read:http://variety.teenee.com/world/77136.html
เรื่องราวเหตุการณ์ใน สมัย ร.๕ นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายของผู้คนในยุค พ.ศ. นี้ อีกหนึ่งเรื่องที่จะนำเสนอนี้ คือเรื่องใกล้ตัว ที่เราทุกคนเห็นจนชินตา นั้นคือ งานมอเตอร์โชว์ ต่างแค่เพียงจัดขึ้นในสมัยรัชกาลที่๕ ก่อนจะเข้าสู่ เรื่องงานชุมนุมรถหลวอยากจะเล่าย้อนถึงความเป็นมาของรถยนต์ไทยก่อน
ในตอนปลายสมัย ร.๕ หลังจากที่ ร.๕ ท่านเสด็จฯกลับมาจากประพาสยุโรปในปี ๒๔๔๐ หลังจากนั้นอีกราว ๓-๔ ปี เจ้าพระยาสุระศักดิ์มนตรี(เจิม แสงชูโต) ได้สั่งซื้อรถยนต์คันแรกจากยุโรป โดยดูจากแคตตาล็อกแล้วสั่งเข้ามา แรกว่าเป็นรถยนต์คนแรกในสยามในเวลานั้น
ต่อมาปี ๒๔๔๗ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธ์ พระโอรสใน ร.๕ ได้เสด็จไปรักษาพระองค์ที่ฝรั่งเศส ในระหว่างนั้นได้เสด็จทอดพระเนตรโรงงานผลิตรถยนต์ต่างๆด้วยความสนพระทัย ก่อนเสด็จกลับได้ว่าจ่างบริษัทเมอร์เซเดสเดมเลอร์ของเยอรมันให้ต่อรถชนิดพิเศษสุดแบบเก๋งสีเหลืองหลังคาทรงประทุนถวายแด่พระบิดานับเป็นรถยนต์พระที่นั่งคันแรกในราชสำนัก ทรงพระทานชื่อว่า "แก้วจักรพรรดิ" หลังจากนั้น ร.๕ ท่านก็โปรดให้สั่งเพิ่มเติมอีก ๑๒ คันพระราชทานชื่อไว้ ดังนี้
แก้วจักรพรรดิ มณีรัตน ฑัตมารุต ไอยราพต ราชานุยันต์ สุวรรณมุขี กังหัน สละสลวย กระสวยทอง ลำยองทาบ ภาพยนตร์ กลกำบัง
ร.๕ท่านโปรดรถยนต์เป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นสินค้าใหม่ที่มีขึ้นในสมัยนั้นพระองค์ทรงโปรดขับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จประพาสตามถนนสายต่างๆในกรุงเทพฯทุกเย็น แม้กระทั่งเสด็จประพาสยุโรปครั้งหลังก็ทรงนำรถยนต์พระที่นั่งไปด้วย
ตอนช่วงปลายรัชกาลด้วยทรงมีเวลาว่างงานพระราชกรณียกิจมากขึ้นจึงโปรดฯให้จัด งานชุมนุมรถหลวงขึ้นเป็นครั้งแรกในสยาม เพื่อทรงพระสำราญพระราชหฤทัยและได้ทรงจัดให้มีขึ้นอีกหลายครั้งติด บางคราวก็ทรงโปรดฯให้มีการประกวดรถบุปผชาติ มีการประดับจัดตบแต่งด้วยดอกไม้หลายชนิด นอกจากนั้นยังโปรดฯให้สั้งซื้อรถยนต์อีกจำนวนมาก มาพระราชทานด่พระมเหสีและพระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งบรรดาข้าราชบริพารอีกด้วย ซึ่งในเวลานั้นชาวบ้านทั่วไปไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของรถยนต์ เพราะราคาแพงมากเกินกว่าที่จะซื้อ ผู้เป็นเจ้าของจึงจำกัดอยู่เพียงภายในราชสำนักเท่านั้น
วันที่๓ พฤษภาคม ๒๔๕๑ ร๕ ทรงโปรดฯให้มีการจัดงานชุมนุมรถหลวงขึ้นเป็นครั่งแรกในสยาม ทรงชักชวนข้าราชบริพาร พ่อค้า และ คณะทูตานุทูตจากชาติต่างๆ ให้นำรถยนต์ส่วนตัวเข้าร่วมในขบวนดังกล่าว โดยแจ้งรายชื่อไปยังกระทรวงวัง เพื่อจะได้นำการ์ดเชิญเฝ้าทูตละอองธุลีพระบาท นอกจากนี้ยังได้โปรดฯให้เชิญเจ้านายและข้าราชการผู้ใหญ่ที่ยังไม่มีรถยนต์ส่วนตัวให้มานั่งรถหลวงได้
ทรงกำหนดจุดเริ่มต้นขบวนที่ถนนเบญจมาศในพระวังดุสิต มีรถยนต์รวมทั้งรถหลวงเข้าร่วมขบวนทั่งหมด ๙๘ คัน ทรงโปรดฯให้จัดเป็นสองแถว เริ่มด้วยรถพรที่นั่งทัตมารุตนำหน้าเป็นที่หนึ่ง ตามด้วยรถของกรมราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ถัดมาเป็นรถของเจ้านาย ข้าราชการ ทูตานุทูต และพ่อค้านายห้าง เป็นลำดับสุดท้าย ครั้งถึงเวลาบ่ายโมงเศษขบวนรถยนต์เริ่มออกจากพระวังดุสิตข้ามสะพานคลองเปรมประชากร เลี้ยวมุมวังกรมหลวงชุมพร(วิทยาลัยพาณิชยการพระนครปัจจุบัน) จนถึงสี่แยกถนนกรุงเกษม เลี้ยวข้าสะพานยศเสไปตามถนนสระปทุม เลี้ยวขวาขึ้นสะพานเฉลิมศรี ๔๒ ผ่านถนนหัวลำโพง ถึงสามแยกเข้าถนนเจริญกรุง ข้ามสะพานดำรงสถิตไปตามถนนเจริญกรุง จนถึงสะหนามไชย
โปรดฯให้จอดขบวนที่ทั้งหมดที่สนามหน้าพระที่นั่งอภิเษกดุสิต หลังจากนั้นทรงจัดเลี้ยงน้ำชาแก่บรรดาเจ้านาย ข้าราชการ ทูต และพ่อค้า ที่เข้าร่วมในงานครั้งนี้ ระหว่างเคลื่อนขบวนในครั้งนั้นได้มีประชาชนจำนวนมากพากันมาเฝ้าชมรถยนต์ อุปสรรคในการจัดงานครั้งนี้คือถนนในสมัยนั้นยังเป็นดินโครน พื่นผิวดินเป็นหลุมเป็นบ่อ ซ้ำยังต้องเจอกับสะพานข้ามครองที่สูงชัน จึงทำให้รถบางคันเสียหลักแล่นต่อไม่ได้ บางคันก็เครื่องยนต์ติดบ้างไม่ติดบ้าง ต้องจอดตายเป็นทิวแถว
ที่มา ที่นี่ดอดคอม