มีข้อมูลและเรื่องราวมากมายบนโลกที่เราคาดไม่ถึงมาก่อน และแต่ละเรื่องนั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวที่น่าเหลือเชื่อมาก และนี่คือข้อเท็จจริงน่าแปลกใจเกี่ยวกับโลกที่หลายคนไม่เคยรู้หรือคาดไม่ถึงมาก่อนเลย แต่ละอย่างนั้นน่าประหลาดใจมาก
1. ภูเขาเอเวอร์เรสต์ไม่ใช่ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก
โดย Hawaiian Mauna Kea อยู่ที่ระดับความสูง 4,205 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แต่จุดที่ต่ำที่สุดตั้งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลอีก ดังนั้นหากวัดจากฐานถึงจุดสูงสุด Hawaiian Mauna Kea มีความสูง 10,203 เมตร ซึ่งสูงกว่าภูเขาเอเวอรืเรสต์ถึง 1,355 เมตรเลยทีเดียว
2. ชั้นบรรยากาศโลกมีขอบเขต
เส้น Kármán เป็นเส้นที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่ามีความสูง 100 กิโลเมตรเหนือระดับน้ำทะเล และมันเป็นเขตแดนระหว่างอวกาศกับพื้นที่โลก
3. สถานที่ที่แห้งแล้งที่สุดตั้งอยู่ในแอนตาร์กติกา
โดยทั่วไปหลายคนมักเชื่อกันว่าสถานที่ที่แห้งแล้งที่สุดในโลกคือทะเลทราย Atacama ในชิลีเพราะมันไม่มีฝนตกมานานนับพันปีแล้ว แต่ McMurdo Dry Valleys ในแอนตาร์ติกาก็ไม่เคยมีฝนตกมานานเกือบ 2 ล้านปีแล้วเช่นกัน แถมยังมีลมแรงกว่า 320 กิโลเมตร/ชั่วโมง
4. น้ำจืดในโลกมีเพียง 3% ของน้ำทั้งหมดบนโลก
มหาสมุทรและทะเลมีน้ำมากกว่า 97% แต่น้ำทะเลมีรสเค็มไม่เหมาะสำหรับการดื่ม และส่วนที่เหลืออีก 3% เป็นน้ำจืดทั้งหมด โดยอยู่ในธารน้ำแข็งกว่า 70% และทะเลสาบไบคาลอีก 30%
5. วัดที่เก่าแก่ที่สุดในโลกมีอายุประมาณ 12,000 ปี
Göbekli Tepe เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศตุรกี นอกจากนี้นักวิจัยยังเชื่ออีกด้วยว่า การแกะสลักบนเสาแสดงให้เห็นว่า 11,000 ปีที่ผ่านมามีดาวตกลงบนโลก
6. ดวงจันทร์เคยเป็นส่วนหนึ่งของโลก
นักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดนชี้ให้เห็นว่า เมื่อประมาณ 4.36 พันล้านปีก่อน โลกกับดาวเคราะห์พุ่งชนกันทำให้เกิดการก่อตัวของดาวเคราะห์ที่มีลักษณะคล้ายกับโลก
7. เมื่อ 250 ล้านปีก่อน ทุกทวีปทั่วโลกเป็นแผ่นดินเดียวกัน
เรียกว่า Pangea เป็นแผ่นดินใหญ่ที่ล้อมรอบไปด้วยมหาสมุทรเมื่อประมาณ 335 - 175 ล้านปีที่ผ่านมา แบ่งออกเป็น 2 ส่วนที่แตกต่างกันคือ Laurasia และ Gondwana ต่อมาทั้งสองก็แยกออกจากกันกลายเป็น 7 ทวีป
แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าทวีปต่างๆ จะรวมกันอีกครั้งในช่วงปี 250 - 300 ล้านปีนับจากนี้
8. สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวทำให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งยิ่งใหญ่
นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์แนะนำทฤษฎีการสูญพันธุ์ครั้งยิ่งใหญ่ของสิ่งมีชีวิต ซึ่งกวาดล้างสิ่งมีชีวิตทั่วโลกไปกว่า 90%
โดยแบคทีเรียชื่อ Methanosarcina เกิดขึ้นในมหาสมุทรเมื่อ 252 ล้านปีก่อนมันทำให้เกิดการสูญพันธุ์ของแมลง นอกจากนี้ยังทำให้สายพันธุ์สัตว์ Archosaurs เกิดการพัฒนาอีกด้วย
9. พื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกเป็นพื้นที่มืด
อย่างที่เราทราบกันว่ามหาสมุทรบนผิวโลกมีพื้นที่กว่า 71% และระดับน้ำในมหาสมุทรมีความลึกมากดังนั้นส่วนที่เกิน 200 เมตร แสงแดดจะเข้าไม่ถึง ส่วนที่เหลือของน้ำจึงอยู่ในความมืดตลอด
10. ประเทศเพื่อนบ้านมีความแตกต่างของเวลาได้ตลอด
มีข้อเท็จจริงว่าที่ American Samoa อยู่ห่างไกลจากหมู่เกาะไลน์ ในประเทศคิรีบาสกว่า 2,000 กิโลเมตร แต่ทั้งสองที่มีเวลาต่างกันว่า 25 ชั่วโมงเลยทีเดียว