ในเดือนตุลาคม 2015 เธอป่วยเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Spinal Viral Menุingitis) โดยเธอคาดว่าเธอติดโรคนี้มาจากหลุยเซียน่าเพราะตอนนั้นเธอไม่ได้ฉีดสเปรย์กันยุงทำให้เธอถูกยุงกัดกว่า 200 ตัว หังจากนั้นสองวันต่อมาเธอก็ล้มป่วยลงและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนาน 2 เดือน แถมตลอดเวลาเธอเปลี่ยนโรงพยาบาลมาแล้วกว่า 5 โรงพยาบาล
เธอเปิดเผยว่าช่วงเวลาที่เธอป่วยนั้นมันเป็นช่วงที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตเธอเลย แต่เธอได้รับความรักและการเอาใจใส่จากสามี ครอบครัว และเพื่อนทำให้เธอกลับมาเป็นปกติได้
แต่ตอนที่เธอป่วยนั้นเธอต้องทนต่อสู้กับความเจ็บปวดในร่างกายจนกลายเป็นภาวะซึมเศร้า วิตกกังวลและตื่นตระหนก ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะวาดภาพเพื่อเป็นการบำบัด และภาพที่เธอวาดนั้นเป็นภาพที่สื่อให้เห็นความเจ็บปวดทุกข์ทรมานตอนที่เธอป่วย ทั้งเธอยังสร้างภาพวาดไว้เพื่อเตือนตัวเองว่าเคยเจ็บปวดมากเพียงใด
นี่คือภาพตอนที่เธอป่วย สามีของเธอนอนเฝ้าเธอในโรงพยาบาลเเละคอยให้กำลังใจเธอเสมอ
มันเป็นโรคที่สร้างความเจ็บปวดทรมานเป็นอย่าางมาก และมันเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตของเธอ
และนี่คือภาพที่เธอวาดเพื่อแสดงให้เห็นความรู้สึกที่แท้จริงของเธอ
ผลจากการรักษาด้วยการฉีดยาในแต่ละครั้ง
เธอต้องทนเจ็บปวดจนกลายเป็นภาวะซึมเศร้า เธอรู้สึกหดหู่ พ่ายแพ้ และเจ็บปวด
จนเธอทำร้ายตัวเองซึ่งเป็นผลมาจากภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล
และ The Butterfly Project เป็นโครงการวาดภาพที่ช่วยบำบัดให้เธออาการดีขึ้น
และถึงแม้ว่าอาการของเธอเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่เธอก็ยังจะวาดภาพต่อไปเพราะเธอยังคงต้องต่อสู้กับภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล
มันเป็นภาพวาดที่แสดงให้เห็นส่วนหนึ่งของความคิดและความรู้สึกภายในของเธอ มันน่าหดหู่มากเลยทีเดียว