https://www.meekhao.com/animals/dolphin-in-caribbean-ocean
โลมาคือสัตว์ที่สวยงามของโลกใบนี้ มันน่าเอ็นดูและเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นจนใครก็ต้องตกหลุมรัก แต่ตอนนี้หมีขาวขอบอกว่าเรื่องสะเทือนใจกำลังเกิดขึ้นในทะเลแคริบเบียน ที่ซึ่งโลมากลายเป็นธุรกิจทำเงินมหาศาลและพวกมันก็ต้องพบกับชะตาแห่งโศกนาฏกรรมสุดเศร้า!! ที่ทะเลแคริบเบียน ธุรกิจหนึ่งที่กำลังเฟื่องฟูมากก็คือ ‘การว่ายน้ำกับโลมา’ หรือเรียกอีกอย่างว่า ‘Swim-with-the-dolphin (SWTD)’ ซึ่งมองเผินๆเหมือนไม่มีอันตรายใด และกิจกรรมที่ว่านี้มีตั้งแต่การว่ายน้ำคู่กับโลมา การถ่ายรูป การจับจะงอยปาก หรือหากใครจ่ายเงินเยอะ จ่ายเงินหนัก ก็จะได้สวมบทบาทครูฝึกที่สามารถส่งสัญญาณเรียกโลมาได้ หากแต่เบื้องหลังธุรกิจนี้เปี่ยมไปด้วยความโหดร้ายต่อเผ่าพันธุ์โลมาแบบบาดลึก
CHRISTINA M. RUSSO จากเว็บไซต์ Dodo ได้ลงไปเจาะประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด และได้พบความจริงที่น่าตกใจจากปากของครูฝึกโลมารายหนึ่งที่ทำงานให้ ‘โลมาอะควาเรี่ยมหรู’ ที่คอยบริการให้เหล่าเศรษฐี “ตอนนี้โลมาจำนวนมากถูกต้อนอยู่ในกรงและพวกมันกำลังเปลี่ยนไป” เขาเริ่มเล่า “โดยปกติจุดพักของเหล่าโลมามักจะมีความหนาแน่นที่จุได้ถึง 40 ตัว และสภาพการกักขังอันแออัดทำให้คุณภาพชีวิตของมันตกต่ำ ความสะอาดของน้ำเปลี่ยนไป และโลมาบางตัวถึงขั้นตาบอดจากสภาพชีวิตแบบนี้…ที่น่าเศร้าคือโลมาอะควอเรียมหลายแห่งไม่มีแม้แต่สัตวแพทย์คอยกำกับอย่างใกล้ชิดด้วยซ้ำ นอกจากนี้พวกมันยังเผชิญกับภาวะที่เรียกว่า ‘Psychosis’ หรือสภาพที่ต้องถูกบังคับให้ว่ายในที่แแคบ พร้อมกับรับฟังสัญญาณฝึกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเกิดสภาวะเครียด โดยอาการดังกล่าวสามารถทำให้โลมาเหล่านี้กลายเป็นตัวดุร้าย บางทีมันฉุนเฉียวจนกระแทกถังอาหารของครูฝึกกระเด็นหลุดมือเลยล่ะครับ” ผู้ฝึกเปิดใจ
แต่ที่น่าเศร้ากว่าเห็นจะเป็นโศกนาฏกรรมหนึ่งที่กำลังเกิดกับโลมาเหล่านี้ โดยครูฝึกผู้คลุกคลีในวงการธุรกิจเผยว่า “ตอนนี้มีปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่น่าสะพรึงกลัว โดยเมื่อไหร่ก็ตามที่มีลูกโลมาถือกำเนิด พวกมันจะเข้าไปรุมปัดป้องไม่ให้ลูกโลมาตัวนั้นโผล่ขึ้นไปหายใจที่ผิวน้ำได้ หรือพูดง่ายๆว่าแม่โลมาเหล่านี้พยายามสังหารลูกตัวเอง เพราะไม่อยากให้ลูกน้อยเหล่านั้นต้องเกิดมาเผชิญกับสภาวะการกักขังที่โหดดั่งตกนรกทั้งเป็น” อย่างไรก็ตามองค์กรอย่าง World Animal Protection ก็พยายามสู้เรื่องนี้มาหลาย 10 ปี แต่ทุกอย่างก็ดูจะไร้ผล และธุรกิจเอาใจเศรษฐีนี้ก็ยังดำเนินต่อไป โดยนับวันธุรกิจ ‘การว่ายน้ำกับโลมา (SWTD)’ มีแต่จะเติบโตขึ้นราวดอกเห็ด เนื่องจากธุรกิจเรือสำราญที่บริการนักท่องเที่ยวเฟื่องฟูขึ้นไม่หยุด ฉะนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวเพิ่มปริมาณโลมาก็ต้องเพิ่มตาม ทุกวันนี้โลมาจำนวนมากถูกไล่จับไล่ต้อนเข้าแหแบบไม่ใยดี ก่อนส่งตัวมาซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเพศเมีย เนื่องจากฝึกง่ายกว่า
ซึ่งหากมองภาพรวม เรื่องที่กำลังเกิดขึ้นกับโลมาในทะเลแคริบเบียนนับว่าเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าสะเทือนใจมาก เพราะ ณ เขตแดนแห่งนั้น ดูเหมือนว่าผลประโยชน์และความร่ำรวยกำลังทำให้เผ่าพันธุ์โลมาสูญสิ้นไปซึ่งอิสระและความสุขแบบตลอดกาล และไม่แน่ว่าการคุกคามนี้อาจลุกลามออกไปไม่สิ้นสุด
ที่มา: Businessinsider