read:http://www.liekr.com/post_154185.html
ใครที่มักจะหาข้ออ้างในความไม่สมบูรณ์ของสุขภาพตัวเอง ต้องดูนักเพาะกายหนุ่มรายนี้เป็นตัวอย่าง เขามีชื่อว่า Edgard John Augustin ก่อนที่เขาจะมาเป็นดาวเด่นในยิมนั้น เขาเล่าว่า เมื่อเขาอายุได้เพียง 4 ปี ประสบอุบัติเหตุ ทำให้ต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างและพี่ชายอีก 1 คนไป แต่เขาไม่ยอมเป็นเพียงแค่คนพิการ เขาเข้าไปเป็นนักกีฬาวีลแชร์ ของ IFBB Pro Athlete จากนั้นก็กลายเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ และเป็นแรงบันดาลใจที่ดีเยี่ยม สำหรับทุก ๆ คน ทั้งที่มีร่างกายสมบูรณ์ และไม่สมบูรณ์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักเพาะกล้าม Edgard สูง 189 ซม. หนัก 116 กิโลกรัม เมื่อไม่นานมานี้เขากำลังเป็นที่จับตามองมาก เนื่องจากเขาได้รับรางวัลการประกวดนักเพาะกล้ามมาแล้วหลายเวที
Edgard John Augustin ประสบอุบัติเหตุเมื่ออายุเพียง 4 ขวบ และสูญเสียขาทั้งสองข้างของเขาไป แต่ตอนนี้เขาได้กลายมาเป็นแชมป์นักเพาะกายบนเวทีของสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสนานาชาติ (IFBB) แล้ว เรื่องราวของเขาทำให้เรารู้ว่า "ทุกสิ่งเป็นไปได้ ขอเพียงคุณไม่ละทิ้งความฝัน"
▼ เขามีกล้ามที่สวยงามมาก
▼ แต่ที่ทำให้ผู้ชมต้องตะลึงคือ กล้ามเนื้อท่อนล่างของเขา
▼Edgard ดูเหมือนคนปกติมาก เพราะสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง รวมถึงกล้ามเนี้อที่สวยงามขนาดนี้ ต้องใช้ความพยายามอย่างมากถึงจะได้รูปร่างที่สวยงามขนาดนี้
▼ หลายคนคิดว่า หลังเขาสูญเสียขาทั้งสองข้างไปแล้ว คงทำได้เพียงออกกำลังเบาๆเท่านั้น
▼แต่ภาพเหล่านี้พิสูน์แล้วว่า เขาไม่เพียงออกกำลังกายอย่างหนัก แต่ทุกท่าที่คนร่างกายครบถ้วนสมบรูณ์ทำ เขาสามารถทำได้หมด ดูพลังขาของเขาสิ!!
▼ด้วยความพยายามอย่างหนักของเขา ทำให้ Edgard ได้รับรางวัลชนะเลิศ แชมป์การแข่งขันรถเข็นคนพิการในยุโรป เมื่ออายุ 30 ปี
▼เขาเคยประลองแข่งขันกับเพื่อนในโรงยิมทั้งหมด แต่ทุกคนแพ้ความแข็งแกร่งของเขา
▼นักออกกำลังกายทั่วทุกทิศต่างชื่นชมในความเพียรพยายามอันน่าทึ่งของ Edgard มาก
▼ในระหว่างที่เขากำลังแข่งขันอยู่นั้น จู่ๆอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ก็เดินเข้ามาถ่ายรูปเขา
▼Edgard เป็นนักสู้เพาะกล้ามในเกมการแข่งขัน แต่อีกมุมของชีวิต เขาก็เป็นพ่อที่นุ่นนวลและหล่อเหลา เขาใช้การกระทำของเขาเพื่อเป็นตัวอย่างให้ลูกชายดู
▼เขากำลังจะมีลูกชายอีกคนแล้ว เพราะภรรยาแสนสวยของเขากำลังตั้งครรภ์ ลูกคนที่ 2
▼ลูกน้อยลืมตาดูโลกแล้ว
▼การโจมตีส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากโลกภายนอก แต่เป็นความขี้เกียจและการยอมแพ้ของเราเอง เพราะฉะนั้นแล้วเอาความพิการของร่างกายมาเป็นข้ออ้าง แต่จงให้อวัยวะทุกส่วนส่งเสริมให้กำลังใจกันและกันเองดีที่สุด
แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR