ทำให้ตนเริ่มที่จะกระตุ้นแนวคิดในการที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในหลักการ มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหัวเรือใหญ่ในการเตรียมแผนการเป็นเจ้าภาพเวิลด์ คัพ
หลังจากที่ "บังยี" วรวีร์ มะ(กระผม)ดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในฐานะบอร์ดบริหารสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) กลับมาถึงเมืองไทยวันที่ 29 ก.ค. นี้ ตนจะเชิญ "บังยี" มาร่วมหารือแผนงานเบื้องต้น โดยมี บรรหาร ศิลปอาชา ที่ปรึกษาบอร์ดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมเป็นที่ปรึกษาในโครงการนี้ด้วย
"มาเลเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ที่ไทยจะหารือเชิญเป็นเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก อย่างแรกที่ต้องทำคือการเร่งสร้างสนามฟุตบอล เพื่อรองรับอย่างน้อยต้อง 7 สนาม ในการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ไทยอาจจะเป็นเจ้าภาพ 4 สนาม และมาเลเซีย 3 สนาม
ทั้งนี้เป้าหมายอยู่ที่การสร้างสนามกีฬาของจังหวัด ที่ได้มีอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วก่อนหน้านี้ ได้แก่ 1. จ.สมุทรปราการ มูลค่า 1,400 กว่าล้านบาท อีก 4 สนาม ประกอบด้วย จ.สุพรรณบุรี, จ.ชลบุรี, สนามศุภชลาศัย และมีสนามราชมังคลากีฬาสถาน ที่อยู่ในข่ายพิจารณา ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุง โดยทุกสนาม จะต้องมีมาตรฐานจุคนดูได้ 50,000 ที่นั่งขึ้นไป ตามระเบียบของฟีฟ่า" รมต.ชุมพล กล่าวถึงแนวคิด
รัฐมนตรีกีฬากล่าวอีกว่า นอกจากเจ้าภาพฟุตบอลโลกแล้ว ยังมีกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งรัฐบาลเห็นด้วยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยจะมีการวางแผนระยะยาว และทุกอย่างเป็นเพียงแนวคิดเบื้องต้นเท่านั้น เนื่องจากต้องมีการหารือในแผนงานที่ชัดเจนก่อนลงมือปฏิบัติการ
ไม่เพียงแต่การเป็นเจ้าภาพเท่านั้น หากทีมชาติไทย จะมีส่วนร่วมในการแข่งขันฟุตบอลโลกอีกวิธี คือการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย โดยเฉพาะนักกีฬา ระบบทีม และผู้ฝึกสอน ตลอดจนการจัดการบริหารทีมให้เป็นมืออาชีพ มีการพัฒนาจากระบบรากหญ้ามาสู่ความยั่งยืน ตนคิดว่าอาจจะต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามประเมินผลการดำเนินงาน เพื่อวิเคราะห์ปัญหาอย่างใกล้ชิดอีกด้วย