ใกล้กับความจริงมากขึ้นที่หลายคนสงสัยว่าจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวอังคาร บัดนี้เริ่มจะเปิดเผยความจริงออกมาทีละนิดแล้ว
4 พันล้านปีก่อน สิ่งมีชีวิตอาจมีอยู่ทุกหนทุกแห่งบน "ดาวแดง"
นักวิทย์ยุโรปเผยผลศึกษาข้อมูลจากยานสำรวจดาวอังคาร ชี้เคยมีสายน้ำไหลบนพื้นผิวดาวแดงเมื่อ 4 พันล้านปีก่อน ทั้งซีกเหนือและใต้ และอาจเคยมีสิ่งมีชีวิตอยู่ทั่วไปบนดาวเพื่อนบ้าน แย้งผลวิจัยสหรัฐฯ ที่ว่ามีมหาสมุทรใหญ่ปกคลุมดาวอังคารเมื่อ 3.5 พันล้านปีที่แล้ว
ยานสำรวจดาวอังคารมาร์ส เอกซ์เพรส (Mars Express) ขององค์การอวกาศแห่งสหภาพยุโรป หรืออีซา (ESA) และ มาร์ส รีคอนเนสซองซ์ ออร์บิเตอร์ (Mars Reconnaissance orbiters) ขององค์การบริหารการบินอวกาศแห่งสหรัฐฯ หรือนาซา (Nasa) สำรวจพบแร่ไฮเดรต ซิลิเกต (Hydrated silicate) บริเวณพื้นที่ราบลุ่มทางเหนือบนดาวอังคาร ซึ่งชี้ชัดว่าครั้งหนึ่งบริเวณนั้นเคยมีสายน้ำไหลบนดาวแดง และอาจมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ทั่วไป
ฌอง-ปิแอร์ บีบริง (Jean-Pierre Bibring) จากมหาวิทยาลัยปารีส (University of Paris) ประเทศฝรั่งเศส นักวิจัยหลักของโครงการวิจัยเรื่องนี้เปิดเผยว่า เคยมีน้ำอยู่บนพื้นผิวดาวอังคารเมื่อประมาณ 4 พันล้านปีที่แล้ว และปรากฏครั้งสุดท้ายเมื่อไม่กี่ร้อยล้านปีที่ผ่านมา โดยผลการวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารไซน์ (Science) เมื่อไม่นานมานี้
ทั้งนี้ บริเวณที่พบแร่ไฮเดรตซิลิเกตนั้นเป็นแอ่งขนาดใหญ่บนที่ราบทางเหนือของดาวอังคารที่เผยให้เห็นถึงบริเวณที่เป็นเปลือกดาวครั้งโบราณกาลที่เคยมีน้ำอยู่บนพื้นผิว โดยแร่ดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ต้องมีน้ำในสถานะของเหลวมาร่วมทำปฏิกิริยาด้วย
"มันแสดงให้เห็นว่าที่นั่นเคยมีน้ำอยู่ แต่ไม่ได้อยู่ในรูปของมหาสมุทรขนาดใหญ่ ซึ่งเปลือกดาวอังคารมีสารประกอบของน้ำอยู่ในรูปแบบเดียวกันทั้งด้านทิศเหนือและทิศใต้" นักวิจัยกล่าวในเอเอฟพี ซึ่งก่อนหน้านั้นยานสำรวจดาวอังคารของอีซาเคยสำรวจพบแร่ชนิดเดียวกันในบริเวณที่ราบสูงทางตอนใต้ของดาวอังคาร
อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปของนักวิจัยฝรั่งเศสขัดแย้งกับผลการศึกษาของทีมวิจัยสหรัฐฯ ที่ตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ จีโอไซน์ (Nature Geoscience) เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่า เมื่อประมาณ 3.5 พันล้านปีมาแล้ว บนดาวอังคารเคยถูกปกคลุมด้วยมหาสมุทรขนาดใหญ่กินพื้นที่ถึง 1 ใน 3 ของพื้นผิวดาวอังคาร
"ดาวอังคารสูญเสียชั้นบรรยากาศไปเรียบร้อยแล้วเมื่อประมาณ 3.5 พันล้านปีก่อน ทำให้น้ำที่อยู่ในสถานะของเหลวบนพื้นผิวดาวอังคารไม่เสถียร ธารน้ำขนาดใหญ่ที่เคยไหลอยู่บนดาวอังคาร เมื่อเหือดแห้งไป ก็หมายความว่าไม่มีแม่น้ำไปหล่อเลี้ยงมหาสมุทรอีกต่อไป" บีบริง ชี้แจง
นักวิจัยฝรั่งเศสอธิบายต่อว่า หากสภาพแวดล้อมมีความดันและอุณหภูมิที่ไม่ยอมให้น้ำอยู่ในสถานะของเหลวที่สเถียรได้ น้ำบางส่วนจะระเหยเป็นไอ ขณะที่บางส่วนจะซึมลงสู่ใต้ดิน และอาจมีน้ำบางส่วนยังอยู่บนพื้นผิวดินได้เป็นวันหรือเดือน แต่ไม่นานเป็นล้านปี