อีกไม่ช้าไม่นานประมาณสองปีข้างหน้านี่เอง ประชากรทั่วโลกจะทุบสถิติใหม่ มีมหาศาลทะลุหลัก 7,000 ล้านคนแล้ว!
ปัญหาใหญ่ที่จะตามมาจากภาวะพลเมืองล้นโลก ก็คือ การแย่งชิง "ทรัพยากร" ธรรมชาติทั้งหลาย
และ คลื่นอพยพของผู้คนครั้งใหญ่ จากเขตชนบท เขตด้อยพัฒนา เข้ามาตามล่าหาโอกาสใน "เมืองใหญ่" หรือ "หัวเมือง" ต่างๆ รวมถึงในชาติเจริญกว่าทางเศรษฐกิจ
ข้อมูลข้างต้นได้มาจากรายงาน "ข้อมูลประชากรโลก ประจำปีพ.ศ.2552" จัดทำโดยสำนักงานประชากร ประเทศสหรัฐอเมริกา
"บิลล์ บัตซ์" ผู้อำนวยการสำนักงานประชากร บอกกับนักข่าวซีเอ็นเอ็น ว่า แม้แนวโน้ม "อัตราการเกิด" ในหลายประเทศจะลดลง
อย่างไรก็ตาม จำนวนประชากรโลกโดยรวมจะเดินหน้าสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ดี
โดยภายในปีพ.ศ.2554 สถิติมนุษย์บนพื้นโลกจะพุ่งแตะหลัก 7,000 ล้านคน
ซึ่งสัดส่วนประชากรที่เพิ่มขึ้นนี้ ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และประเทศยากจน
" อัตราก้าวกระโดดของประชากรจาก 6,000 ล้านคนไปสู่ 7,000 ล้านคนใช้เวลาราวๆ 12 ปี เช่นเดียวกับสมัยขยับจาก 5,000 ล้านคนเป็น 6,000 ล้านคน" บัตซ์ กล่าว
ด้าน "คาร์ล โฮบ" หนึ่งในทีมเขียนรายงานระบุว่า ตัวเลขประชากรกลุ่มเยาวชน-คนหนุ่มสาวทั่วทั้งโลก ณ ปัจจุบัน คือ 1,200 ล้านคน และเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ อาศัยอยู่ในชาติกำลังพัฒนา โดยเฉพาะชาติแถบทวีปแอฟริกาและเอเชีย
"ขอให้รอดูในช่วง 2-3 ทศวรรษข้างหน้า เราจะเห็นคนหนุ่มสาวเหล่านี้ทยอยอพยพจากชนบทเข้าสู่เมืองใหญ่ ทั้งเพื่อหาการศึกษาที่ดีกว่า หาโอกาสในหน้าที่การงาน และเรียกร้องสิทธิ์การดูแลสุขภาพจากรัฐมากขึ้นตามลำดับ"
โฮบเตือนทิ้งท้ายด้วยว่า วิกฤต "คนอพยพ" จะเป็นต้นเหตุก่อ "ปัญหาสังคม" หลายอย่างตามมา
ส่วนจะเป็นอะไรบ้างนั้นโฮบไม่ได้ชี้ชัดลงไป คงทิ้งเป็น ปริศนาให้ขบคิดหาทางแก้ไขกันต่อไป