read:http://www.wtfintheworld.com/2017/07/23/aron-ralston/
คงไม่มีใครคิดฝันว่า ชีวิตชายหนุ่มคนหนึ่งที่เลือกจะปฏิเสธการทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Intel แล้วเลือกเดินทางไปท่องเที่ยวตามความฝันของตัวเองโดยเฉพาะการปีนป่ายเขาไปทั่ว ก่อนจะได้พบเหตุการณ์ที่ทำให้เขาได้รับรู้บทเรียนราคาแพงที่ต้องจดจำไปตลอดชีวิต
อารอน รอลสตัน (Aron Ralston) เป็นหนุ่มไฮเปอร์หัวขบถที่ตัดสินใจเดินทางออกจากบ้านมุ่งหน้าไปปีนเขาด้วยความรู้สึกอยากจะผจญภัยอย่างเต็มเปี่ยม เขาเป็นเด็กที่เรียนดี และฉลาดจนแม้แต่บริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ยังต้องการตัวเขา
อารอน รอลสตัน (Aron Ralston)
เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มขึ้นที่นี่ และมันได้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล
ในวันที่ 26 เม.ย. ปี 2003 ระหว่างที่กำลังปีนเขา “บลูจอห์น” (Blue John Canyon) ในยูท่าห์เพียงลำพัง เขาเกิดพลัดตกลงไปในร่องของภูเขา แถมมือข้างหนึ่งยังไปติดอยู่ในซอกหินอีกด้วย
“บลูจอห์น” (Blue John Canyon)
มือของเขาติดอยู่กับซองหิน (ภาพจากภาพยนต์)
“ตอนแรกๆ ที่ติดอยู่ที่นั่น ผมตะโกนร้องขอความช่วยเหลือสุดเสียง ซึ่งถือว่าเป็นความผิดพลาดมหันต์ เพราะเสียงที่เปล่งออกไปนั้นถูกหุบเขาดูดกลืนไปจนหมด มันเปล่าประโยชน์” อารอนกล่าวต่อไปว่า “ผมเลยตัดสินใจเก็บเสียงไว้แล้วเก็บแรงทั้งหมดไว้หาทางออก น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า”
การตะโกนขอความช่วยเหลือไม่ได้ช่วยอะไร (ภาพจากภาพยนต์)
อารอนพยายามมองหาทางที่จะหนีไปจากที่นี่พร้อมกับพยายามจะเอามือออกจากซอกหินอันนี้ด้วยทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่สามารถเอาแขนออกมาได้ แถมยังรู้สึกเจ็บมากขึ้นอีกด้วย (จากวันแรกจนถึงตอนนี้เขาติดอยู่ที่นี่มาแล้ว 5 วัน) แถมเขายังไม่มีเครื่องชีพอื่นๆ เหลืออยู่อีกแล้ว
อาหารกำลังจะหมดลงและเขาต้องตัดสินใจบางอย่าง (ภาพจากภาพยนต์)
นั่นทำให้เขาต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ ได้ด้วยเหตุผลว่า เขาไม่อยากจะตายที่นี่ และอยากกลับไปหาครอบครัว เขาจึงตัดสินใจได้ว่า “ต้องตัดแขนขวาตัวเองที่ติดอยู่กับซอกหินทิ้ง” แน่นอน…เขากลัวกับการต้องทนกับความเจ็บปวดที่ไม่เคยต้องเจอมาก่อนในชีวิต
(ภาพจากภาพยนต์)
แต่เพราะ ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ เลย นอกเสียจากมีดทู่ๆ อันหนึ่งเท่านั้น แต่เขาก็ต้องทำแม้ว่ามันจะต้องทำให้เขาเจ็บเจียนตายเพียงใด เขาจะต้องทนให้ได้
(ภาพจากภาพยนต์)
เขาค่อยๆ บรรจงกรีดมีดทู่ๆ นั้นลงบนแขนโดยที่ไม่มียาชา ไม่มีอะไร เป็นการผ่าสดๆ ที่เขาบอกว่า อยากจะร้องไห้ออกมา หลายครั้งแล้วอยากจะหยุดลง ณ วินาทีนั้น แต่สุดท้ายเขาก็บอกตัวเองว่า สู้ต่อเพื่อให้มีชีวิตรอดกลับไปให้ได้
การตัดแขนสดๆ ใจไม่แข็งทำไม่ได้แน่ (ภาพจากภาพยนต์)
เขาค่อยๆ ตัดเนื้อ เส้นเอ็น และกระดูกออก รวมแล้วเวลายี่สิบนาทีกว่าที่เขาจะตัดแขนตัวเองออกมาได้ เมื่อตัดแขนตัวเองสำหรับ “ผมยิ้มนะ ตอนนั้นน่ะ ที่ตัวเองสามารถตัดแขนออกมาได้” แอรอนกล่าว
แต่ทุกอย่างยังไม่จบ เขาต้องปีนเขาด้วยมือข้างที่เหลือกลับไปด้วยความทุลักทุเล เลือดสดๆ ไหลแทบตลอดเวลา แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่จนกระทั่งปีนกลับขึ้นมาได้ ทั้งที่หน้าผาที่เขาปีนขึ้นมานั้นสูงถึง 65 ฟุตเลยทีเดียว
อารอนพยายามรวบรวมแรงที่เหลือลุกขึ้นแล้วเดินด้วยต่อไปอีกถึง 8 ไมล์ด้วยสภาพร่างกายที่เจ็บปวด แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความยินดีที่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็เอาชนะความหวาดกลัวของตัวเองมาได้สำเร็จ
โชคดีที่เขาได้รับการช่วยเหลือทันที และเรื่องราวของกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนว่า “อย่ายอมแพ้กับชีวิต” แม้จะต้องเสียอะไรสักอย่างไป แต่หากคุณกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความหวาดกลัว คุณย่อมประสบความสำเร็จ
รอยยิ้มของ อารอน รอลสตัน (Aron Ralston) เขารักษาชีวิตเอาไว้ได้
ปัจจุบัน อารอนยังคงปีนเขาต่อไป และใช้ชีวิตด้วยหลักว่า อย่าประมาทกับทุกสิ่ง
เรื่องราวของเขาได้รับการถ่ายทอดเป็นหนังสือ และกลายเป็นภาพยนตร์เรื่อง 127 Hour ในเวลาต่อมา
ใครชอบแนวนี้ลองไปหามาดูนะ
ที่มา https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1618030968508775&id=1559805247664681&substory_index=0&_rdc=1&_rdr