มีข้อมูลมากมายที่เราได้รับมาและเราก็เชื่อมาตลอดว่ามันคือความจริง แต่แท้จริงแล้วข้อมูลที่คุณรู้มันอาจจะผิดอยู่ก็ได้ และนี่คือ 6 ข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์ที่หลายคนถูกโกหกมาทั้งชีวิต เพราะแท้จริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลยสักนิด
1. นโปเลียนและจมูกของสฟิงซ์
The Great Sphinx in Giza เป็นที่รู้กันดีว่าไม่มีจมูก ตำนานกล่าวว่ากองทัพของนโปเลียนทำลายส่วนนี้ทิ้งในระหว่างการสู้รบกับพวกเติร์กเมื่อปี 1798
แต่น่าแปลกที่ Frederic Norden นักเดินทางชาวเดนมาร์กได้จดข้อมูลและวาดภาพของสฟิงซ์ที่ไม่มีจมูกไว้ตั้งแต่ปี 1737 แล้ว
2. แวนโก๊ะและหูของเขา
เรื่องราวของศิลปินของโลกที่ถูกกล่าวหาว่าเขาตัดหูของเขาแล้วส่งไปให้กับคนที่เขารัก มันเป็นการพูดเกินจริงเพราะแท้จริงแล้วเขาเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากเขาทะเลาะกับเพื่อนของเขา Paul Gauguin
โดยแวนโก๊ะโจมตี Paul Gauguin ด้วยมีดโกน และนักวิจัยบางคนเชื่อว่าเขาอาจเกิดความรู้สึกสำนึกผิดเลยตัดหูของเขาในคืนเดียวกัน และเขาไม่ได้ตัดทั้งหูทิ้งแต่ตัดส่วนปลายเพียงนิดเดียวเท่านั้น
3. หมวกของไวกิ้ง
เราอาจเคยเห็นหมวกไวกิ้งตามภาพยนตร์และการ์ตูน แต่นักโบราณคดีกลับยังไม่สามารถบอกได้ว่ารูปร่างที่แท้จริงของหมวกนั้นเป็นอย่างไรกันแน่ โดยหมวกนี้ถูกพบในสุสานและมันถูกใช้ในพิธีการไม่ใช่การสู้รบ นอกจากนี้ยังใช้มาตั้งแต่ยุคสำริดก่อนพวกไวกิ้งเสียอีก
4. สโตนเฮนจ์
มันเป้นหนึ่งในสถานที่ลึกลับของโลกและมักจะมีสมมติฐานหรือทฤษฎีใหม่เกิดขึ้นประจำเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่สมัยก่อนนั้นมันไม่ค่อยจะเหมือนปัจจุบันสักเท่าไหร่
โดยในปี 1901 William Gowland ได้ทำการฟื้นฟูอนุเสาวรีย์สโตนเฮนจ์ และภาพถ่ายล่าสุดอาจพิสูจน์ให้เห็นได้ว่ามันแตกต่างจากสมัยโบราณมาก
5. การค้นพบอเมริกา
ในวิชาประวัติศาสตร์เราอาจเรียนมาว่า Christopher Columbus เป็นคนค้นพบอเมริกาในปี 1492 แต่แท้จริงแล้วชาวยุโรปที่เดินทางไปยังโลกใหม่คือพวกไวกิ้งเมื่อปลายศตวรรษที่ 10 นั่นทำให้เกิดการผสมทางพันธุกรรมขึ้นเป็นครั้งแรก
6. บทกวีของ Ossian
James McPherson เป็นกวีชาวสก็อตแลนด์เขาเป็นคนแปลบทกวีของ Ossian เป็นกวีเซลติคจากศตวรรษที่ 3 ของเกลิค แต่น่าแปลกที่ไม่มีใครค้นพบต้นฉบับของกวีเลยและมันยังคงเป็นเรื่องลึกลับจนทุกวันนี้