แค่มองหน้าก็ฆ่ากัน! รวบ2นร.ปืนโหด ยิงอริ-โดนสาวท้อง

วัยรุ่นสมัยนี้แค่มองหน้าก็ฆ่ากันแล้ว!

            ไม่นานมานี้เกิดเหตุร้ายขึ้นในจ.ตรัง เมื่อสองนักเรียนนักเลงเกิดเขม่นกับนักเรียนต่างสถาบัน ขณะที่ต่างฝ่ายต่างขับมอเตอร์ ไซค์จอดติดไฟแดงแล้วมองหน้ากัน ทำให้ฝ่ายคนร้ายเกิดไม่พอใจทั้งๆ ที่ไม่เคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อน ชักอาวุธปืนลูกซองสั้นออกมายิงเหยื่ออย่างโหดเหี้ยม แต่ทว่ากระสุนไม่ถูกเป้าหมายพลาดไปถูก แฟนสาวคู่กรณีที่นั่งซ้อนท้ายเสียชีวิตระหว่าง นำส่งโรงพยาบาล

ตายทั้งที่ยังตั้งครรภ์

            เหตุการณ์ครั้งนี้ตำรวจสามารถจับกุมคนร้าย ไว้ได้ทันท่วงที ทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่า ไม่เคยมีเรื่องโกรธแค้นอะไรกันมาก่อน เพียงแค่เหม็นขี้หน้าคู่กรณีก็ชักปืนยิงใส่ นอกจากนี้ ตำรวจยังสอบประวัติมือปืนพบว่าเคยก่อเหตุร้ายมาแล้วหลายคดี อยู่ระหว่างประกันตัวแต่ก็ยังมาก่อเหตุอีกจนได้

คดีเก่ายังไม่ทันเคลียร์ก็มาก่อคดีใหม่เล่นกันถึงตาย

            ย้อนไปดูรายละเอียดเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นตอนสายวันที่ 1 ก.ค. ตำรวจสภ. เมืองตรัง รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันที่บริเวณสี่แยกต้นสมอ ถนนตรัง-ปะเหลียน ทางเข้าเขตเทศ บาลนครตรัง พ.ต.ท.ภูมิ บาลทิพย์ รอง ผกก. ป.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.เมธี จันทร์งาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.สุรชาติ บุญโรจน์พงศ์ สวป. และ พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง สวส. จึงรุดไปตรวจสอบ

            ที่นั่นพบไทยมุงจำนวนมากยืนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นหมาดๆ บนถนนพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีเทา-ขาว ทะเบียน 226 ตรัง ล้มอยู่ใกล้กองเลือด ส่วนคนเจ็บพลเมืองดีหามส่งร.พ.ไปแล้ว ทราบชื่อคือ น.ส.สมหญิง (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักศึกษาชั้นปวช.ปี 2 โรงเรียนเอกชนชื่อดังในจังหวัดตรัง ถูกยิงด้วยปืนลูก ซองสั้นเข้าที่หน้าท้อง 1 นัด เสียชีวิตก่อนถึงมือหมอ แต่ที่เศร้าไปกว่านั้นคือน.ส.สมหญิงกำลังตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน

ตายทั้งแม่ทั้งลูกในท้อง!?!

            ในที่เกิดเหตุตำรวจพบ นายสมชาย (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.3 สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในเมืองตรัง ยืนรอให้การด้วยอาการตัวสั่น ละล่ำละลักให้การ ว่า ก่อนเกิดเหตุระหว่างที่ตนกับแฟนสาวซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์มุ่งหน้ากลับบ้าน ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่ที่สี่แยกต้นสมอ ได้เจอกับกลุ่มนักเรียนต่างสถาบันขับมอเตอร์ไซค์ซ้อน สองกันมาและเกิดมองหน้ากัน จังหวะนั้นคนซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนออกมาจะยิงใส่ ตนตกใจกลัวจึงทิ้งรถวิ่งหนีขณะที่แฟนยังนั่งคร่อมอยู่บนรถแบบไม่ทันระวัง

พอสิ้นเสียงปืนดังไล่หลัง

หันไปดูก็พบแฟนถูกยิงแล้ว!!?

            คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง สั่งการให้ พ.ต.ท.ภูมิ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกไล่ล่านักเรียนนักเลงรายนี้อย่างเร่งด่วน

       ตำรวจไล่ตามคนร้ายไปตามเส้นทางหลบ หนี ซึ่งพยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขจร 370 ตรัง เป็นยานพาหนะขับมุ่งหน้าไปในพื้นที่หมู่ 4 บ้านครอง เมือง ต.นาบินหลา อ.เมืองตรัง อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร ตำรวจจึงกระจายกำลังปิดล้อม

            นอกจากนี้ กำลังอีกส่วนยังรีบเช็กหาผู้ครอบครองรถมอเตอร์ไซค์คันนี้ พบว่าเจ้าของ คือ นายสุเมธ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี มีบ้านพักอยู่ในพื้นที่ที่หลบหนีรองฯธรรมนูญ สั่งเสริมกำลังกดดันคน ร้ายทันที

       ขณะที่ตำรวจกระจายกำลังเข้าตรวจค้นก็ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เห็นนายสุเมธพร้อมเพื่อน คือ นายทัศไนย (นามสมมติ) วิ่งหลบหนีไปกลางทุ่งนาซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน กำลังเจ้าหน้าที่จึงเข้าโอบล้อมไว้ทุกเส้นทาง ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ตำรวจใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงในที่สุดก็สามารถจับกุมตัวทั้ง 2 คนเอาไว้ได้

จนมุมทั้งในเครื่องแบบนักเรียน

            หลังได้ตัวคนร้ายเจ้าหน้าที่นำตัวไปค้นอาวุธปืนลูกซองสั้นที่นายสุเมธโยนทิ้งลงหนองน้ำเพื่อทำลายหลักฐาน จึงยึดไว้เป็นของกลาง ตำรวจสอบปากคำทราบว่างานนี้มีนายทัศไนย เป็นคนลั่นกระสุน ส่วนนายสุเมธ เป็นคนขับมอเตอร์ไซค์ ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมีบ้านอยู่ใกล้กันและยังเรียนอยู่ชั้นม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองตรัง

            "สุเมธ" ให้การว่า ขณะขับมอเตอร์ไซค์มาจอดติดไฟแดงที่สี่แยกต้นสมอ ก็มาเจอกับนายสมชายซึ่งมีแฟนสาวนั่งซ้อนท้าย เกิดเขม่นหันมามองหน้ากัน ทำให้นายทัศไนยเกิดความไม่พอใจ ชักอาวุธปืนออกมาจะยิงใส่นายสมชาย แต่นายสมชายวิ่งหนี กระสุนจึงพลาดไปโดนผู้หญิงโดยไม่ได้ตั้งใจ

ที่สำคัญ ไม่รู้ว่าเหยื่อกระสุนที่ถูกยิงกำลังตั้งครรภ์

            "หลังก่อเหตุผมขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางโยนปืนทิ้งน้ำจนกระทั่งถูกตำรวจตามจับได้ เราไม่เคยมีปัญหากัน เพื่อนผมใจร้อนจึงชักปืนยิงใส่"

ตำรวจนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที

            คดีนี้เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาหนัก 3 ข้อหา ฐานร่วมกันพยายามฆ่า ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ข้อหาร่วมกันพกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

       นอกจากนี้ ตำรวจยังพลิกดูประวัตินายทัศไนย พบว่าก่อนหน้านี้เมื่อปลายปี"52 สมัยที่นายทัศไนยกำลังเรียนหนังสืออยู่ในระดับชั้น ม.5 เคยก่อเหตุพยายามฆ่าคู่อริมาแล้ว ด้วยการใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทงจนเหยื่อบาดเจ็บสาหัส ถูกตำรวจสภ.นาโยง จ.ตรัง จับ กุมดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่าคนตาย คดีนั้นพนักงานสอบสวนเห็นว่า นายทัศไนย ยังเป็นนักเรียนจึงอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราวได้

แต่ก็ยังไม่วายก่อเหตุร้ายขึ้นอีก!?!