Red tide ขี้ปลาวาฬ.. ปรากฎการณ์เพรชฆาต

 

ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินั้น เป็นสิ่งที่สวรรค์สร้าง เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาตินับตั้งแต่โลกที่มีสัณฐานค่อนข้างกลมคือ กำเนิดขึ้นตั้งแต่ยุคแรกๆ จนถึงยุคปัจจุบัน  ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเกิดขึ้นมิหยุดหย่อน   มีทั้งที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต และที่ไม่เป็นอันตราย แล้วแต่ลักษณะของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น  
   

ปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ (Red tide) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในทะเล สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วโลก  ไม่เลือกเวลาและสถานที่ จากรายงานทางการสำรวจพบว่า  จะเกิดขึ้นทุกๆปี และบ่อยครั้งมากขึ้น ผลกระทบและความรุนแรงมากขึ้น  แต่ที่ปรากฏในประเทศไทยนั้น พบว่า เกิดขึ้นบริเวณอ่าวตอนในอ่าวไทยบริเวณจังหวัดชลบุรี  ตั้งแต่ชายหาดบางแสนอ่าวอุดม อ่างศิลา ไปจนถึงอำเภอศรีราชา  ระยะเวลาที่เกิดปรากฎการณ์คือ เดือนมิถุนายน – สิงหาคม เป็นช่วงต้นฤดูฝน มีฝนตกติดต่อกันหลายวัน มีเมฆครึ้มในเวลากลางวันและมีคลื่นลมแรง
   สาเหตุและกลไกที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์
   จากการทดลอง  ค้นคว้าและวิจัย  นักวิทยาศาสตร์พบว่า  สาเหตุหรือกลไกสำคัญที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ขึ้น ปลาวาฬที่แท้จริงนั้นไม่สามารถอธิบายได้แน่ชัด  แต่สาเหตุที่พบในประเทศไทยแถบชายฝั่งตะวันออก จังหวัดชลบุรีนั้น  จากการวิจัยพบว่า เกิดจากการเจริญเติบโตและเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็วของ “แพลงก์ตอนพืช” (bloom) เนื่องจากมีปริมาณธาตุอาหารมากและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม แพลงก์ตอนพืช หรือ “ไดโนแฟลกเจลเลต” จำพวก “Noctiluca” สายพันธุ์หนึ่งที่ตายและเริ่มสลายตัว เวลาเกิดเมฆครึ้มหรือคลื่นลมแรง น้ำทะเลจะพัดเอาซากเหล่านี้เข้าสู่ชายฝั่ง
ลักษณะของน้ำทะเล
  

 

เมื่อคลื่นพัดมาเอาซากของ Noctiluca จำนวนมากเข้าสู่ฝั่งน้ำทะเลบริเวณดังกล่าว จะเกิดการเน่าเสีย น้ำทะเลจะมีลักษณะสีเขียวแม้มีเมือกเหนียว มีกลิ่นคาวจัด ออกซิเจนลดลง ค่าแอมโมเนียสูงขึ้นเนื่องจากการใช้ออกซิเจนและการสลายตัวของแพลงก์ตอน คุณภาพน้ำขณะเกิดปรากฏการณ์พบว่า ปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำมีค่าเพียง 0.4 mg/l และค่าแอมโมเนียสูงถึง 1.20 mg/l  เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ปลาและสัตว์บริเวณชายฝั่งตายเป็นจำนวนมาก
•   ไดโนแฟลกเจลเลตหรือ Noctiluca คืออะไร
ได้โนแฟลกเจลเลต คือ แพลงก์ตอนพืชชนิดหนึ่งเป็นสัตว์เซลเดียวแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ แพลงก์ตอนพืชชั้นต่ำ (Procaryotic cell) และแพลงก์ตอนพืชชั้นสูง (Eucaryotic cell)
ทั้งสองชนิดมีลักษณะที่คล้ายกันคือ มีหนวดมากกว่า 1 เส้น ความยาวของหนวดจะเท่ากัน หนวดมีลักษณะเรียบบ้าง มีขนบ้าง มีสารสีประกอบ โครงสร้างภายนอกประกอบด้วยซิลิกาที่ห่อหุ้มผนังเซลล์ อาหารที่สะสมคือ แป้งหรือไพรีนอยด์ เป็นต้น

 

•   ผลกระทบจากปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ
ผลกระทบและความเสียหายจากปรากฏการณ์ดังกล่าว มีผลต่อหลายๆด้านด้วยกันที่พอจะสรุปได้คือ
-  ประชาชนเกิดความวิตกว่าปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ เป็นผลมาจากน้ำมือของมนุษย์ที่ปล่อยน้ำเสียลงทะเล โดยเฉพาะสารพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือเป็นภัยทางธรรมชาติที่ไม่สามารถป้องกันได้ ทำให้เกิดผลกระทบต่อจิตใจและความเชื่อมั่นของประชาชน ที่สำคัญคือ ประชาชนไม่สามารถตรวจสอบปรากฏการณ์ดังกล่าวได้ด้วยตนเอง
-  ผลกระทบต่อระบบนิเวศชายฝั่ง โดยทำให้เรา และสัตว์ทะเลหลายชนิดตายเป็นจำนวนมาก
-  ชายหาดมีความสกปรก มีกลิ่นเหม็น สร้างมลพิษทางอากาศทำให้ระบบการหายใจของประชาชนบริเวณดังกล่าวมีปัญหาต่อสุขภาพ และจิตใจ และทัศนียภาพไม่น่ารื่นรมย์
-  มีผลกระทบต่อการประมงชายฝั่งรวมถึงการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งมีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของชุมชนบริเวณนี้ จากรายงานการวิจัยพบว่า การทำโป๊ะ อวนลาก อวนติดตา เกิดปัญหาจับสัตว์น้ำได้ปริมาณน้อยลง  ส่วนการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง เช่น ฟาร์มเลี้ยง ลูกกุ้งกุลาดำเสียหายนับร้อยราย ทำให้เกิดภาวะขาดทุนเนื่องจากต้องซื้อน้ำจากบริเวณอื่นมาใช้  ส่วนการเลี้ยงปลาในกระชังนั้น ได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง บางรายถึงกับหมดเนื้อ หมดตัวก็มี โดยรวมคิดเป็นความเสียหายหลายสิบล้านบาท
-  ผลกระทบทางด้านการตลาด ประชาชนขาดความมั่นใจในการบริโภคสัตว์ทะเลในระยะดังกล่าว
-  ผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยว เนื่องจากน้ำทะเลสกปรกมีกลิ่นเหม็น จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงส่งผลต่อภาคธุรกิจโดยรวม
จากปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้น่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง เพราะความรุนแรงแต่ละครั้งนำมาซึ่งความเสียหายในด้านต่างๆ ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและสิ่งแวดล้อม ฉะนั้นจึงควรหาวิธีการแก้ไขหรือเตือนภัยก่อนจะเกิดปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ  เพื่อลดความสูญเสียในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอาชีพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งที่ต้องลงทุนลงแรงอย่างมากกว่าจะได้ผลผลิตออกมาขาย



   












 

Credit: http://www.nstda.or.th
10 ก.ค. 53 เวลา 16:47 6,231 5 128
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...