ยาอัลปราโซแลม(Alprazolam) พระเอก..หรือผู้ร้าย


                 

 
  “อัล ปราโซแลม  (Alprazolam)” เป็นยาที่จัดอยู่ในกลุ่มเบนโซไดอาซีปีน (Benzodiazopine) เป็นยาที่ออกฤทธิ์เร็วแต่ออกฤทธิ์ไม่นาน 

   ยาตัวนี้ในทางการแพทย์ใช้สำหรับรักษาอาการ วิตกกังวลทำให้สงบ ระงับ และช่วยให้นอนหลับ จัดเป็นวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 4 โดยผู้ที่มีสิทธิ สั่งจ่ายยาดังกล่าวต้องต้องเป็นแพทย์ ทันตแพทย์และสัตวแพทย์เท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการคุมเข้มการจัดจำหน่ายยาดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ โดยเชิญผู้ประกอบการผลิต นำเข้าและส่งออกวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 และ 4 มาประชุมและร่วมลงนามให้สัตยาบันในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

 

 

 


                  

สำหรับการผลิตในแต่ละครั้งผู้ผลิตต้องแจ้งให้ กระทรวงสาธารณสุข ทราบ เพื่อการควบคุมและตรวจสอบ พร้อมทั้งผู้ที่ได้รับอนุญาตทุกรายต้องจัดให้มีการทำบัญชีรับ-จ่ายวัตถุออก ฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และเสนอรายงานให้เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาทราบเป็นรายเดือนและรายปี ทั้งนี้บัญชีดังกล่าวต้องเก็บรักษาไว้และพร้อมที่จะแสดงต่อพนักงานเจ้า หน้าที่ตลอดเวลาขณะเปิดดำเนินการ ซึ่ง กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการตรวจสอบเป็นประจำกับทางผู้ผลิตนำเข้าและจำหน่าย

   นอกจากนี้ทุกๆ ปี กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการตรวจสอบการใช้วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 3 และ 4 ตามร้านขายยา คลินิกและโรงพยาบาลที่มีการใช้พร้อมกับประสานกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ให้ติดตามตรวจสอบเช่นเดียวกับส่วนกลาง อีกทั้งได้กำชับให้ผู้รับอนุญาตขายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 3 หรือ 4 ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในการขายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทตามกฎหมายอย่าง เคร่งครัดมาโดยตลอด

                  


  ยา อัลปราโซแลม เป็นยาที่มีฤทธิ์ต่อจิต ประสาท หากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เกิดการติดยาทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่ง หากหยุดยาทันทีจะเกิดอาการขาดยาหรือถอนยา เช่น คลื่นไส้ นอนไม่หลับ หัวใจเต้นเร็ว ซึมเศร้า เป็นโรคจิต หรืออาจถึงกับชักได้ หากต้องรับประทานกับยาตัวอื่น เช่น ยากดหรือกระตุ้นประสาท หรือยาคุมกำเนิด ต้องปรึกษาแพทย์ก่อน เนื่องจากมียาหลายชนิดที่มีปฏิกิริยาต่อระดับ Alprazolam ในกระแสเลือดจนทำให้เกิดอันตรายอย่างรุนแรงได้ และหากรับประทานยาดังกล่าวพร้อมกับเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์จะทำให้กดประสาทมากขึ้นและอาจกดการหายใจส่งผลให้เสียชีวิตได้

   ยาอัลปราโซแลมที่ใช้ในการแพทย์มีอยู่ด้วยกัน 3 ขนาด คือ ขนาด 0.25 มิลลิกรัม ขนาด 0.5 มิลิกรัม และขนาด 1.0 มิลลิกรัม โดยขนาดในการใช้ขึ้นอยู่กับอาการผู้ป่วย ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกขนาดยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นรายๆไป เช่นในผู้ป่วยที่มีอาการนอนไม่หลับเนื่องจากเครียด แพทย์อาจจะให้ยาอัลปราโซแลม ขนาด 0.25 มิลลิกรัม หรือในผู้ป่วยที่เลิกยาเสพติดแพทย์อาจจะต้องให้ยาอัลปราโซแลม ขนาด 0.5 มิลลิกรัม หรือ 1.0 มิลลิกรัม เป็นต้น ยาตัวนี้เป็นยาออกฤทธิ์เร็ว รับประทานไปประมาณ 20 นาทีก็จะออกฤทธิ์ แต่ฤทธิ์จะคงอยู่ไม่เกิน 1 วัน และหากดื่มน้ำมากๆยาก็จะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ จนกระทั่งหมดไปในที่สุด



   สำหรับขนาดของยากลุ่มนี้ที่จะทำให้เสียชีวิตได้ในทางวิทยาศาสตร์มีขอบข่าย ความปลอดภัย หรือ Margin of safety กว้างมาก ซึ่งจากการทดลองหาขนาดของยาที่ทำให้เสียชีวิตด้วยตัวยากลุ่มนี้ในสัตว์ พบว่าต้องใช้ยาถึง 1,000 มิลลิกรัมขึ้นไปต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ซึ่งเป็นขนาดที่สูงมาก



  อัลปราโซแลม เป็นยาที่เปรียบเสมือนกับเหรียญ 2 ด้าน หากยานี้ตกอยู่ในมือของแพทย์ผู้มีหน้าที่ช่วยชีวิต ยานี้ก็จะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อชีวิตมนุษย์ แต่หากยานี้ตกไปในอยู่ในมือของผู้ที่ต้องการหาประโยชน์จากผู้อื่นในทางที่ ไม่ชอบไม่ควร ยาตัวนี้อาจจะกลายเป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ได้เช่นกัน

  ใน โลกของวิทยาศาสตร์ สถานภาพของยา อัลปราโซแลม ก็คือยาตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทอย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่ในโลกของความเป็นจริงสถานภาพของยาตัวนี้ขึ้นอยู่กับฝีมือของมนุษย์ว่าจะ เลือกใช้มันในบทบาทของ พระเอก หรือจะใช้มันในบทบาทของ “ผู้ร้าย”


ขอคุุณข้อมูลจาก : กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณะสุข
ภาพจาก กูเกิลค่ะ

 

ปัจจุบันมีข่าวการก่ออาชญากรรมเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ ต่อหญิงสาว
โดยใช้ยาสลบหรือยานอนหลับผสมลงในเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์มี มากขึ้น
และพบว่ามียาชนิดหนึ่งที่ใช้กันมากคือ "อัลปราโซแลม" หรือ "ยาเสียสาว"

นื่องจากไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าว่ามีการผสมยานี้ ในเครื่องดื่มหรือไม่ 
จึงขอเตือนสาวๆ ทั้งหลายให้ระมัดระวัง และขอฝากคาถาป้องกันตัว  7 ไม่ดังนี้

- ไม่ ไปร่วมงานคนเดียว ควรมีเพื่อนที่ไว้ใจได้ไปด้วย
- ไม่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หากต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
       ให้ดื่มพอประมาณ เพื่อให้มีสติอยู่ตลอดเวลา
- ไม่ รับเครื่องดื่มจากคนที่เราไม่รู้จักดีหรือไม่สามารถเชื่อใจได้
- ไม่ ดื่มอย่างรวดเร็วเพราะหากเครื่องดื่มถูกใส่ยาลงไป จะได้มีเวลาที่จะระวังตัวได้ทัน
- ไม่ ดื่มเครื่องดื่มแก้วเดียวกับผู้อื่น
- ไม่ ดื่มเครื่องดื่มที่อยู่ในภาชนะที่มีปากกว้าง เช่น อ่างใส่พั้นซ์ เพราะง่ายต่อการถูกใส่ยาหรืออาจถูกใส่ยาไปแล้ว
- ไม่ ควรละสายตาจากเครื่องดื่มของตนหากต้องเข้าห้องน้ำหรือออกไปเต้นรำ
กลับมาแล้วควรเปลี่ยนแก้วใหม่ทันที

 ข้อมูลจาก : http://www.longhosp.com

 

 "โซแลม" ยาเพิ่มความกล้าสวะสังคม !

พฤติกรรม ของวัยรุ่นกลุ่มนี้  ส่วนใหญ่เป็นเด็กในชุมชน ไม่มีงานทำ ไม่ได้เรียนหนังสือ หรือไม่ก็เรียนไม่จบ วันๆเอาแต่จับกลุ่มกินเหล้า เข้าร้านเกม ซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ไปเรื่อยๆ เลยเกิดความสงสัยว่า เด็กกลุ่มนี้ เอาเงินมาจากไหน ทั้งๆที่ไม่มีงานทำ"

คดีกลุ่มคนร้ายปล้นทรัพย์ ซึ่งถูกฝ่ายสืบสวนของสน.หัวหมากจับกุมได้เมื่อคืนวันที่ 10 ส.ค. รวม 5 คนประกอบด้วย นายเสกสรร หรือ ต้น ธรรมรักษา อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 13 ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว นายณัฐ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นายภพ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นายแบงก์ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และ นายแชมป์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สปาร์ค 135 สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน ขตม 821 สุราษฎร์ธานี

พวกมันย่ามใจมาก ก่อเหตุปล้นและจี้ชิงทรัพย์เหยื่อมาถึง 3 รายภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แทนที่จะหยุด แต่พอตกเย็น เจ้าต้นกลับพาเจ้าณัฐกับเจ้าภพ ลงมือปล้นเหยื่อที่หน้าร้านสเปดเวิลย์ ซอยรามคำแหง 24 เป็นครั้งที่ 4 ในรอบวัน แต่ครั้งนี้ โชคไม่เข้าข้างพวกมัน ทีมของผม ไปพบเหตุพอดี จึงเข้าจับกุมเจ้าต้นไว้ได้ จนนำไปสู่การจับกุมเกือบยกแก๊ง ปิดฉากสวะสังคมไปได้อีกครั้ง

กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมวิ่งราวทรัพย์ โดยทำทีเป็นขี่รถ จยย.ออกตระเวนไปเรื่อยๆ เพื่อหาเหยื่อ เมื่อเจอเป้าหมายและสบโอกาสเหมาะก็จะทำการวิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ และปล้นทรัพย์ บางครั้งมีการข่มขู่ผู้เสียหาย แต่ถ้าหากผู้เสียหายขัดขืนหรือสู้ก็จะทำร้ายร่างกายด้วยกำลัง หรือใช้อาวุธ ก่อนเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายหลบหนีไป หลังจากนั้น ก็จะนำทรัพย์สินที่ได้ไปขายแล้วนำเงินมาแบ่งกัน ซึ่งก่อนที่จะลงมือก่อเหตุทุกครั้ง กลุ่มผู้ต้องหาซื้อสารเสพติดาประเภทยาโซแลม มาผสมกับน้ำอัดลมดื่มเพื่อให้เกิดความกล้า

เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยมีอาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป เพื่อให้พ้นจากการถูกจับกุม ส่วนนายตั้ม ผู้ต้องหาคนสุดท้าย ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน ลงพื้นที่หาข่าวเพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้ ต่อไป เพราะถือเป็นภัยต่อสุจริตชน

สน.หัวหมาก จะต้องดำเนินการสืบสวน และจับกุม สถานที่จำหน่ายยา"โซแลม"ชนิดนี้ในพื้นที่ให้ได้ ไม่เช่นนั้น "สวะสังคม" อันเป็นตัวบั่นทอนสุจริตชน คงไม่มีวันหมดไปอย่างแน่นอน

 
ขอบคุณข้อมูลจาก : สน.หัวหมากค่ะ..

Credit: http://atcloud.com/stories/85611
11 ก.ค. 53 เวลา 14:27 29,005 1 116
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...