read:http://www.wtfintheworld.com/2017/07/28/monster-of-nanging/

สงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประวัติศาสตร์โลกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วหรือจะเป็นเรื่องการแพทย์ที่ก้าวหน้าขึ้นจากการทดลองอย่างไร้มนุษยธรรมจากฝ่ายอักษะ

วันนี้เราจะพาไปพบกับเรื่องราวอีกหนึ่งเรื่องราวที่โหดร้ายแบบไร้เหตุผลที่ผู้มีชัยชนะเหนือผู้แพ้ได้ทำลงไปโดยที่ไม่ได้มีเหตุผลใดๆ เลย นอกจากความสะใจล้วนๆ นั่นคือการที่ทหารญี่ปุ่นกระทำต่อผู้แพ้อย่างชาวจีนอย่างโหดร้าย มันจะบัดซบแค่ไหนนั้นเลื่อนลงไปชมพร้อมๆ กันเลย

เมื่อกองทัพญี่ปุ่นยึด “นานกิง” ได้สำเร็จ

หลังจากที่กองทัพญี่ปุ่นได้บุกเข้ายึดประเทศจีนในพื้นที่แถบ “นานกิง” ได้อย่างเบ็ดเสร็จ สิ่งแรกที่พวกเขาทำนั้นคือการ “กวาดล้าง” ชาวจีนที่มีท่าทีกระด้างกระเดื่องด้วยวิธีการที่เรียกได้ว่าโหดร้ายยิ่งกว่าสัตว์ป่า

ทั้งการข่มขืน การฆ่าด้วยวิธีต่างๆ นานาเกินกว่ามนุษย์จะจินตนาการได้ ประชาชนชาวจีนไม่ว่าเพศไหนวัยไหนก็สามารถที่จะตกเป็นเหยื่อเพื่อระบายความเครียดจากการสู้รบของทหารญี่ปุ่นได้ทั้งนั้น

ไม่ว่าจะเป็นการข่มขืนผู้หญิงท้องแล้วกรีดท้องเอาเด็กในท้องมาเสียบดาบปลายปืนเล่นๆ การต้อนผู้ชายจำนวนมากมาเผาเพื่อพนันว่าจะมีคนวิ่งหนีจากกองไฟได้กี่คน ซึ่งการกระทำต่างๆ นั้นผู้บังคับบัญชาของทหารญี่ปุ่นนั้นมีส่วนรู้เห็นทั้งหมดแต่ทว่าพวกเขาเลือกที่จะปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำมันลงไปเพื่อเป็นการผ่อนคลาย

แต่ก็ใช่ว่าเหล่าผู้บังคับบัญชาทั้งหลายจะทำแค่การปล่อยปละละเลย พวกเขายังกระโดดลงมาร่วมเล่นกับเหล่าทหารด้วยการ “แข่งขันตัดหัวชาวจีน” เพื่อชิงความเป็นที่หนึ่งแห่งสนามรบแห่งนี้

แต่ทว่าการแข่งขันนั้นไม่ใช่การแข่งตัดหัวฝั่งตรงข้ามในระหว่างสู้รบ หากแต่เป็นการแข่งตัดหัวเหล่าเชลยศึกที่ยอมจำนน โดยนายทหารยศร้อยโทสองนายนามว่า Toshiaki Mukai และ Tsuyoshi Noda

ตำนานการแข่งขันสุดโหดเหี้ยม

นายทหารทั้งสองนายได้จัดการแข่งขันขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายนถึง 13 ธันวาคม 1937 หลังจากที่กองทัพญี่ปุ่นได้ยึดครองนานกิงได้แล้ว

ทั้งคู่จัดแจงให้ทหารใต้บังคับบัญชานำเชลยศึกเข้าสู่ลานประหารที่ทั้งคู่ยืนรอถือดาบคาตานะรออยู่ และจัดการบั่นหัวเชลยแต่ละคนให้ขาด เกณฑ์การตัดสินคือจะนับจำนวนเมื่อบั่นหัวให้ขาดภายในดาบเดียว โดยในตอนแรกตั้งเป้าไว้ว่าหากใครบั่นหัวให้ขาดครบ 100 คนก่อนผู้นั้นจะได้ตำแหน่งชนะเลิศไปครอง

การแข่งขันกินเวลากว่า 14 วัน

ในช่วงแรกทั้งคู่นั้นทำคะแนนมาสูสีไล่เลี่ยกันผลัดกันนำ เพราะการบั่นหัวด้วยดาบแต่ละครั้งนั้นถือว่าต้องใช้กำลังพอสมควร แต่ทว่าเมื่อใกล้จะครบ 100 คนตามเป้าทั้งคู่รู้สึกตรงกันว่าจำนวนเพียงแค่ 100 คนนั้นมันไม่เพียงพอต่อการตัดสินแพ้ชนะอย่างเด็ดขาด

พวกเขาจึงรีเซ็ตเกมใหม่และตั้งเป้าไว้ที่ 150 คน แต่ทว่าช่วงการแข่งขันโค้งสุดท้ายทั้งคู่ทนความเหน็ดเหนื่อยไม่ไหวจึงตกลงกันว่าจะยุติการแข่งขันนี้ ผลก็คือ Toshiaki Mukai ชนะไปด้วยจำนวน 106 : 104

การแข่งขันในครั้งนี้ดังมากในประเทศญี่ปุ่นเนื่องจากมีการรายงานข่าวจากนักข่าวประจำกองทัพ ในตอนแรกนั้นทั้งคู่ถูกพูดถึงในฐานะวีรบุรุษของชาติเลยก็ว่าได้แต่ทว่าเรื่องราวกลับตาลปัตรเมื่อสงครามจบสิ้นลง

เมื่อสงครามจบลง

ทั้งคู่กลายเป็นอาชญากรสงครามผู้วิปริต ทหารญี่ปุ่นที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมการแข่งขันยอมเปิดเผยถึงภาพถ่ายศีรษะของชาวจีนที่ถูกวางเรียงว่ามีเพียง 4 หัวเท่านั้นที่ถูกตัดในระหว่างการสู้รบ ส่วนที่เหลือนั้นล้วนแต่เป็นการแข่งขันตัดหัวของนายทหารสองคนทั้งหมด

บทลงโทษ

ภายหลังทั้งคู่ถูกดำเนินคดีในข้อหากระทำทารุณต่อเชลยศึกและอาชญากรสงครามถูกตัดสินให้รับโทษประหารชีวิตด้วยการแขวนคอในปี 1948 ปิดตำนานอสุรกายแห่งนานกิงไปในที่สุด

ที่มา http://www.wtfintheworld.com/2017/07/28/monster-of-nanging/