read:http://www.wtfintheworld.com/2017/06/04/wa-head-hunter/
ชนชาติ “ว้า” เป็นชนชาติดั้งเดิมของพม่าโดยมีพื้นเพอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐฉาน ในอดีตนั้น “ว้า” ถือว่าเป็นชนเผ่านักรบที่ดุร้าย จนเผ่าอื่นไม่กล้าที่จะประกาศศึกด้วย เพราะพวกเขามีพิธีกรรมที่ถูกเล่าขานต่อกันมาจนเป็นตำนานกำเนิดชนชาติว้า นั่นก็คือ “พิธีล่าหัวมนุษย์”
ตำนานเล่าว่าชนชาติว้าคู่แรก “ตาลีและยานำ” ถือกำเนิดมาจากถ้ำแห่งหนึ่ง ต่อมาทั้งคู่อยู่กินกันก่อกำเนิดลูกหลานสร้างเผ่าพันธุ์ว้า วันหนึ่งลูกชายคนหนึ่งของทั้งคู่ได้นั่งลับมีดที่ใช้ล่าสัตว์ เมื่อลับจนได้ที่ลูกคนนี้ก็นำมีดไปทดสอบความคมด้วยการตัดผมแม่ แต่ไม่รู้ว่าตัดอีท่าไหนคมมีดแทนที่จะตัดแค่เส้นผมกลับพลาดไปปาดคอของยานำขาด ทุกคนในครอบครัวนั้นต่างเชื่อว่าเกิดจากอำนาจของภูตผีที่อยากจะได้หัวของมนุษย์เป็นเครื่องเซ่น
นับตั้งแต่นั้นมาชาวว้าจึงมีความเชื่อว่าการ “ล่าหัวมนุษย์” เป็นการทำเพื่อมอบเครื่องเซ่นแก่ภูตผี เพื่อให้ปกป้องคุ้มครองทุกคนในเผ่าให้มีแต่ความสุขไร้โรคภัยและทำให้ฝนตกตามฤดูกาล โดยจะทำกันในช่วงเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน ชาวว้าจะเรียกช่วงเวลานี้ว่า “ฤดูล่าหัวมนุษย์”
กฎการล่าหัวของชาวว้านั้นเคร่งครัดมาก กล่าวคือ จะไม่ออกล่าเหยื่อนอกอาณาเขตของตนเด็ดขาด ในการล่าแต่ละครั้งจะมีการระดมผู้ชายในเผ่า 10-12 คน ไปซุ่มตามจุดที่น่าจะมี “เหยื่อ” หลงเข้ามา จำนวนเหยื่อเป้าหมายอยู่ระหว่าง 2-5 คน หากเหยื่อมีจำนวนเกินกว่านี้ก็จะหลีกเลี่ยงเพราะไม่อยากให้คนในเผ่าเสียชีวิต
ชาวว้าจะใช้การโจมตีในจังหวะที่เป้าหมายไม่ทันระวังตัว จู่โจมด้วยความรวดเร็วจนเหยื่อเสียชีวิตและจะตัดเฉพาะหัวกลับมา เมื่อได้หัวมนุษย์มาแล้วก็จะผ่านกรรมวิธีคือการต้มให้เนื้อหนังหลุดออกให้หมดจนเหลือแต่กะโหลก แล้วนำไปขัดให้เงางามด้วยเปลือกไม้และขี้ผึ้ง จากนั้นก็จะนำกระโหลกไปแขวนที่เสาใหญ่หน้าหมู่บ้าน เพื่อประกาศให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาได้รู้ว่าพวกเขาล่าเหยื่อมาได้กี่รายแล้ว
ในแต่ละฤดูล่าหัวมนุษย์นั้น ชาวว้าไม่กำหนดยอดว่าหนึ่งปีจะล่าหัวได้กี่หัว แต่พวกเขาจะล่าหัวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ว่ากันว่าบางหมู่บ้านนั้นมีหัวมนุษย์แขวนไว้ที่เสาหน้าหมู่บ้านถึง 150 หัว และแต่ละหัวนั้นจะมีมูลค่าไม่เท่ากัน หัวของคนจากเผ่าที่ไม่ใช่เผ่านักรบก็จะถือว่ามีค่าต่ำสุด แต่ถ้าเป็นหัวของชาวมูเซอก็จะถือว่ามีค่ามากเพราะชนเผ่ามูเซอนั้นเป็นนักรบ กว่าจะได้แต่ละหัวนั้นถือว่ายากพอควร
ปัจจุบันประเพณีล่าหัวของชาวว้าได้ถูกยกเลิกไปแล้วเนื่องจากความเจริญได้เข้าถึง ชาวว้าจึงต้องหันมาเซ่นผีด้วยการฆ่าสัตว์ อาทิ ควายและสุนัข แทนการสังเวยด้วยหัวมนุษย์ แต่หัวมนุษย์ก็ยังมีเก็บอยู่ตามบ้านเรือนของชาวว้า โดยจะวางไว้บนหิ้งและนำออกมาแสดงเฉพาะในช่วยงานสำคัญๆ เพียงเท่านั้น แต่ถึงแม้ว่าชาวว้าจะเลิกล่าหัวมนุษย์แล้ว แต่ชื่อเสียงในเรื่องความดุร้ายของพวกเขาก็ยังใช้ข่มขวัญชนกลุ่มน้อยกลุ่มอื่นๆ ได้ดีเสมอ
ที่มา read:http://www.wtfintheworld.com/2017/06/04/wa-head-hunter/